7 ข้อต้องรู้! 'อุซเบกิสถาน' ด่านหิน ทีมชาติไทย ก่อนบู๊เดิมพันตั๋ว 8 ทีมเอเชียนคัพ

ผลงานใน เอเชียน คัพ, สไตล์การเล่น, เฮดโค้ช, ทีมชุดปัจจุบัน, นักเตะเด่น, นักเตะน่าจับตามองและเกร็ดน่ารู้เรื่องอื่นๆ 'SIAMSPORT' ขอแนะนำคุณผู้อ่านให้รู้จักกับทีมชาติ 'อุซเบกิสถาน' เพิ่มมากยิ่งขึ้น!!

เอเชียน คัพ 2023 รอบ 16 ทีม สุดท้าย อุซเบกิสถาน พบไทย วันอังคารที่ 30 มกราคม 2023 เวลา 18:30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง PPTV HD36 และ T Sports 7 

[ 1 ] ผลงานใน เอเชียน คัพ

ด้วยความที่อุซเบกิสถาน แยกตัวออกมาจากสหภาพโซเวียต ในปี 1992 ทำให้กว่าที่พวกเขาจะมีส่วนร่วมกับวงการลูกหนังทั้งในและนอกทวีปเอเชีย ก็ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรทีเดียว

อย่างไรก็ตาม สำหรับ เอเชียน คัพ ที่จะเป็นน้องใหม่ใสกริ๊ง แต่ขุนพลหมาป่าขาวแห่งทูราเนียนส์ ก็ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายทุกครั้ง แบบไม่เคยขาด นับตั้งแต่ปี 1996 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่สูงมากๆ 

เท่านั้นไม่พอ ในทัวร์นาเมนต์เมื่อปี 2004 ที่ประเทศจีน ตลอดเรื่อยมาจนถึง 2019 ณ กาตาร์ - อุซเบกิสถาน ไม่เคยตกรอบแบ่งกลุ่มเลยสักครั้งเดียว แถมปี 2011 ยังผงาดคว้าอันดับ 4 ได้อีกต่างหาก

มาตรฐานการเล่นของพวกเขาค่อยๆ ขยับขึ้นสูงขึ้นในทุกๆ ปี และการรั้งอันดับ 68 ของ ฟีฟ่า แรงกิ้ง (อันดับที่ 9 เอเชีย) คือเครื่องการันตีอย่างดีถึงคุณภาพที่มี แม้ว่าชื่อชั้นอาจจะดูด้อยกว่าชาติใหญ่ๆ แต่รับประกันเลยว่าในทวีป ไม่มีทีมใดกล้าประมาททัพหมาป่าขาวแห่งทูราเนียนส์แน่นอน

[ 2 ] สไตล์การเล่น

อุซเบกิสถาน คือทีมที่อุดมไปด้วยผู้เล่นที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ทว่าพวกเขาไม่ได้เชื่องช้าไปตามสัดส่วน หากแต่ยังมีความสามารถเฉพาะตัวค่อนข้างสูง ดังนั้นมันจึงง่ายต่อการที่โค้ชจะใส่แท็กติกต่างๆ ลงไป

นอกเหนือไปจากทักษะที่ยอดเยี่ยม เรื่องของเซ้นส์ฟุตบอลของนักเตะหมาป่าขาวแห่งทูราเนียนส์เองก็จัดอยู่ในระดับแนวหน้าของทวีป การไม่แพ้ใครใน 10 เกม หลังสุด (รวมทุกรายการ) โดยเฉพาะการเสมอเม็กซิโก, อิหร่าน และออสเตรเลีย ซึ่งอันดับโลกสูงกว่า คงจะบ่งชี้ได้ชัดเจนว่าแข็งแกร่งเพียงใด

พวกเขาเล่นกันอย่างมีระเบียบวินัย ซึ่งด้วยสรีระที่ได้เปรียบนั่นเอง ทำให้พอมาเจอทีมในเอเชีย อุซเบกิสถาน จึงสามารถต่อกรได้กับทุกชาติที่เผชิญหน้า

[ 3 ] เฮดโค้ช

สเร็คโก้ คาตาเนช หนึ่งในตำนานนักเตะของสโลวีเนีย แต่ก็ยังเคยเล่นให้ยูโกสลาเวีย ยุคทศวรรษที่ 80' พร้อมรางวัลการันตีความสำเร็จในระดับสโมสร โดยเฉพาะสมัยค้าแข้งกับ ซามพ์โดเรีย ที่เคยสัมผัสแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา มาแล้ว

พอผันตัวสู่งานโค้ช อดีตกองหลังคนนี้เคยคุมสโมสรในสโลวีเนีย และทีมชาติชุดใหญ่ ก่อนจะไปต่อที่ โอลิมเปียกอส หนึ่งในบิ๊กทีมของกรีซ

อย่างไรก็ตาม พอหมดจาก โอลิมเปียกอส เขาก็รับงานทีมชาติล้วนๆ ไล่ตั้งแต่มาซิโดเนีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลับมาสโลวีเนีย อีกหน แล้วไปต่อที่อิรัก กระทั่งมาอุซเบกิสถาน เมื่อปี 2021 ถึงปัจจุบัน

ด้วยความที่อยู่กับทีมมานานพอสมควร ดังนั้นเขาจึงรู้จักนักเตะในทีมเป็นอย่างดี แถมมีเปอร์เซ็นต์ชนะถึง 61.3 เปอร์เซ็นต์ และนี่คือข้อได้เปรียบที่อาจจะนำทัพหมาป่าทูราเนียนส์ไปถึงฝั่งฝันในฐานะ "ม้ามืด" ของ เอเชียน คัพ 2023

[ 4 ] ทีมชุดปัจจุบัน

น่าเสียดายมากๆ ที่อุซเบกิสถาน ไม่มี เอลดอร์ โชมูโรดอฟ หัวหอกกัปตันทีมที่ไม่ได้ตะลุยกาตาร์ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม รวมไปถึง ฮุสนิดดิน อลิคูลอฟ ปราการหลังตัวกลางที่หลุดโผด้วยเหตุผลเดียวกัน

2 คนนี้คือผู้เล่นหลักที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาตลอดยามรับใช้ชาติ โดยเฉพาะรายหลังที่เก่งกาจถึงขั้นโลดแล่นในลีกอิตาลี มาแล้วหลายปีดีดัก 

นอกจากนี้ อิกอร์ เซอร์เกเยฟ ศูนย์หน้าที่ค้าแข้งอยู่ที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็ดันมาเจ็บเพิ่มไปอีกรายระหว่างทัวร์นาเมนต์ มันจึงทำให้ขุมกำลังที่มีอยู่ ถูกลดทอนในเรื่องประสิทธิภาพไปมากทีเดียวในแง่ของเกมรุก

อย่างไรก็ตาม ยาโลลิดดิน มาชาริปอฟ ปีกหมายเลข 10 นั้นยังอยู่ และหมอนี่คือตัวความหวังสูงสุดของอุซเบกิสถาน ณ ตอนนี้ พ่วงด้วย โอตาเบ็ค ชูคูรอฟ มิดฟิลด์ที่ค้าแข้งในตุรกี อีกราย ที่พอจะไว้เนื้อเชื่อใจได้ 

รวมไปถึง 2 ดาวรุ่งของเอเชีย อย่าง อับดูโคดีร์ คูซานอฟ เซนเตอร์ฮาล์ฟอนาคตไกลวัย 19 ปี ที่เล่นให้ ล็องส์ ในฝรั่งเศส กับ อับบอสเบ็ค ฟายซุลลาเยฟ ปีกตัวจี๊ดของ ซีเอสเคเอ มอสโก สโมสรยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย

[ 5 ] นักเตะเด่น

จากการที่ไม่มี เอลดอร์  โชมูโรดอฟ รวมทั้งยังต้องมาเสีย อิกอร์ เซอร์เกเยฟ ไปอีกราย ทำให้ความหวังของอุซเบกิสถาน มาตกอยู่กับ ยาโลลิดดิน มาชาริปอฟ แนวรุกเท้าตะขอที่มีทีเด็ดในเรื่องการจ่ายบอลแบบคิลเลอร์พาสและการหาจังหวะจบสกอร์ได้ดี

ปีกวัย 30 ปี คนนี้โดดเด่นในเรื่องการลากเลื้อย เขาสามารถแหวกกองหลังได้ทีละ 2-3 คน โดยไม่หวั่นเกรง เพราะสเต็ปฟุตบอลของหมอนี่เหลือร้าย และวันใดที่ท็อปฟอร์ม ก็ยากที่จะหยุดเขาได้จริงๆ

[ 6 ] นักเตะน่าจับตามอง

อุซเบกิสถาน ชุด เอเชียน คัพ 2023 มีนักเตะดาวโรจน์อยู่ในทีมหลายราย ไล่ตั้งแต่ ออสตอน ยูรูนอฟ กับ อับบอสเบ็ค ฟายซุลลาเยฟ สองปีกจอมพลิ้ว รวมไปถึง โคยีมัต เออร์คินอฟ ห้องเครื่องคนสำคัญที่ถูกทีมในลีกรัสเซีย เซ็นสัญญา ก่อนจะปล่อยให้ ปัคตากอร์ ทาชเคนต์ ใช้งาน 

ทว่าคนที่โดดเด่นที่สุด คงหนีไม่พ้น อับดูโคดีร์ คูซานอฟ ปราการหลังวัย 19 ปี ที่กำลังเจิดจรัสกับ ล็องส์ ในฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่อายุเพียงน้อยนิด แต่กลับยึดตำแหน่งตัวหลักได้ และการที่ทัพหมาป่าแห่งทูลาเนียนส์ คว้าแชมป์เอเชีย รุ่นยู-20 ได้สำเร็จเมื่อปีที่ผ่านมา ก็เพราะมีเขายืนปักหลักในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟนั่นเอง

[ 7 ] เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • ก่อนหน้านี้ ไทย กับอุซเบกิสถาน เคยเจอกันมาทั้งหมด 11 เกม และมันน่าทึ่งมากๆ ที่ทั้งสองทีมไม่เคยเสมอกันเลยสักหน โดยทัพช้างศึกเป็นรองเล็กน้อยด้วยสถิติชนะ 5 กับแพ้ไป 6 นัด
  • หนล่าสุดที่ทั้งสองทีมพบกันคือ เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก โดยเกมนั้นอุซเบกิสถาน เอาชนะไทย ไปด้วยสกอร์ 2-0
  • ครั้งสุดท้ายที่ไทย เอาชนะอุซเบกิสถาน ได้สำเร็จคือ คิงส์ คัพ เมื่อปี 2007 โดยเฉือนไป 3-2 จากการยิงของ ศรายุทธ ชัยคำดี (2 ประตู) และ ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์  
  • ไทย กับอุซเบกิสถาน ไม่เคยเผชิญหน้ากันใน เอเชียน คัพ รอบสุดท้าย
  • ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู) คือนักเตะที่อายุมากที่สุดของไทย ชุดนี้ (39 ปี) ส่วนอุซเบกิสถาน มีสองคนคือ อุตกีร์ ยูซูปอฟ (ผู้รักษาประตู) และ ฟาร์รุคห์ ซายฟีเยฟ (แบ็กซ้าย) ที่อยู่ในวัย 33 เท่ากัน
  • ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย สองกองหน้าคือนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของไทย ชุดนี้ (21 ปี) ขณะที่อุซเบกิสถาน มี อับดูโคดีร์ คูซานอฟ เซนเตอร์ฮาล์ฟอนาคตไกลวัย 19 ปี ที่เล่นให้ ล็องส์ ในฝรั่งเศส
  • สุภโชค สารชาติ, ธีราทร บุญมาทัน และ ศุภชัย ใจเด็ด คือดาวซัลโวของฝั่งไทย (7 ประตู) ส่วนทางอุซเบกิสถาน มี อิกอร์ เซอร์เกเยฟ ที่ซัดไป 19 ลูก แต่ดันได้รับบาดเจ็บระหว่างทัวร์นาเมนต์ ทำให้ ยาโลลิดดิน มาชาริปอฟ (11 ประตู) ขึ้นมาแทน
  • ทีมชาติไทย ชุดนี้มาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี มากที่สุด ด้วยจำนวน 5 คน 
  • ขณะที่อุซเบกิสถาน นั้นขนขุนพลของ ปัคตากอร์ ทาชเคนต์ แชมป์ลีกในประเทศซีซั่น 2023 มาถึง 7 ราย
  • ทีมชาติไทย มีนักเตะ 4 ราย ที่ค้าแข้งต่างแดน ได้แก่ นิโคลัส มิคเคลสัน (โอบี โอเดนเซ่, เดนมาร์ก), ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (โอเอช ลูเวิน, เบลเยียม), เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด, อินโดนีเซีย) และ สุภโชค สารชาติ (คอนซาโดเล่ ซัปโปโร, ญี่ปุ่น) 
  • ส่วนฝั่งอุซเบกิสถาน นั้นเล่นนอกประเทศ 9 คน โดยแบ่งเป็นฝรั่งเศส (1), รัสเซีย (2), ตุรกี (1), กรีซ (1), คาซัคสถาน (2), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (1) และไทย (1)
  • ชุดแข่งของพวกเขาคือยี่ห้อ ยาโค (JAKO) แบรนด์กีฬาประเทศเยอรมัน โดยชาติที่ใช้ผลิตภัณฑ์เดียวกันนี้มีทั้ง นอร์ธมาซิโดเนีย, มอลโดว่า และเติร์กเมนิสถาน ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศ CIS (The Commonwealth of Independent States) หรือกลุ่มประเทศที่เกิดจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต นั่นเอง
  • ช่วง 3-4 ปีหลังสุด มีผู้เล่นระดับทีมชาติอุซเบกิสถาน มาค้าแข้งในเมืองไทย พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น อาร์ตยอม ฟิลิโปสยาน (ประจวบ เอฟซี 2019 และ 2021), อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2020) และ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ (เมืองทอง ยูไนเต็ด 2020-23) และ ล่าสุดคือ อิกอร์ เซอร์เกเยฟ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2023-ปัจจุบัน)
  • ในปี 1994 ที่อุซเบกิสถาน ได้เหรียญทอง เอเชียนเกมส์ - รอบแรกพวกเขาอยู่ร่วมกลุ่มกับทีมชาติไทย ที่มี เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน (ธชตวัน) ศรีปาน, ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล และ ดุสิต เฉลิมแสน เป็นกำลังหลักของทัพช้างศึกในตอนนั้น
  • เอเชียนเกมส์ 1994 หนนั้น ไทย จบด้วยอันดับสุดท้ายของกลุ่ม โดยแพ้ให้อุซเบกิสถานไปหวุดหวิด 4-5
  • ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2006 ไปถึงมกราคม 2007 อุซเบกิสถาน เคยขึ้นไปอยู่อันดับสูงสุดใน ฟีฟ่า แรงกิ้ง คืออันดับที่ 45 

ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport