ลิเวอร์พูล มีอะไรให้พัฒนาอีกหลังเจ๊า แมนยู

อีกครั้งที่เดอะค็อปต้องพึ่งยาดม

เป็นอีกครั้งหนึ่งแฟนหงส์ต่างพากันลุ้นเกมอย่างหนักหน่วงถึงขนาดต้องควักยาดมมาสูดดมให้ชื่นใจ หลังหัวจะปวดกับฟอร์มการจบสกอร์ที่ขาดความคม กลายเป็นสิ้นเปลืองในโอกาสการยิงประตูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด....ให้ตุงตาข่าย

ยิงทิ้งยิงขว้าง, หลุดเดี่ยวก็ติดเซฟ จ่อๆก็ยิงออก

ยิ่งช่วงครึ่งหลังเมื่อโดนผีนำ 2-1 น.67 

ภาพตัดไปข้างสนามดูแล้วสงสารเจอร์เก้น คล็อปป์ บอสใหญของเดอะ ค็อป ยิ่งนัก ที่ตะโกนโหวกเหวก โวยวายด่าใส่นักเตะอย่างสุดเครียด ออกอาการเซ็งลูกทีมที่ผิดพลาดง่ายๆให้คู่ปรับยิงประตูง่ายเกินไป 

ถ้าถามว่าบทสรุปของการเสมอ 2-2 ระหว่าง แมนฯยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล คืออะไร

ย้อนไปอ่านบทสรุปของผมสามสี่ข้อที่กระตุกเตือนพลพรรคลิเวอร์พูลไว้ก่อนแล้ว และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ

1 ใช้โอกาสเปลืองเหลือเกิน

ครึ่งแรกทั้งหลุดเดี่ยว, บุกแบบล่อเป้า เดินรถทางเดียว ยิงไป 15 เข้ากรอบ 4 ได้มาหนึ่ง ส่วนแมนฯยูไนเต็ดนั้น การยิงประตูสถิติคือ....ไม่มีเลยสักครั้งเป็น 0

2 งานหยาบของ ควอนซาห์

จนได้ครับ ครึ่งหลังเล่นไปแค่ 5 นาที นับจากเขี่ยบอล เมื่อ ยาร์เรล ควอนซาห์ จ่ายบอลเข้ากลาง ขวางสนามจะให้ ลูกพี่ ฟานไดจ์ ปรากฏว่า น้ำหนักขาด แถม บรูโน่ แฟร์นานเดส รอดักอยู่ เรียบร้อย บรูโน่ ยิงอย่างแม่น 1-1

ส่วนลูก 2-1 ของ คอบบี้ เมนู เจ้าหนูวัย 18  คนแรกที่ยิงประตูหงส์นับจาก เชสก์ ฟาเบรกาส ของอาร์เซน่อลเมื่อปี 2005 (ถ้าผมจำไม่ผิด)

เขายิงดีเกิน...ถ้าจะโทษก็คงเป็นกระบวนการรับและป้องกันที่มีผู้เล่นเยอะแยะ แต่ตัดบอลแย่งบอลไม่ได้ ให้ เมนู มีโอกาสปั่นโค้งเสียบมุมสวยงาม

นับจากนั้น....ผมเองนั่งบรรยายเกมงานอีเว้นต์ที่แดนเนรมิต ของ ทรูวิชันส์ ถึงกับต้องควักยาดม มาสูดให้ชื่นใจ คลายเครียดซะหน่อย เวียนหัวกับฟอร์มของนักเตะลิเวอร์พูลที่เริ่มผิดพลาดให้แมนฯยูฯ มีโอกาสโจมตีได้ ที่สำคัญ กว่าจะได้ประตูตีเสมอจากจุดโทษก็เหลืออีก 5-6 นาทีจะหมดเวลา

ถ้าถาม...ว่าผลเสมอเสียหายมั้ย

ไม่ครับ ผมเขียนดักเอาไว้แล้วว่ายังเหลืออีก 7 นัด มีอะไรให้พลิกผันและติดตามทุกสัปดาห์ เพียงแต่โอกาสที่อยู่ในมือนั้นปล่อยให้อาร์เซนอลไปแล้ว

ถึงบรรทัดนี้....ผมเองก็อยากจะย้ำในสิ่งทีเขียนทางเพจมาตลอดว่า

ลิเวอร์พูลนั้นลุ้นเป้าหมายคือท็อปโฟร์ตั้งแต่ก่อนเปิดซีซั่น แต่มันพัฒนาทีมได้ดีเกินจนลุ้นแชมป์ไปก้บแมนฯซิตี้ และ อาร์เซน่อล 

ผมไม่เชื่อสายอวย...เพราะมองจากฟุตบอลที่เป็นไป

มีอะไรให้พัฒนาอีก....อย่างน้อยเกมนี้และอีกหลายเกมเราเห็นแล้วว่า

1 เกมรุกขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์ มีโอกาสแล้วทำไม่ได้ เปลืองมาก

2 เกมรับชุดนี้....ยังไม่เนี้ยบและแกร่งเท่าชุดแชมป์เมื่อ 4 ปีก่อน

3 นักเตะของทีมชุด JK2.0 หลายคนยังพึ่งพาและฝากความหวังไม่ได้มากนัก

เกมเจอกับแมนฯยูไนเต็ดนี้เห็นกันอยู่แล้ว ไม่ต้องบอกว่าชื่ออะไร

โอเคครับ...สิ่งที่เกิดขึ้นบนตารางคะแนนเวลานี้คือโบนัสของทีมล้วนๆ และควรดีใจกับผลงานของทีมที่เติบโตขึ้นมากเหมือนเราได้กลิ่นหอมแห่งความสดชื่นในขุนพลนักเตะชุด JK 2.0

ที่ต้องยอมรับ.....หากมองไปยังผลงานของ อาร์เซน่อล และ แมนซิตี้

โดยเฉพาะ "ปืนใหญ่" พวกเขาคือทีมที่ดีที่สุดในเวลานี้ ไม่ใช่ตำแหน่ง "จ่าฝูง"

หากแต่เป็นการเล่นเกมรุกและรับ ที่สมดุล ลงตัว รุกดี รับได้ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนแรกของซีซั่น

7 นัดจากนี้ไป....ลุ้นกันสุดตื่นเต้นแน่นอน

เพียงแต่ต้องยอมรับด้วยส่วนหนึ่งว่าลิเวอร์พูลยังคงขาดบางสิ่งบางอย่างที่จำเป็นต่อการคว้าแชมป์ 

ซึ่งช่วงที่เหลือมาดูกันว่า...พวกเขาจะปรับปรุงทีมได้ทันหรือไม่

JACKIE


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport