รีแบรนด์!ซูเปอร์ลีก เปลี่ยนชื่อเป็น ยูนิฟาย ลีก

A22 สปอร์ตส์ เมเนจเมนต์ บริษัทด้านกีฬาซึ่งมีหน้าที่จัดการแข่งขันศึก ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น ยูนิฟาย ลีก (Unify League) พร้อมกับเปิดเผยรูปแบบการแข่งขันแบบใหม่ด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2021 มันเคยมีการประกาศจัดรายการ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก โดยมีสโมสรใหญ่ๆ ทั่วทวีปยุโรปร่วมที่จะจัดการแข่งขันด้วย อย่างเช่น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, เชลซี, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน เป็นต้น

ตอนนั้นมันมีการบอกว่ารูปแบบการแข่งขันจะเป็นลีก โดยมี 20 ทีมที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน ซึ่งในจำนวน 20 ทีมที่ว่าจะแบ่งเป็นสมาชิกแบบถาวรของลีก 15 ทีม กับทีมอื่นๆ อีก 5 ทีม โดยทีมในกลุ่มสมาชิกแบบถาวรจะไม่มีวันหลุดจากการแข่งขันด้วย

สำหรับสาเหตุหลักๆ ที่ตอนนั้นมีการคิดจัด ซูเปอร์ลีก เป็นเพราะผู้บริหารของหลายสโมสรมองว่าสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) บริหารได้อย่างย่ำแย่จนอยากที่จะแยกตัวมาจัดรายการระดับทวีปแข่งกับ ยูฟ่า อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นกระแสคัดค้านก็รุนแรงมากๆ โดยเฉพาะจากแฟนบอลของทีมต่างๆ จนทำให้สุดท้ายแทบทุกทีมต้องถอนตัวจากโปรเจ็กต์ ซูเปอร์ลีก

อย่างไรก็ตาม A22 ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ โดยเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปีก่อน พวกเขาเคยบอกเองว่ากำลังพิจารณารูปแบบการแข่งขันแบบใหม่อยู่ เพื่อที่จะทำให้หลายคนยอมรับได้มากขึ้น อย่างเช่นที่จะมีการเลื่อนชั้น-ตกชั้น

กระทั่งล่าสุด มันก็มีการประกาศว่า ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก จะเปลี่ยนชื่อเป็น ยูนิฟาย ลีก โดยสิทธิ์การเข้าแข่งขันของแต่ละสโมสรจะขึ้นอยู่กับผลงานกับเกมภายในประเทศในแต่ละฤดูกาล หรือพูดอีกแบบก็คือคล้ายกับโควตาการได้สิทธิ์เล่นรายการแบบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก และ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก นั่นเอง และจะไม่มีระบบการันตีให้ทีมใดทีมหนึ่งได้สิทธิ์เล่นแบบถาวรอีกต่อไป

ทั้งนี้ ยูนิฟาย ลีก จะมีทีมที่ได้สิทธิ์ลงแข่งทั้งหมด 96 ทีมต่อฤดูกาล และจะมีการแบ่งเป็น 4 ลึก นั่นคือ สตาร์, โกลด์, บลู และ ยูเนี่ยน โดยที่ สตาร์ จะถือเป็นลีกสูงสุด ซึ่งจะมีทีมที่ได้เล่นในลีกนี้ 16 ทีม และในรอบลีกจะมีการแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม

ลีกระดับสองคือลีก โกลด์ โดยจะมีรูปแบบในรอบลีกคล้ายกับ สตาร์ ขณะที่ บลู ซึ่งเป็นลีกระดับ 3 จะมีทีมอยู่ในลีกนี้ 32 ทีม และแบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม ส่วนลีก ยูเนี่ยน จะเป็นลีกระดับ 4 และรูปแบบในรอบลีกก็จะคล้ายกับลีก บลู

ในรอบลีกนั้น ทุกทีมจะต้องเจอกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันครบทั้งหมด โดยแบ่งเป็นการลงเล่นเกมเหย้ากับเยือนทีมละ 7 นัด นั่นหมายความว่าแต่ละทีมจะต้องลงเล่นในรอบลีก 14 นัดต่อฤดูกาล โดยทีมที่เป็น 4 อันดับแรกของกลุ่มในลีก สตาร์ กับ โกลด์ จะได้เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ส่วนลีก บลู กับ ยูเยี่ยน จะมีการเอา 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

สำหรับรอบก่อนรองชนะเลิศนั้นจะเตะกันแบบเหย้า-เยือน แต่รอบรองชนะเลิศกับรอบชิงชนะเลิศจะเตะกันแบบนัดเดียวจบ และจะเล่นในสนามแบบเป็นกลาง โดยสำหรับรอบตัดเชือกกับรอบชิงดำของลีก สตาร์ กับ โกลด์ จะเตะกันภายในสัปดาห์เดียวให้รู้ผลไปเลย

A22 เสริมว่าในรอบลีกจะเตะกันเฉพาะในช่วงกลางสัปดาห์ โดยจะเริ่มแข่งกันในช่วงเดือนกันยายน และไปจบรอบนี้ในเดือนเมษายน ซึ่งก็จะคล้ายกับปฏิทินการแข่งขันของ แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูโรปา ลีก และ เนชั่นส์ ลีก

A22 อ้างด้วยว่าฟอร์แมตนี้ถูกวางแผนขึ้นมาหลังจากได้หารือกับสโมสรต่างๆ, ลีกต่างๆ และผู้ถือหุ้นหลักๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่แฟนบอลทุกคนจะสามารถสตรีมเกมการแข่งขันได้แบบฟรีๆ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น "Unified" ที่พวกเขาจะทำขึ้นมาด้วย เพียงแต่อาจจะมีโฆษณาเยอะสักหน่อย และสามารถลดจำนวนโฆษณาได้หากจ่ายเงินสมัครแบบรายเดือน

A22 บอกด้วยว่าได้ยื่นขอจัดรายการนี้กับทั้ง ยูฟ่า และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ไปแล้ว โดยเชื่อว่า ยูฟ่า จะไม่สามารถตีตกคำร้องของพวกเขาได้ เพราะต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลยุติธรรมของทวีปยุโรป (อีซีเจ) ที่เคยบอกว่า ยูฟ่า กับ ฟีฟ่า ไม่มีอำนาจคัดค้านการจัดรายการใหม่

สรุปคร่าวๆ รูปแบบในรอบลีกของ ยูนิฟาย ลีก ที่ A22 เสนอขึ้นมา

- ลีก สตาร์ : มี 16 ทีม แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม

- ลีก โกลด์ : มี 16 ทีม แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม

- ลีก บลู : มี 32 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม

- ลีก ยูเนี่ยน : มี 32 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม

- ลีก สตาร์ กับ ลีก โกลด์ จะเอา 4 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วน ลีก บลู กับ ลีก ยูเนี่ยน จะเอา 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

- รอบ 8 ทีมสุดท้ายเตะแบบ เหย้า-เยือน, รอบรองชนะเลิศกับรอบชิงชนะเลิศเตะแบบนัดเดียว โดยเล่นที่สนามเป็นกลาง