สเปอร์ส ปลด แอนจ์ ปอสเตโคกลู พ้นตำแหน่งแม้เพิ่งคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก เปิดชื่อ 5 ตัวเต็งกุนซือใหม่ทั้ง โธมัส แฟร้งค์, มาร์โก ซิลวา, กลาสเนอร์, ชาบี และคาร์ริค ที่อาจมานั่งเก้าอี้นายใหญ่คนใหม่แห่งถิ่นลอนดอน
สเปอร์ส ตัดสินใจเด้ง แอนจ์ ปอสเตโคกลู ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่เขาเพิ่งนำสโมสรยุติ 17 ปีไร้แชมป์ได้สำเร็จเมื่อฤดูกาล 2024/2025 ก็ตาม
กุนซือชาวออสเตรเลีย สร้างความสุขให้กับสาวกสเปอร์ส ด้วยการนำทีมคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก อย่างไรก็ตามผลงานที่ย่ำแย่ในพรีเมียร์ลีก โดยทีมจบอันดับ 17 ชนะ 11 นัด และแพ้ถึง 22 เกมเก็บได้แค่ 38 คะแนน ทำให้ แดเนี่ยล เลวี ประธานสโมสรและบอร์ดบริหารรับไม่ได้จึงจำเป็นต้องเด้งเขาออกจากตำแหน่ง
แน่นอนว่าตอนนี้ "ไก่เดือยทอง" ต้องรีบเร่งเฟ้นหากุนซือคนใหม่ทันที เพื่อจะเข้ามาทำงานร่วมกับนักเตะในช่วงปรีซีซั่น โดยตอนนี้สโมสรมี 5 ตัวเลือกที่มีโอกาสจะได้รับงานสำคัญนี้ โดยจะเป็นใครกันไปพิจารณากันได้เลย
1. โธมัส แฟร้งค์
ชื่อของ โธมัส แฟร้งค์ ค่อนข้างโดดเด่นที่สุดที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำงานแทน ปอสเตโคกลู เพราะผลงานของเขากับ เบรนท์ฟอร์ด ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ทั้งๆ ที่ทรัพยากรในทีมไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับทีมชั้นนำในอังกฤษก็ตาม
กุนซือชาวเดนมาร์ก ซึ่งเป็นที่รักของสาวก "เดอะ บีส์" อย่างมากจากการทุ่มเททำงานหนักทั้งในและนอกสนามเพื่อสร้างทีมเล็กแห่งนี้ให้ก้าวขึ้นมาบดบี้กับบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ในลีก และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ สเปอร์ส อยากได้ตัวเขามากุมบังเหียน
แฟร้งค์ มักจะมีข่าวพัวพันกับทีมชั้นนำในพรีเมียร์ลีกบ่อยๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่สโมสรเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม หนึ่งในนั้นก็คือ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด !! แต่ครั้งนี้ สเปอร์ส อาจจะได้ตัวเขาไปร่วมงาน
แม้ว่า เบรนท์ฟอร์ด ในยุคของ แฟร้งค์ จะเล่นระบบกองหลังสามตัว แต่บ่อยครั้งที่เขามักใช้แผน 4-2-3-1 ในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ฤดูกาล 2024/2025 โดยแท็กติกนี้เหมาะกับการเล่นเกมรุก เนื่องจากฟูลแบ็กต้องเติมขึ้นสูงเพื่อช่วยแดนกลาง และทำให้แนวรุกของทีมมีความอันตรายในการเจาะเกมรับคู่แข่ง
สำหรับระบบนี้สามารถนำไปใช้กับ สเปอร์ส ได้อย่างง่ายดาย เพราะ ปอสเตโคกลู มักจะสลับแท็กติกระหว่าง 4-3-3 กับ 4-2-3-1 เป็นประจำ โดยมี เจมส์ แมดดิสัน เป็นตัวเลือกในตำแหน่งเบอร์ 10 ซึ่งคอยปั้นเกม ส่วน โรดรีโก้ เบนตานกูร์ และ ป๊าป ซาร์ ทำหน้าที่เป็นสองกองกลางตัวรับ ด้วยเหตุนี้ แฟร้งค์ จึงได้รับการคาดหมายว่าสามารถสานต่องานของ สเปอร์ส ได้เหมาะที่สุด
2. มาร์โก ซิลวา
สำหรับผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ลีกคนที่สองที่มีข่าวกับ สเปอร์ส ก็คือ มาร์โก ซิลวา นายใหญ่ฟูแล่ม โดยกรณีของเขาก็เหมือนกับ แฟร้งค์ เพราะปล่อยครั้งที่ กุนซือชาวโปรตุกีส มักจะโดนลือว่าเตรียมย้ายไปรับงานคุมหลายทีมในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเวลาที่มีการปลดเฮดโค้ง
อย่างไรก็ตาม ซิลวา อาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่ากับ แฟร้งค์ แต่เขาก็ทำผลงานได้น่าประทับใจในการคุมทัพ "เจ้าสัวน้อย" ซึ่งนำทีมขึ้นชั้นจากเดอะ แชมเปี้้ยนชิพ และโลดแล่นในพรีเมียร์ลีกอย่างต่อเนื่อง แถมยังนำสโมสรมีลุ้นโควตาฟุตบอลถ้วยยุโรป แต่น่าเสียดายที่ฟอร์มช่วงท้ายซีซั่นดันสะดุดทำให้อดไป
ซิลวา มักจะเล่นระบบ 4-2-3-1 แต่ส่วนใหญ่จะใช้แท็กติก 4-3-3 โดยมีมิดฟิลด์ตัวรับเพียงคนเดียวที่ยื่นต่ำในแผงกองกลาง ในส่วนของเกมรุกดูเหมือนว่าเขาจะมีมิติที่หลากหลายในการสร้างความอันตรายใส่คู่แข่ง แถมไม่เน้นการใช้ฟูลแบ็กดันขึ้นสูงเพื่อเล่นเกมรุกมากนัก
ผลงานที่โดดเด่นของ ซิลวา มีหลายแมตช์แต่หลายคนคงจดจำเกมที่พวกเขาไล่บดบี้ ลิเวอร์พูล ที่คราเว่น ค็อตเทจ ได้เป็นอย่างดี เพราะแมตช์นั้น "หงส์แดง" เจอกดดันจนเล่นผิดพลาด และนำไปสู่การพ่ายแพ้เลยทีเดียว
3. โอลิเวอร์ กลาสเนอร์
ชื่อของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ค่อนข้างหอมกรุ่นหลังจากที่เขานำ คริสตัล พาเลซ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ซึ่งเป็นโทรฟี่แรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมานานถึง 120 ปีเมื่อซีซั่นล่าสุด แต่นั่นกลายเป็นสัญญาณที่ทำให้ "ดิ เกิ้ลส์" อาจต้องเสียกุนซือคนเก่งไปก็ได้
กลาสเนอร์ สร้าง พาเลซ ด้วยการเล่นระบบ 3-4-2-1 ในฤดูกาล 2024/2025 ซึ่งเป็นแผนการเล่นที่ สเปอร์ส มักใช้เป็นบางครั้งบางคราว แม้พวกเขาอาจจะไม่คุ้นเคยกับแท็กติกนี้ แต่ระบบนี้เป็นโครงสร้างที่ชัดเจน เพราะเน้นการใช้วิงแบ็กขวาดันขึ้นสูงมากกว่าวิงแบ็กซ้าย ซึ่ง "ไก่เดือยทอง" สามารถรับมือกับวิธีนี้ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมีการใช้สามแนวรุกลงเล่นพร้อมกัน โดยให้ผู้เล่นสองคนขยับออกไปด้านข้างแต่ไม่ต้องมากนัก ในกรณีของ สเปอร์ส เชื่อว่า กลาสเนอร์ อาจจะเลือกใช้งาน เดยัน คูลูเซฟสกี้ กับ ซน ฮึง-มิน ทำหน้าที่สร้างสรรค์เกม และคอยสนับสนุน โดมินิค โซลันกี้ ในการยิงประตู ส่วน ริชาร์ลิซอน เป็นออปชั่นเสริม
4. ชาบี เอร์นานเดซ
ในกรณีของ ชาบี เอร์นานเดซ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจแต่เขาไม่ได้รับงานอะไรเลยนับตั้งแต่อำลา บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2024 ซึ่งมันราวกับว่าเขากำลังรองานที่เหมาะสม แล้ว สเปอร์ส ใช่หรือไม่ ?
ชาบี ทำผลงานได้ดีเยี่ยมกับ บาร์ซ่า ด้วยการนำทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา ทั้งๆ ที่ช่วงเวลานั้นไม่น่าจะได้มีลุ้นคว้าแชมป์ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะปัญหาวุ่นวายที่เกิดขึ้นนอกสนาม แต่เขาก็สามารถนำ "เจ้าบุญทุ่ม" ฟันฝ่าอุปสรรคจนประสบความสำเร็จ
กุนซือชาวสแปนิช มักใช้ระบบการเล่น 4-3-3 ตอนที่กุมบังเหียน บาร์เซโลน่า โดยเน้นแดนกลางให้เหนียวแน่นเพื่อให้ทีมมีโอกาสได้ครองเกมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ สเปอร์ส ก็ไม่ได้แย่กับการเล่นแบบนั้นเมื่อซีซั่นล่าสุด
สถิติการครองเกมของ "ไก่เดือยทอง" รั้งอยู่อันดับ 5 และผ่านบอลแม่นยำรั้งอันดับ 7 ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี สำหรับระบบของ ชาบี ให้ความสำคัญกับตำแหน่งริมเส้นมากๆ โดยเขามักใช้ฟูลแบ็กและปีกทั้งสองฝั่งขึ้นมาช่วยเล่นเกมบุกเพื่อโจมตีเกมรับคู่แข่ง ซึ่งมันได้ผลดีมากๆ ตอนที่คุม "เจ้าบุญทุ่ม"
5. ไมเคิ่ล คาร์ริค
ตอนแรกชื่อของ อันโดนี่ อิราโอล่า กุนซือบอร์นมัธ น่าจะติดหนึ่งในห้าออปชั่นของ สเปอร์ส แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ ไมเคิ่ล คาร์ริค มีลุ้นที่จะได้รับโอกาสสำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากๆ สำหรับแฟนบอล "น้องไก่"
คาร์ริค เพิ่งโดน มิดเดิ้ลสโบรช์ ซึ่งเขาเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2022 ไล่ออกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังพา "เดอะ โบโร่" วืดขึ้นพรีเมียร์ลีก 3 ปีติด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่บอร์ดบริหารจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง
แม้ คาร์ริค จะไม่ค่อยมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกมากนัก แต่เขาก็เคยรับบทบาทกุนซือชั่วคราวแมนยูไนเต็ด โดยคุมทีม 3 เกมพร้อมสถิติไร้พ่ายด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 ถือ แถมตอนนั้น "ผีแดง" เล่นเป็นทรงด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปต่อ และโยกไปรับงานคุม มิดเดิ้ลสโบรช์
ถึง อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ วัย 43 ปีจะมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกน้อยนิด แต่เขาก็มีความผูกพันกับ สเปอร์ส พอสมควรเพราะเคยใช้เวลาอยู่กับทีมในฐานะนักเตะ 2 ปี และโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นจน แมนยู ซื้อตัวไปร่วมทีม และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย รวมทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัยกับ "ผีแดง"
ดังนั้นประสบการณ์ในการเป็นนักเตะของ "ไก่เดือยทอง" และผ่านความสำเร็จมากมาย น่าจะมีประโยชน์กับทีม และถ้าหากพวกเขาพลาดตัวเต็งที่หมายตาเอาไว้ การแต่งตั้ง คาร์ริค ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย
TOMMY TEE.