ลิเวอร์พูล จะทำตามได้ไหม ? ย้อนรอยทีมเข้ารอบ ชปล. แม้นัดสองเล่นเป็นทีมเยือน

เจองานหนักพอตัวสำหรับ ลิเวอร์พูล กับการพลิกสถานการณ์ในการแข่งรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากนัดแรกเปิดรัง แอนฟิลด์ แพ้ เรอัล มาดริด มาก่อน 2-5 ทำให้ในนัดสองพวกเขาต้องชนะอย่างน้อยถึง 3 ลูกเพียงเพื่อที่จะได้ไปวัดกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ

แค่การยิงให้ได้เยอะขนาดนั้นถือว่าเป็นงานยากแล้ว แถมยังต้องทำให้ได้ในการเล่นที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รังเหย้าของ มาดริด อีก 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาใน แชมเปี้ยนส์ ลีก มันเคยมีทีมที่แพ้คาบ้านในนัดแรกแล้วพลิกกลับมาเข้ารอบจากการเล่นเป็นทีมเยือนในนัดสองมาแล้ว เพียงแต่ผลต่างของประตูที่ทีมเหล่านั้นเจอมันไม่มากเท่ากับของ ลิเวอร์พูล เท่านั้น 

ซึ่งวันนี้เราจะพาไปย้อนดูกันว่ามันมีทีมไหนบ้างที่เคยทำอย่างนั้นได้


- สเปอร์ส : รอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2018-19

ในฤดูกาลนั้น สเปอร์ส ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายและรอบก่อนรองชนะเลิศจากการผ่าน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ตามลำดับ แต่ในรอบรองชนะเลิศนั้นพวกเขาเสียท่าให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในนัดแรก ด้วยการแพ้คารัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ไปก่อน 0-1

ทั้งนี้ พอถึงนัดสองที่ โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า อาแจ็กซ์ ยังนำไปก่อน 2 ลูกด้วยจนทำให้สกอร์รวม สเปอร์ส ตามหลังถึง 3 ลูก แต่แล้วก็เกิดปาฏิหาริย์เมื่อ ลูคัส มูร่า มาทำแฮตทริกได้ในช่วงครึ่งหลังจนทำให้สกอร์รวมเสมอกัน 3-3 และเป็น สเปอร์ส ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศท่ามกลางความช็อกของกองเชียร์เจ้าถิ่น


- อาแจ็กซ์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2018-19

ตอนที่ อาแจ็กซ์ ถูกจับมาเจอกับ เรอัล มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้น หลายคนมองว่า "ราชันชุดขาว" เจองานไม่หนักหนาเท่าไหร่ ซึ่งมันก็ทำท่าว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะในนัดแรก มาดริด กลับมาจากฮอลแลนด์ด้วยชัยชนะ 2-1

อย่างไรก็ตาม ในการแข่งนัดสอง อาแจ็กซ์ ภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก ทำผลงานได้สุดเหนือชั้นด้วยการบุกไปพิชิต มาดริด ได้ถึงสเปนด้วยสกอร์ 4-1 ทำให้ทีมดังของฮอลแลนด์กลับบ้านพร้อมตั๋วเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย


- อินเตอร์ มิลาน : รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2010-11

แฟนบอล อินเตอร์ มิลาน ต้องอึ้งกันทั้งสนาม จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า หลังจากพวกเขามาเสียประตูให้ บาเยิร์น มิวนิค ในนาทีที่ 90 ของการแข่งรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ส่งผลให้สถานการณ์ของทีมรักของพวกเขาเสียเปรียบพอตัวกับการไปเล่นที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า ในนัดสอง

ถึงกระนั้น อินเตอร์ ก็โชว์ผลงานสุดยอดด้วยการบุกไปพิชิต บาเยิร์น ได้ถึงถ้ำเสือจากสกอร์ 3-2 โดยประตูสุดท้ายของเขาเกิดขึ้นในนาทีที่ 88 จากผลงานของ โกรัน ปานเดฟ ด้วย ทำให้ถึงแม้สกอร์รวมจะเสมอกัน 3-3 แต่ฝั่ง อินเตอร์ ได้ผ่านเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน


- อาแจ็กซ์ : รอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 1995-96

สมัยนั้น อาแจ็กซ์ ใช้ โอลิมปิก สเตเดี้ยม เป็นรังเหย้าของทีม ซึ่งในนัดแรกของรอบตัดเชือกพวกเขาแพ้ พานาธิไนกอส จากประตูในช่วง 3 นาทีสุดท้ายของ คริสซ์ตอฟ วาร์ซีช่า ซึ่งตอนนั้นหลายคนก็มองว่า อาแจ็กซ์ มีโอกาสพลิกสถานการณ์ยากในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ในการเล่นนัดสองที่ สปายริดอน หลุยส์ ในกรุงเอเธนส์นั้น อาแจ็กซ์ คว้าชัยไปด้วยสกอร์ถึง 3-0 ซึ่งส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะพวกเขาได้ประตูแรกตั้งแต่นาทีที่ 4 จากผลงานของ ยารี่ ลิตมาเน่น นั่นเอง

- แมนฯ ยูไนเต็ด : รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2018-19

ตอนนั้นหลายคนเชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นรอง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แบบสุดกู่ ทั้งเรื่องผลงานโดยรวมที่เทียบกับทีมดังของฝรั่งเศสไม่ได้, ขุมกำลังที่ดูไม่แข็งแกร่งเท่า ไปจนถึงการที่ผู้จัดการทีมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนั้นคือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เพิ่งมารับงานได้ไม่กี่เดือน ต่างกับ ปารีสฯ ที่นำมาโดย โธมัส ทูเคิ่ล ซึ่งถือว่ามีประสบการณ์การคุมทีมมากกว่า โซลชา

ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำท่าว่าจะไปไม่รอดหลังจบนัดแรกพวกเขาแพ้ 0-2 คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ในนัดสองที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ขุนพล "ปีศาจแดง" งัดฟอร์มโหดได้จนคว้าชัยไป 3-1 ทำให้สกอร์รวมเสมอกัน 3-3 และเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้ผ่านเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน

- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport