และแล้ววันที่รอคอยของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ก็มาถึงสักที กับการประเดิมสนามในนามนักเตะ อูราวะ เร้ด ไดม่อนด์ส แถมยังทำได้ดีเสียด้วย เพราะซัดประตูได้ทันที ในเกม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ที่ปีศาจแดงแห่งเอเชีย เปิดบ้านถล่ม ฮานอย เอฟซี 6-0
ถือเป็นการเปิดตัวสุดเพอร์เฟกต์ เพราะเขาใช้เวลาในสนามเพียง 17 นาที (ถูกเปลี่ยนตัวเข้านาทีที่ 73) ก่อนจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยม และที่สำคัญคือคนซัลโวปิดกล่องให้กับแชมป์เอเชีย 3 สมัย เอาชนะคู่แข่งไปแบบสบายๆ
มันคือ 'ก้าวแรก' กับ 'ความฝัน' ที่ เอกนิษฐ์ ปรารถนามาตลอดชีวิต
กว่าที่เด็กหนุ่มคนนี้จะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเขาต้องต่อสู้อะไรมาเยอะ ทนความลำบากมาแยะ แต่ด้วยการสนับสนุนจากคุณพ่อและคุณแม่ที่ซัพพอร์ตลูกชายแบบเต็มเหนี่ยว มันจึงนำมาซึ่งแสงสว่างที่ปลายทาง
ด้วยพรสวรรค์เชิงลูกหนัง ผนวกเข้ากับความมุ่งมั่นเกินร้อย สองสิ่งนี้หล่อหลอมให้ เอกนิษฐ์ ค่อยๆ พัฒนาตนเองเรื่อยมา
แน่นอนว่าการถูกยกย่องให้เป็น 'ดาวรุ่ง' ของวงการฟุตบอลไทย อีกทั้งยังติดทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่อายุน้อย 'สปอตไลต์' ย่อมสาดมาที่เขาแบบไม่อาจหลีกเลี่ยง
เรียกว่า 'ดัง' ตั้งแต่เด็กเลยก็ว่าได้
มีนักเตะจำนวนไม่น้อยที่หลงระเริงไปกับแสงสีและชื่อเสียงที่พุ่งหา จนสุดท้ายระยะเวลาในอาชีพเหลือเพียงน้อยนิด แทนที่จะมุ่งหน้าไปให้ไกลที่สุด กลับถูกฉุดด้วยสิ่งเร้ารอบกาย
แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เดินตามความฝันของตนเองจนสุดทาง ยกตัวอย่างเช่น ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธุ์, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และรวมไปถึง สุภโชค สารชาติ ที่อุทิศตนเองเพื่อฟุตบอลแบบไม่ว่อกแว่ก
จากสีหน้า, แววตาและการกระทำของ เอกนิษฐ์ บ่งชี้ได้ชัดเจนว่าเขากำลังมุ่งมั่นมากๆ กับการค้าแข้งที่ญี่ปุ่น รอบนี้
แม้ระยะของสัญญาระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นต้นสังกัดกับ อูราวะ เร้ดส์ ที่ยืมตัวมา จะมีเพียง 6 เดือน แต่เชื่อได้เลยว่ากิเลนผยองไม่มีกั๊กนักเตะแน่ เพราะอดีตแชมป์ ไทยลีก คือสโมสรที่พร้อมผลักดันผู้เล่นไทย ให้ไปไกลกว่าเดิมเสมอ
เจลีก ฤดูกาล 2024 ยังไงชื่อของ เอกนิษฐ์ ก็จะถูกลงทะเบียนในระบบแน่นอน
สัญญาณที่ดีอีกอย่างคือบทสัมภาษณ์ของ มาเซย์ สกอร์ซ่า ที่ออกมาเผยหลังเกมถลุง ฮานอย ซึ่งกล่าวว่า "ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของบุ๊ก (เอกนิษฐ์ ปัญญา) กับ อุราวะ เร้ดส์ โดยรวมแล้ว ผมพอใจในภาพรวมของเกมนี้มาก"
"สำหรับบุ๊ก เขาเป็นนักเตะที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจมาตลอด เขาเป็นนักเตะเทคนิคดี หาตัวจับยาก อ่านเกมได้เยี่ยม จ่ายบอลจังหวะสุดท้ายเฉียบขาด ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการจบสกอร์ที่ไว้ใจอีกด้วย"
"ผมอยากให้เขามุ่งมั่นแบบนี้ตลอดไป ก้าวไปทีละขั้น เชื่อว่าเขาจะได้รับโอกาสลงเล่นในเกม เจลีก อีกไม่นานเกินรอ"
จากบทสัมภาษณ์ของกุนซือชาวโปแลนด์ นั้นบ่งชี้ได้ชัดเจนว่าโอกาสของ เอกนิษฐ์ เปิดกว้างแล้ว อยู่ที่เจ้าตัวจะคว้าโอกาสที่ได้มานั้นดีเพียงใด
นอกจากนั้น อย่างที่หลายๆ คนกังวล เพราะเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่, เพื่อนร่วมทีมใหม่, ภูมิอากาศใหม่ และอีกหลายๆ อย่างที่ใหม่ทั้งหมด เจ้าตัวจะสอบผ่านหรือไม่ เนื่องจากเป็นคนประเภท 'พูดน้อย' ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคในการเจอวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม
ทว่า จากคำพูดของ ชินโซ โคโรกิ แข้งซีเนียร์ของ อูราวะ เร้ดส์ นั้นเชื่อได้เลยว่าไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการปรับตัวของดาวรุ่งทัพช้างศึกอีกต่อไป เพราะแนวรุกวัย 37 ปี ได้นำ เอกนิษฐ์ ไปเปรียบเทียบกับ ชนาธิป และ สุภโชค ที่มาสร้างชื่อบนดินแดนปลาดิบ
รองกัปตันปีศาจแดงแห่งเอเชีย กล่าวในทำนองว่า เอกนิษฐ์ มีความกระตือรือร้นไม่ต่างจาก 2 รุ่นพี่ทีมชาติไทย ที่พิสูจน์ให้เห็นใน เจลีก จนสามารถทลายกำแพงและก้าวไปเป็นผู้เล่นตัวหลักให้กับต้นสังกัดได้สำเร็จ
ภาพที่ โคโรกิ วิ่งยิ้มแฉ่งมายินดีปรีดากับประตูแรกของ เอกนิษฐ์ ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเวลานี้เขาเริ่มได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆ อูราวะ เร้ดส์ แล้ว
ก้าวแรกผ่านไป ก้าวต่อไปกำลังจะตามมา เด็กหนุ่มจากอำเภอพญาเม็งราย ค่อยๆ ซึมซับระบบการเล่นที่ญี่ปุ่น ได้เรื่อยๆ รูปร่างที่เคยบึกบึนก็เปลี่ยนไปจากเดิมแบบคนละคน และตอนนี้เจ้าตัวก็ได้ประเดิมสนามให้กับแชมป์เอเชีย ทีมล่าสุดเป็นที่เรียบร้อย
ความหวัง, ความฝัน และอนาคตต่อจากนี้สดใสแน่
เอกนิษฐ์ นับหนึ่งอย่างเป็นทางการ
ชิกกะด้าว