5 ข้อหลังเกมช้างศึกเชือดดาวทอง

ทีมชาติไทย คว้าแชมป์ อาเซียน คัพ 2022 ได้ตามเป้าหมาย ด้วยการเอาชนะเวียดนาม คู่รัก-คู่แค้นไปด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-2 พร้อมประกาศศักดาการเป็นเบอร์หนึ่งของภูมิภาคนี้อีกครั้ง ทว่าระหว่างการแข่งขันมีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง และนี่คือสิ่งที่ 'SIAMSPORT' อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!!

[ 1 ] ฟุตบอลสมัยใหม่พาคว้าชัย

   นับตั้งแต่ ไทยลีก เป็นลีกอาชีพแบบเต็มตัว พัฒนาการของลูกหนังไทย ก็เป็นไปในทิศบวกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะรูปแบบการเล่นที่ก้าวตามประเทศอื่นๆ แบบจับต้องได้ 

   โค้ชต่างชาติฝีมือดีและผู้เล่นนำเข้าที่มีคลาส ทำให้ ไทยลีก ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการที่นักเตะชาวสยามได้ลับแข้งกับคนเก่งๆ ส่งผลให้ฝีเท้ารุดหน้าอย่างรวดเร็ว

   เมื่อฟุตบอลภายในเติบใหญ่ ทีมชาติไทย จึงได้ประโยชน์ตามไปด้วย เพราะการแข่งขันที่สูงของลีก ส่งผลให้ผู้เล่นได้เรียนรู้อะไรหลายๆ สิ่งที่แปลกใหม่และทันสมัย ตามโลกได้ทันท่วงที

   ขณะที่เวียดนาม นั้นต้องยอมรับว่าพวกเขาทำผลงานได้ดีในรอบหลายปีหลัง ด้วยมันสมองของ พัก ฮัง-ซอ และความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังของสมาคมฟุตบอลของพวกเขาที่ให้การสนับสนุนแบบเต็มเหนี่ยว

   ทว่าสไตล์การทำทีมของเทรนเนอร์ชาวเกาหลีใต้ นั้นเน้นไปในเรื่องของพละกำลัง, เล่นอย่างมีวินัย รวมไปถึงแท็กติกที่เน้นผลการแข่งขัน มากกว่าอาศัยเกมรุกและการสร้างสรรค์ด้วยจินตนาการ

   แน่นอนว่าถ้าทุกอย่างลงล็อก ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่ง การเล่นในลักษณะนี้ก็ไปได้สวยเช่นกัน แต่สิ่งที่มันขาดหายไปคือ 'เสน่ห์' ของฟุตบอลที่ทำให้กลายเป็นทีมน่าเบื่อ อีกทั้งยังถูกจับทางได้ง่ายว่าจะมาไม้ไหน

   วันเวลาผันผ่าน แท็กติกของ ฮัง-ซอ เริ่มถูกอ่านออก ซึ่งเหตุนี้เอง น่าจะทำให้เขาตัดสินใจไม่ไปต่อกับเวียดนาม เพราะไอเดียตีบตันเสียแล้ว

   เช่นเดียวกับเกมนัดชิงชนะเลิศทั้ง 2 นัด ที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง กุนซือผู้นิยมในเกมรุกพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถพิชิตแผนการเล่นอของทัพดาวทองได้

   อาจจะจริงที่ศักยภาพผู้เล่นของไทย เหนือกว่าอย่างชัดเจน มันจึงทำให้การคว้าแชมป์หนนี้ดูจะไม่ยากเย็นนัก แต่เรื่องของแท็กติก มันก็เป็นอีกครั้งที่ฟุตบอลสมัยใหม่เอาชนะสไตล์โบราณได้สำเร็จ

[ 2 ] สนามดีมีผลจริงๆ

   การกลับมาเล่นที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์-รังสิต ซึ่งอาจจะไม่ใช่สังเวียนประจำของทีมชาติไทย เพราะจริงๆ แล้วเรามี ศุภชลาสัย กับ ราชมังคลากีฬาสถาน เป็น สเตเดี้ยม หลักในเกมระดับนานาชาติ แต่อย่างน้อยสภาพ 'ผืนหญ้า' ก็ยังดีกว่า มี ดินห์ แบบชัดเจน

   ตลอดทั้ง 90 นาที ในเกมที่เอาชนะเวียดนาม 1-0 ไม่มีจังหวะที่นักเตะช้างศึกจับบอลลั่นหรือกระฉอกเลยสักครั้ง นั่นมาจากความคุ้นเคยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าการได้เล่นบนผืนหญ้าที่เขียวขจีมันทำให้ฟุตบอลเป็นฟุตบอลจริงๆ

   ความชัดเจนคือประตู 1-0 นั่นแหละที่ไทย ทำชิ่งกันได้แบบไหลลื่น ซึ่งมาจากการที่ไม่ได้เล่นในสภาพสนามที่ขรุขระเหมือนกับ มี ดินห์ ที่กว่าจะจับจังหวะได้ ก็ปาไปครึ่งหลังแล้ว

   นอกจากนั้น ตลอดทั้ง 90 นาที จะเห็นได้ชัดเจนว่าการต่อบอลของผู้เล่นช้างศึกทำได้ดีทีเดียว และพอได้เล่นอยู่ในเกมของตัวเอง มันจึงทำให้สุดท้าย ไทย สามารถเอาชนะเวียดนาม ไปได้ในที่สุด

[ 3 ] MVP ที่คู่ควรของ ธีราทร

    ธีราทร บุญมาทัน ประกาศศักดาว่าเขาคือนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน

    นักเตะวัย 32 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการลูกหนังเอเชีย มาอย่างโชกโชน 

   จากอดีตเด็กหนุ่มเลือดร้อน พร้อมบวกเสมอ และเป็นเพื่อนสนิทกับใบเหลืองและใบแดง

   ขนาดว่าเคยได้รับใบแดงติดๆ กัน 2 วัน 2 ใบ มาแล้วตอนที่เล่นให้ทีมชาติไทย ชุดใหญ่และชุด ซีเกมส์ เมื่อปี 2011

   วันเวลาผันผ่าน ประสบการณ์ของเขาเพิ่มพูน เช่นเดียวกันการควบคุมอารมณ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ 

   เขาได้แชมป์ร่วมกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด มามากมาย ก่อนจะไปสร้างประวัติศาสตร์กับการเป็นคนไทย คนแรกที่ได้สัมผัสโทรฟี่ เจลีก ในปี 2019 โดยที่ตนเองยิงประตูในเกมสุดท้ายของฤดูกาลอีกต่างหาก

   จากนักเตะจอมเดือด สู่การเป็นกัปตันทีมชาติไทย ผู้ชูถ้วย อาเซียน คัพ 2022 ซึ่งนับเป็นหนที่ 7 ของช้างศึก

   ทว่าเหนืออื่นใดคือ 'คลาส' ของ ธีราทร ในทัวร์นาเมนต์นี้ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเก่งกาจเพียงใด

   6 แอสซิสต์ กับอีก 1 ประตู ใน 8 นัด ถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ที่ยากต่อการทัดเทียม

   ไม่นับรวมการเป็นคนกำกับเกมในแดนกลางให้กับไทย ได้อย่างเนียนตา ทั้งๆ ที่ตำแหน่งดังเดิมของเขาคือแบ็กซ้าย แต่การขยับมายืนเป็นมิดฟิลด์ ธีราทร ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

   จากฟอร์มที่ยอดเยี่ยม บวกกับบทบาทความเป็นผู้นำที่แสดงออกมาในสนาม รางวัล 'นักเตะยอดเยี่ยม' ของทัวร์นาเมนต์จึงไม่มีใครสามารถแย่งจาก ธีราทร ได้เลย

[ 4 ] ควง ไฮ ไม่เหมือนเดิม

   อาเซียน คัพ 2022 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ เหงียน ควง ไฮ ซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของเวียดนาม ชุดปัจจุบัน ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานมากๆ

   ตลอดทั้ง 8 เกม ของทีมดาวทองในรายการนี้ เพลย์เมเกอร์วัย 25 ปี ทำไปเพียง 1 แอสซิสต์ และ 1 ประตู เท่านั้น

   แตกต่างกับทัวร์นาเมนต์เมื่อปี 2018 ที่เขาได้รับรางวัล 'ผู้เล่นทรงคุณค่า' ไปแบบไร้คู่แข่ง ที่เล่นเป็นพระเอกทั้งยิงทั้งจ่าย และพาเวียดนาม คว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่

   การย้ายไป เปา แอฟเซ ในลีกรองของฝรั่งเศส ทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เจอกับมาตรฐานการเล่นที่สูงกว่าอาเซียน ซึ่งน่าจะทำประโยชน์ให้กับทัพดาวทองไม่มากก็น้อย 

   ทว่าผลงานใน อาเซียน คัพ 2022 กลับกลายเป็นว่า ควง ไฮ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ตามที่คาดหวัง โดยเฉพาะสองแมตช์ในรอบชิงชนะเลิศที่เขาแทบจะหายไปจากเกมเลยทีเดียว

   พอตัวขับเคลื่อนเกมไม่สามารถทำผลงานได้ตามมาตรฐาน มันจึงกระทบต่อการสร้างสรรค์เกมรุกของเวียดนาม อย่างชัดเจน ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยที่ทำให้ไทย ไม่ต้องหนักใจมาก ก่อนจะคว้าแชมป์ไปครองไปในที่สุด



[ 5 ] เวียดนาม มาผิดฟอร์ม

   นับตั้งแต่ พัก ฮัง-ซอ เข้ามาเป็นเฮดโค้ชของเวียดนาม ในปี 2017 เขาทำให้ทัพดาวทองกลายเป็นทีมที่ดุดัน, วิ่งสู้ฟัด, วินัยสูงและเล่นด้วยความหนักหน่วง 

   คู่แข่งของเวียดนาม ต่างต้องเข็ดขยาดยามที่เผชิญหน้ากับลูกทีมของกุนซือชาวเกาหลีใต้ เพราะต้องเจอกับการเพรสซิ่งและถูกบดขยี้ตลอดทั้ง 90 นาที ในสนาม

   แม้แต่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของเอเชีย ก็ยังลำบากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักเตะสกุลเหงียน

   แต่ยามใดที่ทีมดาวทองโคจรมาเจอกับไทย ไม่ว่าที่ไหนและเมื่อใด ความมุ่งมั่นของเวียดนาม จะพุ่งสูงขึ้นอีกเท่าตัว เพราะมันคือศึกแห่งศักดิ์ศรีและพวกเขาเองก็กระหายที่จะก้าวขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าช้างศึกให้ได้

   กลยุทธ์การเข้าสกัดแบบหนักหน่วง รวมไปถึงเตะติดดาบจึงถูกงัดมาใช้ในทุกครั้งที่พบกับไทย ไม่นับรวมการยั่วยุด้วยวาจาหรือการปรี่เข้าไปกดดันผู้ตัดสินพร้อมๆ กันที่ได้เห็นอยู่เป็นประจำ

   ทุกครั้งที่ช้างศึกปะทะดาวทองจึงเป็นเกมที่แฟนฟุตบอลทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างรอชมด้วยใจจดจ่อ เพราะรู้ดีว่ามันจะต้องมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นระหว่างเกม โดยเฉพาะเรื่องของความเดือด

   ทว่านัดชิงชนะเลิศนัดที่ 2 ณ สยามประเทศ กลายเป็นว่าเวียดนาม มาแบบผิดแผกแปลกตาไปกว่าเดิม

   แทบไม่มีการเล่นหนักๆ ให้เห็น การยั่วยุด้วยสีหน้าและท่าทางก็จางหาย จะมีแค่ไม่กี่จังหวะที่พวกเขาเดือดดาล ซึ่งถือเป็นเรื่อง 'ผิดปกติ' ไปจากทีมดาวทองที่เคยเห็น

   แม้แต่ เค ง็อก ไฮ ขวัญใจแฟนฟุตบอลแห่งแดนขวานทองก็เงียบเชียบผิดปกติ จะมีนิดๆ ตรงประจันหน้ากับ อดิศักดิ์ ไกรษร เท่านั้น แต่ที่เหลือก็ไม่มีอะไรรุนแรง

   ด้วยเหตุนี้เอง น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ทีมชาติไทย สามารถคว้าชัยแบบไม่ยากเย็นนัก


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport