แมนยู-นิวคาสเซิ่ล หาย! คอนเฟิร์ม 16 ทีมลุยรอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำฤดูกาล 2023-24 ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อคืนวันพุธที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นเท่ากับว่า ตอนนี้เราได้ครบเรียบร้อย สำหรับ 16 ทีมที่ผ่านเข้าไปลุยในรอบน็อกเอาต์ โดยยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค รวมถึงแชมป์เก่าและรองแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อินเตอร์ มิลาน ต่างมากันครบ ทว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มาตามนัด แถมตกรอบแบบรั้งบ๊วยของกลุ่ม เอ อีกด้วย ว่าแล้วเรามาสรุปดูกันสิว่า มีทีมใดบ้างที่หลุดเข้าไปฟาดแข้งต่อในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

- บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี, แชมป์กลุ่ม เอ)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ห) 4-3, ชนะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น (ย) 2-1, ชนะ กาลาตาซาราย (ย) 3-1, ชนะ กาลาตาซาราย (ห) 2-1, ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ย) 1-0  

แชมป์ 6 สมัย ยังคงมาตรฐานสูงเหมือนเดิม คว้าตั๋วผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้แบบสบายๆ ด้วยสถิติไร้พ่าย โดยที่มี แฮร์รี่ เคน เป็นดาวซัลโวสูงสุดประจำทีม (4 ประตู)

-----

- เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก, รองแชมป์กลุ่ม เอ)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : เสมอ กาลาตาซาราย (ย) 2-2, แพ้ บาเยิร์น มิวนิค (ห) 1-2, แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ย) 0-1, ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ห) 4-3, เสมอ บาเยิร์น มิวนิค (ย) 0-0, ชนะ กาลาตาซาราย (ห) 1-0

ยักษ์ใหญ่จากแดนโคนม สุดยอดมากๆ ผ่านเข้าไปลุยรอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จชนิดหักปากกาเซียน ทั้งที่ตอนแรกถูกมองเป็นทีมอ่อนสุดของกลุ่ม แถมผ่านพ้นสามเกมแรก ด้วยการที่ไม่ชนะใคร  

-----

- อาร์เซน่อล (อังกฤษ, แชมป์กลุ่ม บี)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : ชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ห) 4-0, แพ้ ล็องส์ (ย) 1-2, ชนะ เซบีย่า (ย) 2-1, ชนะ เซบีย่า (ห) 2-0, ชนะ ล็องส์ (ห) 6-0, เสมอ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ย) 1-1

"ไอ้ปืนใหญ่" ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ทำได้เยี่ยมทีเดียว โดยผ่านเข้ารอบได้แบบไม่ยากเย็น ทั้งที่อยู่ในกลุ่มที่ดูเหมือนไม่ง่าย แถมชนะรวดทั้งสามนัดในบ้าน กดกระจายถึง 12 ประตู และไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียวที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม  

-----

- พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เนเธอร์แลนด์, รองแชมป์กลุ่ม บี)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : แพ้ อาร์เซน่อล (ย) 0-4, เสมอ เซบีย่า (ห) 2-2, เสมอ ล็องส์ (ย) 1-1, ชนะ ล็องส์ (ห) 1-0, ชนะ เซบีย่า (ย) 3-2, เสมอ อาร์เซน่อล (ห) 1-1

ทีมจ่าฝูงในศึก เอเรดิวิซี่ ไม่ได้มีดีแค่บอลลีกภายในประเทศ เพราะในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาก็ทำผลงานได้น่าประทับใจเช่นกัน ทั้งที่มีทีมแกร่งอย่าง อาร์เซน่อล, ล็องส์ และ เซบีย่า เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม 

----- 

- เรอัล มาดริด (สเปน, แชมป์กลุ่ม ซี)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : ชนะ อูนิโอน เบอร์ลิน (ห) 1-0, ชนะ นาโปลี (ย) 3-2, ชนะ บราก้า (ย) 2-1, ชนะ บราก้า (ห) 3-0, ชนะ นาโปลี (ห) 4-2, ชนะ อูนิโอน เบอร์ลิน (ย) 3-2

ยังคงสุดยอดเหมือนเดิมสำหรับจ้าวยุโรป 14 สมัย ที่ชนะรวดทั้งหกเกมในรอบแบ่งกลุ่ม โดยที่มี จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นดาวเด่นของทีม ซึ่งกดไป 4 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จาก 5 นัดที่ลงเล่น 

-----

- นาโปลี (อิตาลี, รองแชมป์กลุ่ม ซี)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : ชนะ บราก้า (ย) 2-1, แพ้ เรอัล มาดริด (ห) 2-3, ชนะ อูนิโอน เบอร์ลิน (ย) 1-0, เสมอ อูนิโอน เบอร์ลิน (ห) 1-1, แพ้ เรอัล มาดริด (ย) 2-4, ชนะ บราก้า (ห) 2-0

ถึงแม้ผลงานไม่ได้สวยหรู แต่แชมป์ เซเรีย อา ซีซั่นล่าสุด ก็สามารถเอาตัวรอด ผ่านเข้าไปลุยรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ตามเป้า โดยที่แพ้ เรอัล มาดริด แค่ทีมเดียวเท่านั้น 

-----

- เรอัล โซเซียดาด (สเปน, แชมป์กลุ่ม ดี)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : เสมอ อินเตอร์ มิลาน (ห) 1-1, ชนะ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ย) 2-0, ชนะ เบนฟิก้า (ย) 1-0, ชนะ เบนฟิก้า (ห) 3-1, เสมอ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ห) 0-0, เสมอ อินเตอร์ มิลาน (ย) 0-0

ทีมดังแห่งแคว้นบาสก์ ใช้เกมรับที่เหนียวแน่นและแข็งแกร่ง ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์แบบไม่แพ้ใคร แถมเสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น ซึ่งน้อยสุดเหนือทุกทีม 

-----

- อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี, รองแชมป์กลุ่ม ดี) 

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : เสมอ เรอัล โซเซียดาด (ย) 1-1, ชนะ เบนฟิก้า (ห) 1-0, ชนะ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ห) 2-1, ชนะ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ย) 1-0, เสมอ เบนฟิก้า (ย) 3-3, เสมอ เรอัล โซเซียดาด (ห) 0-0

ทีมรองแชมป์เก่าของกุนซือ ซิโมเน่ อินซากี้ ผ่านเข้ารอบได้แบบไม่ลำบาก ด้วยสถิติไร้พ่าย แต่การที่เกมสุดท้ายทำได้แค่เปิดบ้านเจ๊า เรอัล โซเซียดาด ทำให้พวกเขาได้แค่ที่สอง ซึ่งมีแววเจอของแข็งในรอบ 16 ทีมสุดท้าย  

-----

- แอตเลติโก มาดริด (สเปน, แชมป์กลุ่ม อี)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : เสมอ ลาซิโอ (ย) 1-1, ชนะ เฟเยนูร์ด (ห) 3-2, เสมอ เซลติก (ย) 2-2, ชนะ เซลติก (ห) 6-0, ชนะ เฟเยนูร์ด (ย) 3-1, ชนะ ลาซิโอ (ห) 2-0

ทัพ "ตราหมี" ของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เดินหน้าเข้ารอบแบบไร้พ่าย แถมยิงดุถึง 17 ประตู ซึ่งมากสุดเป็นอันดับสอง (รองจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ 

-----

- ลาซิโอ (อิตาลี, รองแชมป์กลุ่ม อี)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : เสมอ แอตเลติโก มาดริด (ห) 1-1, ชนะ เซลติก (ย) 2-1, แพ้ เฟเยนูร์ด (ย) 1-3, ชนะ เฟเยนูร์ด (ห) 1-0, ชนะ เซลติก (ห) 2-0, แพ้ แอตเลติโก มาดริด (ย) 0-2  

"อินทรีฟ้า-ขาว" การันตีเข้ารอบตั้งแต่นัดที่ห้า แถมมีลุ้นแซงเป็นแชมป์กลุ่มในเกมสุดท้าย แต่ไม่สำเร็จ เพราะออกไปพ่าย "ตราหมี" 

-----

- โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี, แชมป์กลุ่ม เอฟ)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : แพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ย) 0-2, เสมอ เอซี มิลาน (ห) 0-0, ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (ย) 1-0, ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (ห) 2-0, ชนะ เอซี มิลาน (ย) 3-1, เสมอ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ห) 1-1

"เสือเหลือง" ทำได้อย่างสุดยอด ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มที่ว่ากันว่าเป็น "กรุ๊ป ออฟ เดธ" โดยการคว้าชัยสามนัดติดในแมตช์ที่ 3, 4 และ 5 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเลยทีเดียว เพราะพวกเขาเคยรั้งบ๊วยของกลุ่ม หลังจากผ่านสองนัดแรก  

-----

- ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส, รองแชมป์กลุ่ม เอฟ)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (ห) 2-0, แพ้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (ย) 1-4, ชนะ เอซี มิลาน (ห) 3-0, แพ้ เอซี มิลาน (ย) 1-2, เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (ห) 1-1, เสมอ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (ย) 1-1

เปแอสเช ของกุนซือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ เข้ารอบแบบหืดจับ ด้วยการบุกไปไล่เจ๊า ดอร์ทมุนด์ 1-1 ในเกมสุดท้าย บวกกับการที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พลิกแพ้ เอซี มิลาน คาบ้าน 1-2

-----

- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ, แชมป์กลุ่ม จี)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : ชนะ เร้ด สตาร์ เบลเกรด (ห) 3-1, ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก (ย) 3-1, ชนะ ยัง บอยส์ (ย) 3-1, ชนะ ยัง บอยส์ (ห) 3-0, ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก (ห) 3-2, ชนะ เร้ด สตาร์ เบลเกรด (ย) 3-2

ผ่านเข้ารอบแบบชิลล์ๆ ตามคาดสำหรับทีมแชมป์เก่าของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เฮรวดทั้งหกนัด แถมกระทุ้งไปนัดละ 3 ประตู รวมเป็น 18 ประตู ซึ่งมากสุดเหนือทุกทีม 

-----

- แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี, รองแชมป์กลุ่ม จี)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : ชนะ ยัง บอยส์ (ย) 3-1, แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ห) 1-3, ชนะ เร้ด สตาร์ เบลเกรด (ห) 3-1, ชนะ เร้ด สตาร์ เบลเกรด (ย) 2-1, แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ย) 2-3, ชนะ ยัง บอยส์ (ห) 2-1

ตบเท้าเข้ารอบตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างที่หลายๆ คนคาดการณ์เอาไว้ตอนแรก โดยแพ้แค่สองเกมที่เจอกับ "เรือใบสีฟ้า" เท่านั้น นอกนั้นชนะเรียบ

-----

- บาร์เซโลน่า (สเปน, แชมป์กลุ่ม เอช)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : ชนะ อันท์เวิร์ป (ห) 5-0, ชนะ ปอร์โต้ (ย) 1-0, ชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ห) 2-1, แพ้ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ย) 0-1, ชนะ ปอร์โต้ (ห) 2-1, แพ้ อันท์เวิร์ป (ย) 2-3 

ทีมแชมป์ ลา ลีกา ของกุนซือ ชาบี การันตีเข้ารอบฐานะแชมป์กลุ่มตั้งแต่นัดที่ห้า ทำให้ไม่ต้องเน้นอะไรมากในนัดสุดท้ายที่เจอกับ อันท์เวิร์ป

-----

- ปอร์โต้ (โปรตุเกส, รองแชมป์กลุ่ม เอช)

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม : ชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ย) 3-1, แพ้ บาร์เซโลน่า (ห) 0-1, ชนะ อันท์เวิร์ป (ย) 4-1, ชนะ อันท์เวิร์ป (ห) 2-0, แพ้ บาร์เซโลน่า (ย) 1-2, ชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ห) 5-3

ยักษ์ใหญ่จากแดนฝอยทอง ผ่านเข้าไปลุยรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะทีมอันดับสองของกลุ่ม หลังเปิดบ้านเอาชนะ ชัคตาร์ สุดมันส์ในเกมสุดท้าย ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแมตช์ชิงตั๋วเข้ารอบ 

-----

หมายเหตุ : การจับสลากประกบคู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย จะมีขึ้นในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคมนี้ เวลา 18.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดยเงื่อนไขนั้น ทีมแชมป์กลุ่มจะได้เป็นทีมวาง, ทีมที่มาจากกลุ่มเดียวกันและชาติเดียวกันจะไม่สามารถพบกันได้ ซึ่งทีมวาง (แชมป์กลุ่ม) จะออกไปเยือนก่อนในเกมแรก

สำหรับเลกแรก จะฟาดแข้งกันในวันที่ 13/14/20/21 กุมภาพันธ์ 2567 ส่วนเลกสองมีคิวเตะในวันที่ 5/6/12/13 มีนาคม 2567

-----

สรุป 8 ทีมที่จบอันดับสามของรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งได้สิทธิ์ไปลุยต่อในถ้วย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบเพลย์ออฟ (โดยจะต้องเตะกับทีมรองแชมป์กลุ่ม ยูโรปา ลีก เพื่อหาอีก 8 ทีมเข้าไปแข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้าย)

- กาลาตาซาราย (ตุรกี)

- ล็องส์ (ฝรั่งเศส)

- บราก้า (โปรตุเกส)

- เบนฟิก้า (โปรตุเกส)

- เฟเยนูร์ด (เนเธอร์แลนด์)

- เอซี มิลาน (อิตาลี)

- ยัง บอยส์ (สวิตเซอร์แลนด์)

- ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน)

 Subinho



ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport