เดแคลน ไรซ์ ตะบันคุ้มเม็ดเงิน ,ผีแดงโคม่า! 5 ประเด็นเกม อาร์เซน่อล รัวกระสุนแซงยำ แมนยู

อาร์เซน่อล ระเบิดฟอร์มสุดยอดเปิดบ้านไล่สาดกระสุนแซงหน้าเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้แบบสุดมัน 3-1 จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ย.รักษาสถิติไร้พ่ายในซีซั่นนี้ได้ต่อไป พร้อมทั้งการันตีการลุ้นแย่งแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ อย่างชัดเจน

สวนทางกับ ผีแดง ที่ออกสตาร์ตสี่เกม แพ้ไปแล้วถึงสองเกมซึ่งนอกจากรูปเกมจะย่ำแย่ต้องอาศัยจังหวะโต้กลับสร้างปัญหาให้กับเจ้าบ้านเท่านั้นแล้ว  ทีมของ เอริค เทน ฮาก เริ่มมีปัญหาแผงหลังพากันล้มเจ็บระนาวอีกด้วย

1. ปืนโตปรับทัพสามตำแหน่ง

มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เปลี่ยนโผนักเตะตัวจริงสามรายจากเกมเสมอกับ ฟูแล่ม 2-2 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางทีมชาติ กาน่า ล้มเจ็บขาหนีบขณะซ้อมเพิ่มเป็นรายล่าสุด

สำหรับสามตำแหน่งที่ว่าประกอบไปด้วย กาเบรียล มากัลเญส , โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ได้ออกสตาร์ตก่อนหน้า ยาคุบ คิวิออร์ , ปาร์เตย์ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ ขณะที่ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ พ้นโทษแบนมีชื่อนั่งสำรอง

2. โผผีแดงตามคาดเป๊ะ

แมนฯ ยูไนเต็ด จัดทัพตามความคาดหมายทุกตำแหน่งด้วยการเปลี่ยนนักเตะ 11 ตัวจริงแค่รายเดียวจากเกมเปิดบ้านเฉือนชนะ ฟอเรสต์ 3-2

จากปัญหาบาดเจ็บของ ราฟาแอล วาราน ส่งผลให้  เทน ฮาก ส่ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ออกสตาร์ต นอกนั้นอีกสิบรายล้วนเป็นนักเตะหน้าเดิม ขณะที่ขุนพลใหม่อย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ และ เซร์คิโอ เรกีลอน ประเดิมสนามในฐานะตัวสำรองไปก่อนเนื่องจากยังไม่เคยลงเล่นเป็นเกมกับเพื่อนใหม่รวมถึง จอนนี่ อีแวนส์ ด้วยที่ได้สัญญาหนึ่งปี ส่วน อัลตาย บายินเดียร์ รั้งตำแหน่งนายทวารมือสอง

อย่างไรก็ดี เจดอน ซานโช่ กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ไม่ได้เดินทางมากับทีมเมื่อวานท่ามกลางรายงานข่าวที่ตั้งข้อสังเกตว่าทั้งสองน่าจะถูกอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ เทน ฮาก เผยว่ารายแรกซ้อมไม่เข้าตาจึงไม่มีชื่อติดทีมนัดนี้ ขณะที่ โซฟียาน อัมราบัต มิดฟิลด์ตัวใหม่ยังไม่มีเอี่ยวเนื่องจากเพิ่งเดินทางมารายงานตัวเมื่อวันเสาร์

3. ทีเด็ด แรชฟอร์ด

เห็นกันได้ชัดอีกครั้งว่า  มาร์คัส แรชฟอร์ด ถนัดกับการเล่นทางฝั่งซ้ายของสนามมากกว่าการยืนเป็นหน้าเป้าเนื่องจากเป็นเขาเองที่ยิงประตูให้ทีมบุกมานำ อาร์เซน่อล ในนาทีที่ 27 จากโอกาสแรกของเกมที่ ผีแดง คว้าเอาไว้ได้

หลังตัดเกมของเจ้าบ้านได้ คริสเตียน เอริคเซ่น ก็ไหลบอลขึ้นทางซ้ายให้ แรชฟอร์ด อาศัยความเร็วกระชากขึ้นหน้าก่อนที่สตาร์ทีมชาติ อังกฤษ โยกเข้าในตามสไตล์แล้วยิงปั่นเข้าเสาสองชนิดที่ อารอน แรมสเดล พยายามปัดแล้ว แต่บอลยังทะลักปลายนิ้วเข้าประตู

ถึงตรงนี้ แรชฟอร์ด กลายเป็นนักเตะตัวแสบของ อาร์เซน่อล ไปแล้วเนื่องจากเขาเป็นขุนพลทีม แมนฯ ยูไนเต็ด รายที่สองที่ยิงประตูทีม ปืนใหญ่ ได้ในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นนัดที่สามติดต่อกันต่อจากที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เคยทำได้ในปี 2012-2013

4. โอเดการ์ด ตัวตึงท็อปกัน

หลังเสียประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด พักเดียว อาร์เซน่อล ก็ทวงคืนได้อย่างรวดเร็วในนาทีต่อมาจากจังหวะตะบันคมกริบของ มาร์ติน โอเดการ์ด ซึ่งถือเป็นประตูที่เป็นเครื่องหมายการค้าของสตาร์ทีมชาติ นอรเวย์ ที่เราได้เห็นจนชินตาในระะยหลัง

และแน่นอนว่าการพังประตูในลักษะดังกล่าวของกัปตันทีม ปืนใหญ่ ทำให้เขาเป็นมิดฟิลด์จอมกระซวกตาข่ายชั้นแนวหน้าคนหนึ่งไปแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนับเฉพาะลูกยิงที่ไม่รวมลูกโทษของบรรดาสตาร์ใน พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ซีซั่นก่อน มีแค่ห้ารายเท่านั้นที่เช็กบิลได้มากกว่าอดีตกองกลางทีม เรอัล มาดริด 

34 ประตู : เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

25 ประตู : แฮร์รี่ เคน

19 ประตู : โม ซาลาห์

18 ประตู : มาร์คัส แรชฟอร์ด

17 ประตู : คัลลั่ม วิลสัน

16 ประตู : มาร์ติน โอเดการ์ด

5. ไรซ์ เดอะ ฮีโร่

จะว่าไปเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เกือบจบลงด้วยการแบ่งแต้มกันไปแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าบ้านไม่ได้ลูกโทษในจังหวะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ร่วงโดยท่านเปาชี้ว่า อารอน วาน บิสซาก้า ไม่ได้แหย่ขาดักล้มหลังออกไปเช็กจอวีเออาร์แล้ว และถัดมา ผีแดง ก็พลาดได้เม็ดสองแม้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ตัวสำรองจะทะลุไปส่องได้อย่างเด็ดขาด แต่วีเออาร์ระบุว่าสตาร์อาร์เจนไตน์ล้ำหน้า

อย่างไรก็ดี ในฐานะทีมที่เล่นได้เหนือกว่า อาร์เซน่อล มากดเม็ดสองเพิ่มจนได้ในช่วงทดเวลานาทีที่ 6 จากจังหวะเก็บตกลูกเตะมุมที่เสาไกลโดย เดแคลน ไรซ์ เจ้าของค่าตัวมหาศาลซัดบอลเสียบมุมแคบชนิดที่ อ็องเดร โอนาน่า ปัดไม่หลุด

กระทั่งในช่วงทดเวลานาทีสุดท้ายซึ่ง ผีแดง จำต้องโหมบุก เจ้าบ้านก็ตอกประตูปิดฝาโลงได้จากการโต้กลับที่ กาเบรียล เชซุส ตัวสำรองควบไปซัดไม่เหลือพาทีมเมืองหลวงคว้าชัยไปอย่างยิ่งใหญ่ 3-1  โดยแน่นอนว่าพวกเขาพลิกกลับมาเล่นได้เหนือกว่าอาคันตุกะอย่างชัดเจนตลอด 45 นาทีหลังจากที่มีสถิติแฉออกมาว่าเกมในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้เหนือกว่า 55:45% แต่ อาร์เซน่อล ได้ยิงมากกว่า 9:3 ครั้ง และเข้ากรอบ 1 ครั้งเท่ากัน

จากนั้นในครึ่งหลัง เจ้าบ้านเป็นฝ่ายพับสนามบุกได้กระทั่งคว้าสามแต้มได้สำเร็จโดยสถิติหลังจบเกมชี้ว่าทีมของ อาร์เตต้า ครองบอลได้เหนือกว่า 55:45% และได้ยิงประตูรวม 17 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ยิงทั้งหมด 10 ครั้ง และเข้ากรอบแค่ 2 ครั้ง

อย่างไรก็ดี นอกจากจะบุกมาแพ้ อาร์เซน่อล แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ยังโดนโรคเดี้ยงเล่นงานด้วยโดยเฉพาะแผงหลังซึ่ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ ลินเดอเลิฟ ที่โดนเปลี่ยนออกมีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งคู่ ต้องอยู่ในลิสต์นักเตะที่เดี้ยงของทีมเช่นเดียวกับ วาราน , ลุค ชอว์ , ไทเรลล์ มาลาเซีย แต่ยังดีที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไม่ได้ย้ายไปไหน อีกทั้ง เทน ฮาก เซ็นสัญญาดึง อีแวนส์ กลับมารับใช้ทีมอีกวาระ ไม่เช่นนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด คงต้องหัวหมุนแน่กับการจัดหาเซ็นเตอร์ฮาล์ฟขัดตาทัพหลังจากตลาดนักเตะปิดลงไปแล้ว

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ที่สำคัญที่สุดมันฟ้องให้เห็นว่าซีซั่นใหม่นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีพัฒนาการที่แย่ลงเพราะไม่ว่าจะเล่นกับทีมไหน พวกเขาแทบไม่มีฟอร์มที่ดีแสดงให้เห็นเลย ยิ่งนัดบู๊กับทีมใหญ่ ปีศาจแดง ล้วนครองเกมได้แย่กว่า และต้องอาศัยจังหวะโต้กลับเล่นงานฝ่ายตรงข้ามสถานเดียวอันทำให้ผ่านไปสี่เกมแรก ทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ชนะสองแพ้สอง และมีผลต่างประตูติดลบสองซึ่งเห็นได้ชัดว่านอกจากจะสอยตาข่ายคู่แข่งได้ลำบาก และเป็นไปอย่างจุ๋มจิ๋มไม่เลิก เกมรับยังเป็นปัญหาที่  เทน ฮาก แก้ไม่ตกเช่นกันหลังเสียไปแล้วถึง 7 ประตูจาก 4 เกม และยิงได้แค่ 5 ประตูเท่านั้น


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport