เข้าใกล้เป็นทีมชั้นยอด! เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ลั่น เชลซี ต้องปรับแค่ไม่กี่จุด

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ระบุ เชลซี เหลือแค่ปรับปรุงอีกเพียงเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น พวกเขาก็จะกลายเป็นทีมชั้นยอดแล้ว พร้อมยืนยันว่าตอนนี้ "สิงห์บลูส์" เต็มไปด้วยดาวรุ่งจนต้องใช้เวลาทำทีมสักพัก

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีม เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าทีมของตนแค่จำเป็นต้องปรับปรุงเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น เพื่อที่จะกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งได้

จนถึงตอนนี้ เชลซี มีผลงานโดยรวมที่ยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นักเมื่อพิจารณาถึงจำนวนเงินที่พวกเขาใช้ไปในการเสริมทัพตลอดช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมันก็ทำให้หลายคนมองว่า โปเช็ตติโน่ อาจจะโดนปลดออกจากตำแหน่งได้ในอนาคตอันใกล้

กุนซือชาวอาร์เจนไตน์เผยว่า "เราจำเป็นต้องปรับปรุงตรงจุดไหนน่ะเหรอ ? ก็แค่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณมีประสบการณ์, ได้ใช้เวลาสักพัก และได้เล่นร่วมกันสักหน่อยก็เท่านั้น เมื่อคุณอยากฆ่าใครสักคนแล้วน่ะมันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะทำข้อมูลและตัวเลขบางอย่างขึ้นมา แต่เมื่อข้อมูลมันออกมาดีแล้วนั้นมันก็ถือเป็นการสะท้อนว่าทีมกำลังเล่นได้ดี เราต้องเชื่อมั่นในกระบวนการเข้าไว้"

โปเช็ตติโน่ ยืนกรานด้วยว่าทีมของตนยังอยู่ในช่วงเริ่มสร้างทีมกันใหม่เท่านั้น โดยบอกว่าพวกเขาต้องทำงานกับนักเตะที่เป็นเพียงดาวรุ่งถึงหลายคน "ตอนที่เราเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ๆ น่ะเรารู้ดีว่าความท้าทายของเราคือการต้องช่วยนักเตะดาวรุ่งเป็นจำนวน 10 คน ไม่ใช่แค่ 1 หรือ 2 คน และถ้าเราไม่ทำงานแบบนิ่งเข้าไว้หรือไม่วิเคราะห์โปรเจ็กต์ตามแบบที่เราทำแล้วล่ะก็ บางทีสักวันหนึ่งมันก็อาจจะมีการเปลี่ยนตัวกุนซือจนคุณต้องได้คุยกับกุนซือคนอื่นก็ได้"

"เราเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนทิศทางของสโมสรมันมีความหมายว่ายังไง ตอนนี้ทุกอย่างมันต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เราอยากทำผลงานให้ดีที่สุด ทั้งเพื่อสโมสร, เพื่อเจ้าของ, เพื่อนักเตะ และเพื่อบรรดาแฟนๆ แน่นอนว่าเราอยากได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก และวันหนึ่งเราจะทำแบบนั้นได้แน่ แต่ถ้าทีมงานของเราทำแบบนั้นไม่ได้มันก็จะมีสตาฟฟ์โค้ชชุดอื่นเข้ามาแล้วพาทีมได้แชมป์อยู่ดี เพราะกระบวนการสร้างทีมใหม่แบบนี้มันจำเป็นต้องเกิดขึ้น และต้องเกิดขึ้นในแบบที่ดีที่สุดด้วย ซึ่งก็คือตามแบบที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ถ้ามันไม่มีกระบวนการแบบนี้แล้วล่ะก็มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่นักเตะดาวรุ่งจะพัฒนาได้"


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport