สามแต้มที่ไม่ง่ายของจ่าฝูง "ลิเวอร์พูล"

ก่อนเกมปีใหม่นี้ นัดที่20 ของ "จ่าฝูง" ข้ามปี เหมือนง่ายก่อนเกม, ระหว่างเกม 

แต่กลับไม่ง่ายเลย

เมื่อบรรดากองหน้า "เปลือง" เหลือเกิน

ติดตามบทวิเคราะห์แบบละเอียดทางช่องยูทูป JK jackie 

มาร่วมกันแชร์ทัศนะการรักษา "จ่าฝูง"ข้ามปีของหงส์แดงกัน

1 ดาร์วิน และ10 เซฟของ ดูบราฟสก้า

เฉพาะครึ่งแรกได้รับการบันทึกว่า เด็กหงส์สร้างโอกาสยิง18 ครั้ง เฉพาะ ดาร์วิน แบบเดี่ยวๆง่ายๆ 3 ติดเซฟ ดูบราฟสก้า ส่วนอีก 15 ครั้งเพื่อนๆ ยิงกันไม่คม รวมทั้งจุดโทษของ โม ซาลาห์

เมื่อ เม.ย. 2016 ลิเวอร์พูลยิงทอฟฟี่ 18 ครั้ง แต่ตอนนั้นนำ 2-0

ปี2015 ยิงเลสเตอร์ ครึ่งแรก 20 ครั้ง ไม่เข้าเลย

ส่วนนิวคาสเซิล ยิง1ครั้ง ใน45 นาทีแรก ไม่เข้ากรอบเลย

เฉพาะ ดาร์วิน ครึ่งหลังอีกสามครั้งก่อนโดนเปลี่ยนออก 

บอลโดนเข่า, หลุดเดี่ยว  และโหม่งข้ามคาน

ไหวมั้ย ดาร์วิน "แคร์โรลล์" นูนเยส

ทั้งเกมลิเวอร์พูลสร้างโอกาสยิง34 ครั้ง เข้ากรอบ 15 ได้มา 4

นิวคาสเซิล ยิง 5 เข้ากรอบ 3 ได้สองลูก สาลิกาดูเด็ดขาดกว่า

แต่ทั้งนี้ต้องชม ดูบราฟสก้า ที่ทำให้ทีมอยู่ในเกม 10 เซฟด้วยกัน

2 โม ซาลาห์  โชว์

แม้ยิงจุดโทษพลาด ติดเซฟ ดูบราฟสกา และยิงเข้าแก้ตัวลูก 4-2 แต่การเล่นโดยรวมของเขาคือหัวใจที่ขาดไม่ได้  ยิงสองจ่ายหนึ่ง มีส่วนร่วมในการได้ประตู อย่างลูกที่ โจนส์ ได้ยิง เริ่มมาจาก ซาลาห์ ประสานงานกับ โชต้า 

มีสถิติของโม  น่าสนใจ การพลาดจุดโทษ

นับย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2017 นี่คือครั้งที่ 6 จากการได้ยิง 29 ครั้ง คนที่พลาดมากกว่าคือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด 9 ลูก โอเว่น 7 ลูก 

สรุป 20 นัดของโม 14 ประตู 8 แอสซิสต์ 

หลังเกมนี้ ซาลาห์ ยิง 152 ลูกให้กับหงส์แดง ติดอันดับท็อปโฟร์ ต่อจาก เอียน รัช แล้ว 

3 เคอร์ติส โจนส์ ก้าวข้ามแล้ว?

หนึ่งในเกมที่ โจนส์ เล่นได้ยอดเยี่ยมปีนี้ ดีกว่า โซโบสไล แน่นอน ทั้งการร่วมเล่น การไล่ตัดบอล รวมทั้งยิงประตู สำคัญขึ้นนำ 2-1 น.74 ส่วนพื้นที่ฮาล์ฟ สเปซ ของเขาไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบการเสียประตูสองลูก แน่นอน 

หวังว่าจะรักษาฟอร์มให้ต่อเนื่อง

4 ศักยภาพของทีม

การเปลี่ยนตัวสามคน ถอด ดิอาส, ดาร์วิน, โซโบสไล ออก แล้วส่ง โชต้า, กัคโป และ กราเฟนแบร์ก คือศักยภาพแนวลึกของทีม ในสถานการณ์ 1-1 เมื่อถึง น.64 พอสามคนนี้ลงมาใช้เวลาสิบนาทีได้ประตูและขึ้นนำ 3-1

การมีทีมใหญ่ขึ้นและพร้อมเปลี่ยนตัว ทำให้ไม่ต้องไปยึดติดกับนักเตะที่ลงสนามและการแข่งขันเพื่อแย่งกันสร้างผลงานนั้นสูงขึ้น ซึ่ง... ปีที่แล้วไม่มีแบบนี้ 

ศักยภาพของทีมโดยเฉพาะแนวรุก นั้นทำให้การสร้างโอกาสแดนสามของหงส์แดงเกิดขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะใช้โอกาสเปลืองมากมายก็ตาม

คิดดูยิง 34 ครั้งเท่ากับนัดที่เสมอ แมนยู 0-0 

5 การเสียสองลูก

น.54 นิวคาสเซิล ยิงเข้ากรอบครั้งแรก ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะ อีซัค blind side run หลัง โกนาเต้ เมื่อ กอร์ดอน เตรียมออกบอลให้ โดย ฟานไดจ์ ตามไม่ทัน ทั้งที่เห็น การออกตัว อีซัค ก่อนหลุดไปยิงเข้ากรอบครั้งแรก ตุงตาข่าย

ประตู 3-2 จากจังหวะเตะมุม ไม่มีใครประกบ สเวน บอตแมน สมาธิตรงนี้ไม่ดี

อย่างไรก็ตามการรุกที่ต่อเนื่องบวกกับ นิวคาสเซิล ใจใหญ่ หลายครั้งขึ้นบุก มักมีพื้นที่ว่างให้โจมตี จนเป็นที่มาของการโดนไป 4 ลูก และแพ้หงส์แดงไปกลับในซีซั่นนี้ 

ปีใหม่ 2023 ลิเวอร์พูลอยู่ที่หก 12 แต้มตามหลังอาร์เซน่อล

ปีใหม่ 2024 ลิเวอร์พูล "จ่าฝูง" นำผู้ตามสามแต้ม และอาร์เซน่อล 5 แต้ม

ก้าวหน้าขึ้นมาก...แต่ยังต้องการความเนี้ยบในการเล่นแต่ละเกม

หาไม่แล้วจะทำแต้มตกหล่นอย่างง่ายๆ หากเจอเกมที่ที่ไฮไลน์ ดีเฟ้นส์ เอาไม่อยู่ และที่พลาดมากกว่าคือ การใช้โอกาสที่ "สุดเปลือง" หนึ่งในนั้นมี ดาร์วิน นูนเยส ที่ต้องโดนตำหนิ

ชนะ 4-2 เหมือนง่าย ถ้าหากไม่ใช้โอกาสเปลืองเกินไป

JACKIE