ชนาธิป เจอทีมเก่า ฟรอนตาเล่! ทรู แบงค็อก ร่วมกลุ่ม ชนบุค-บุรีรัมย์ งานไม่หนัก เอซีแอล

"เดอะ แรบบิท" บีจี ปทุมยูไนเต็ด เจองานหินถูกจับให้อยู่ในกลุ่มไอ ร่วมกลุ่มเดียวกับทั้ง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่, อุลซาน ฮุนได และยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ทำให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะได้ดวลกับอดีตต้นสังกัด ในการจับสลากประกบคู่รอบแบ่งกลุ่มเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก โซนตะวันออก ขณะที่ทรู แบงค็อกฯ ร่วมกลุ่ม เอฟ ปะทะชนบุค ฮุนได มอเตอร์ อดีตแชมป์ 2 สมัย พร้อมกับซิตี้ ไลอ้อน เซเลอร์ และคิตฉี เอสซี ด้านบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด งานไม่หนักในกลุ่มเอช ชน เวนท์ฟอเรท โคฟุ, เมลเบิร์น และเจ้อเจียง เอฟซี ส่วนอุราวะ เรดส์ ทีมของ เอกนิษฐ์ ปัญญา รั้งกลุ่ม เจ ซดอู่ฮั่น, โปฮัง สตีลเลอร์ และฮานอย เปิดสนาม 18 ก.ย.นี้ นำแชมป์กลุ่มทั้ง 5 กลุ่ม และอันดับ 2 ดีสุดอีก 3 ทีม ลิ่วรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค.2566 เวลา 15.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ ที่ทำการสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ประเทศมาเลเซีย สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ได้มีพิธีทำการจับสลากแบ่งสายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย รายการ "เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2023/24" รอบแบ่งกลุ่ม 

 โดยการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2023/24 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 40 ทีม แบ่งการแข่งขันออกเป็น 10 กลุ่ม ๆละ 4 ทีม แบ่งเป็นโซนตะวันออก 20 ทีม 5 กลุ่ม และโซนตะวันตก 20 ทีม 5 กลุ่ม ซึ่งในโซนตะวันออกมี 3 สโมสรตัวแทนจากประเทศไทย ที่ทะลุเข้ารอบแบ่งกลุ่มประกอบด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และบีจี ปทุม ยูไนเต็ด

 ขณะที่ตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น มีถึง 4 สโมสรที่เข้ามาเล่นในรอบนี้คือ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส (แชมป์เจลีก 2022), คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ (รองแชมป์เจลีก 2022), เวนท์ฟอเรท โคฟุ (แชมป์เอ็มเพอเรอร์ส คัพ 2022) และอุราวะ เรดส์ แชมป์เก่ารายการนี้ ที่เอาชนะ ลีแมน เอฟซี ทีมจากฮ่องกง 3-0 ในรอบเพลย์ออฟ รอบสุดท้าย

 สำหรับการแบ่งโถของโซนตะวันออก มีดังนี้ 

- โถ1 : อุลซาน ฮุนได (เกาหลีใต้), โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส (ญี่ปุ่น), อู่ฮั่น ทรีทาวน์ (จีน), บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย), ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ (เกาหลีใต้)

- โถ2 : เวนท์ฟอเรท โคฟุ (ญี่ปุ่น), ชานตง ไท่ซาน (จีน), ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (ไทย), โปฮัง สตีลเลอร์ (เกาหลีใต้), คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ (ญี่ปุ่น)

- โถ3 : ฮานอย เอฟซี (เวียดนาม), คาย่า เอฟซี-อิลโล่ (ฟิลิปปินส์), ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม (มาเลเซีย), เมลเบิร์น ซิตี้ เอฟซี (ออสเตรเลีย), ซิตี้ ไลอ้อน เซเลอร์ (สิงคโปร์)

- โถ4 : คิตฉี เอสซี (ฮ่องกง), อินชอน ยูไนเต็ด เอฟซี (เกาหลีใต้), อุราวะ เรดส์ (ญี่ปุ่น), เจ้อเจียง เอฟซี (จีน), *บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (ไทย)

 ทั้งนี้ ผลการจับสลากแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2023/24 (โซนตะวันออก) ซึ่งสโมสรจากชาติเดียวกันจะไม่อยู่ร่วมกลุ่มเดียวกัน มีดังนี้

กลุ่ม เอฟ : ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ (เกาหลีใต้), *ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (ไทย), ซิตี้ ไลอ้อน เซเลอร์ (สิงคโปร์), คิตฉี เอสซี (ฮ่องกง)

กลุ่ม จี : โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส (ญี่ปุ่น), ชานตง ไท่ซาน (จีน), คาย่า เอฟซี-อิลโล่ (ฟิลิปปินส์), อินชอน ยูไนเต็ด เอฟซี (เกาหลีใต้)

กลุ่ม เอช : *บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย), เวนท์ฟอเรท โคฟุ (ญี่ปุ่น), เมลเบิร์น ซิตี้ เอฟซี (ออสเตรเลีย), เจ้อเจียง เอฟซี (จีน)

กลุ่ม ไอ : อุลซาน ฮุนได (เกาหลีใต้), คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ (ญี่ปุ่น), ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม (มาเลเซีย), *บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (ไทย)

กลุ่ม เจ : อู่ฮั่น ทรีทาวน์ (จีน), โปฮัง สตีลเลอร์ (เกาหลีใต้), ฮานอย เอฟซี (เวียดนาม), อุราวะ เรดส์ (ญี่ปุ่น)

 สำหรับโปรแกรมการแข่งขันประกอบด้วย นัดที่ 1 วันที่ 18-20 ก.ย.2566, นัดที่ 2 วันที่ 2-4 ต.ค.2566, นัดที่ 3 วันที่ 23-25 ต.ค.2566, นัดที่ 4 วันที่ 6-8 พ.ย.2566, นัดที่ 5 วันที่ 27-29 พ.ย.2566 และนัดที่ 6 วันที่ 4-6 ธ.ค.2566 โดยทีมแชมป์กลุ่มของทุกกลุ่ม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 3 ทีม จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

  ทั้งนี้ เงินรางวัลต่างๆ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2023/24 ประกอบด้วย ค่าเดินทางทึมเยือน (นัดละ) : รอบก่อนรอบเพลย์ออฟ, เพลย์ออฟ 4 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (1.4 ล้านบาท) รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีม, รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ 6 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (2.1ล้านบาท), รอบชิงชนะเลิศ 1.2 แสนเหรียญสหรัฐฯ (4.21ล้านบาท) ส่วนโบนัสรอบแบ่งกลุ่ม (นัดละ) : ชนะ 5 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (1.75ล้านบาท), เสมอ 1 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (3.5 แสนบาท)

  ขณะที่โบนัสทีมเข้ารอบ16 ทีมสุดท้าย รับทีมละ 1 แสนเหรียญสหรัฐฯ (3.51ล้านบาท), รอบก่อนรองชนะเลิศ รับ 1.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ (5.26 ล้านบาท), รอบรองชนะเลิศ รับเงิน 2.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ (8.77ล้านบาท) ในส่วนของแชมป์รับเงิน 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (140 ล้านบาท) และรองแชมป์รับเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (70 ล้านบาท)

 


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport