ชีวิตลิขิตเองของ "กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล"

ในแง่มุมที่มืดมนกับผลงานของทีมชาติไทย ที่ปราชัยต่อจอร์เจีย เละตุ้มเป๊ะ 0-8 ยังมีข้อดีอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการได้เห็นความใจสู้ของนักเตะที่พยายามอย่างเต็มที่หรือแม้แต่กระทั่งได้พบการทำงานรูปแบบใหม่ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการลูกหนังสยามประเทศที่สร้างความสะเทือนไปทั้งโลกออนไลน์

   อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งเรื่องดีๆ กับความพ่ายแพ้คือฟอร์มการเซฟของ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ผู้รักษาประตูวัย 31 ปี จาก ราชบุรี เอฟซี ที่ทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อช่วยให้ทัพช้างศึกอับอายน้อยที่สุด

   นี่คือการลงเฝ้าเสาให้ทีมชาติเป็นนัดที่ 7 ในชีวิต

   แต่กว่าที่เด็กหนุ่มจากภูเก็ต จะก้าวมาถึงจุดนี้นั้นไม่ง่ายเลย เขาต้องอดทนอย่างหนักหน่วงในช่วงเริ่มต้น กระทั่งพัฒนาตนเองจนมายืนอยู่แถวหน้าของผู้รักษาประตูสัญชาติไทย

   กัมพล เริ่มสร้างชื่อกับโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว สถาบันศึกษาชื่อดังของกรุงเทพมหานคร ก่อนจะถูก เมืองทอง ยูไนเต็ด จับเซ็นสัญญาในเมื่อปี 2011

   ทว่าห้วงเวลานั้นกิเลนผยองมีผู้รักษาประตูที่ชื่อ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยืนจังก้าระหว่างเสา มันจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสอดแทรกลงสนาม ว่าแล้วจึงถูกปล่อยตัวไปให้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด (2011) และ ภูเก็ต เอฟซี (2012) ยืมตัวแบบรายปี

   ซีซั่น 2013 กัมพล กลับมาประจำการที่ เมืองทอง อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่อาจสอดแทรกได้เช่นเคย และก็เช่นเดิม กิเลนผยองปล่อยเขาไปให้ นครราชสีมา เอฟซี ใช้งาน แต่หนนี้ยาวนานหน่อย เพราะอยู่ถึง 3 ฤดูกาลเลยทีเดียว

   ในวัย 22 เขากลายเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ทำให้ทีมแมวพิฆาตเลื่อนชั้นจาก ดิวิชั่น 1 (ไทยลีก 2 ในปัจจุบัน) สู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ 

   ผลงานของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหนึ่งในทวารที่น่าจับตามองมากที่สุดของประเทศ แม้รูปร่างจะไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกัน แต่สิ่งที่ กัมพล เหนือกว่าคนอื่นๆ คือ 'ความนิ่ง' 

   จอมหนึบชาวภูเก็ต เป็นผู้รักษาประตูที่มีสมาธิกับเกมสูง เขาอ่านจังหวะบอลตลอดเวลา และด้วยความที่มีปฏิกิริยาชั้นเลิศ มันจึงทำให้ได้เห็นลูกเซฟมหัศจรรย์จากหมอนี่อยู่เป็นประจำ

   อย่างไรก็ตาม แม้ผลงานจะเจิดจรัสเพียงใด กัมพล ก็ยังไม่ได้เป็นตัวเลือกเบอร์แรกๆ ของ เมืองทอง ซึ่งเป็นต้นสังกัดที่แท้จริงสักที เพราะพอปี 2017 ก็ถูกปล่อยไปให้ โปลิศ เทโร เอฟซี ยืมตัวอีกเช่นเคย

   ทว่ากับมังกรโล่เงินหนนี้ ฟอร์มของเขาเด่นจัดชัดแจ๋ว กระทั่งถูก มิโลวาน ราเยวัช เรียกตัวไปซ้อมกับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ แม้จะไม่ได้เล่น แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ซึมซับประสบการณ์อันล้ำค่ากับแคมป์ช้างศึก และมันคือ 'กำลังใจ' ชิ้นโตให้ต่อสู้เพื่อวันต่อๆ ไป

   ฤดูกาล 2018 เหมือนจะถึงคราวของเขากับ เมืองทอง สักที เพราะกิเลนผยองไม่มี กวินทร์ ที่บินไปโลดแล่นกับ โอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยียม

   บนวัย 26 ปี มันอาจจะถึงทีที่ กัมพล จะเฉิดฉาย และด้วยประสบการณ์กับ อาร์มี่, ภูเก็ต, นครราชสีมา และ โปลิศ เทโร ก็น่าจะทำให้เขาพร้อมแล้วที่จะสร้างชื่อให้ระบือนาม

   คู่แข่งของเขามีเพียง ประสิทธิ์ ผดุงโชค มือกาวจอมเก๋าคนเดียวเท่านั้น แต่ด้วยแรงกดดันมหาศาล เพราะคนเก่าอย่าง กวินทร์ นั้นดันสร้างมาตรฐานไว้สูงลิ่ว ในที่สุด ทั้งคู่ก็ไม่อาจต้านทานได้ 

  ซีซั่น 2019 กัมพล ต้องโยกไป ชลบุรี เอฟซี ในรูปแบบของการยืมตัวอีกครั้ง พอเลกที่สองของปีเดียวกันก็ย้ายสู่ สมุทรปราการ ซิตี้ และตามด้วย ระยอง เอฟซี ในฤดูกาลถัดมา

   เท่ากับว่าระยะเวลา 10 ปี ที่เขาอยู่ใต้ชายคา ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม - เจ้าตัวต้องจรลีไปถึง 7 สโมสรเลยทีเดียว

   สัญญาของ กัมพล กับ เมืองทอง สิ้นสุดลงในปี 2020 และนั่นทำให้ย้ายได้อย่างอิสระ และแน่นอนว่ามีหลายทีมที่ต้องการผู้รักษาประตูคนนี้ไปเฝ้าเสา แต่ที่สุดแล้วเขาเลือก ราชบุรี ที่เวลานั้นมีทั้ง อุกฤษณ์ วงศ์มีมา ที่ครองมือหนึ่งให้ทัพราชันมังกรมานาน รวมไปถึง ทศพร ศรีเรือง อีกนายทวารชั้นนำของประเทศ อยู่ในสโมสร

   การเดินทางครั้งใหม่ของเขาจึงเริ่มต้นในปี 2021

   กัมพล ต่อสู้อย่างหนักจนได้รับเลือกให้เป็นมือหนึ่งของ ราชบุรี เหนือ อุกฤษณ์ เจ้าของพื้นที่เดิม และเพียงไม่นาน เขาก็โชว์ฟอร์มได้ประทับใจ โดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021-22 ที่เซฟยับกว่า 35 ครั้ง (หนึ่งในนั้นมีจุดโทษด้วย) จนเป็นสถิติสูงสุดของรอบแบ่งกลุ่ม

   ผลงานของมือกาวชาวภูเก็ตพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ กับต้นสังกัดก็มาตรฐานสูง ไม่พลาดง่ายๆ, มีช็อตป้องกันแบบเหลือเชื่อ, ลูกเท้าก็ดี และที่สำคัญคือการทำให้เพื่อนร่วมทีมอุ่นใจนั่นเอง

   ด้วยสิ่งที่สั่งสมมา ในที่สุดประตูทีมชาติก็เปิดกว้างสำหรับเขา - อเล็กซานเดร โพลกิ้ง จัดการเรียก กัมพล เข้ามาติดทัพช้างศึก และใน อาเซียน คัพ 2022 เจ้าตัวก็มีส่วนสำคัญกับแชมป์ในปีนั้น เพราะลงเล่นในรอบรองชนะเลิศ-ชิงชนะเลิศที่พบกับเวียดนาม และมาเลเซีย

   วันเวลาผ่านไป เขายังคงรักษามาตรฐานของตนเองอย่างต่อเนื่อง และผลงานในเกมกับจอร์เจีย ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นยอดถึงความทุ่มเทที่ กัมพล พยายามอย่างหนักหน่วงที่จะรักษาหน้าให้ทีมชาติไทย ไม่ถูกเจาะตาข่ายเยอะกว่า 8 ประตู

   14 ครั้ง คือจำนวนที่เขาช่วยป้องกันในเกมนี้ ส่วนทุกลูกที่เสียไป มันสุดปัญญาที่จะทานไหวจริงๆ

   กัมพล เป็นหนึ่งในแสงสว่างยามมืดมิดของทัพช้างศึก แต่กว่าที่เขาจะเดินทางมาถึงจุดนี้นั้นไม่ง่ายเลย เพราะต่ออดทนกับการเป็นตัวเลือกรองๆ มาโดยตลอด

   ทว่า ณ ปัจจุบัน ไม่ว่า ฉัตรชัย บุตรพรม, ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ปฏิวัติ คำไหม, สมพร ยศ และ สรานนท์ อนุอินทร์ คงจะต้องร้อนๆ หนาวๆ บ้างแล้วล่ะ เพราะฟอร์มอันยอดเยี่ยมของมือหนึ่งจาก ราชบุรี

   ชีวิตลิขิตเองของ กัมพล


ที่มาของภาพ : เพจ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport