บอลคนละชั้น, ฮาลันด์ เทพยังต้องคารวะ! 5 ประเด็น แมนซิตี้ ขยี้ แมนยู

บอลคนละชั้น, ฮาลันด์ เทพยังต้องคารวะ! 5 ประเด็น แมนซิตี้ ขยี้ แมนยู
ต้องยอมรับตามตรงว่ายังสู้กันไม่ได้จริงๆสำหรับ แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเกมล่าสุดที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ต.ค.เรือใบสีฟ้า ถล่มแหลก ผีแดง ได้อีกตามเคย

จากสกอร์ที่ขาดลอย 6-3 มันฟ้องให้เห็นว่าเมือง แมนเชสเตอร์ ยังเป็นสีฟ้า และมีอยู่ 5 ประเด็นที่สมควรพูดถึงดังนี้

1.เทน ฮาก ก็ไม่รอด


ในเกม แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สัมผัสกับเกมนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายจาก อาแจ็กซ์ มารับงานใน พรีเมียร์ลีก

หลังคุมทีมออกสตาร์ตด้วยความปราชัยในสองเกมแรก เทน ฮาก แก้ตัวได้ดี และทำให้สาวก เร้ด อาร์มี่ กระชุ่มกระชวยมากขึ้นกับการพาทีมพิชิตทั้ง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล

แต่กับ แมนฯ ซิตี้ ผู้จัดการทีมชาวฮอลแลนด์หนีไม่พ้นต้องประสบกับความพ่ายแพ้ในเกมดาร์บี้แมตช์นัดแรกของเขาเช่นเดียวกับคนที่อยู่ในตำแหน่งก่อนหน้าเขาทั้งห้ารายไม่ว่าจะเป็น เดวิด มอยส์ , หลุยส์ ฟาน กัล , โชเซ่ มูรินโญ่ , โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ ราล์ฟ รังนิก ซึ่งคุมทีมลงเล่นกับ เรือใบสีฟ้า นัดแรกด้วยความพ่ายแพ้เช่นกัน

อันหมายความว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือนายใหญ่ ผีแดง คนสุดท้ายที่พาทีมบู๊กับ แมนฯ ซิตี้ ในเกมแรกของเขา และสามารถกำชัยได้เมื่อเดือนมี.ค.1987

2.ฮาลันด์ เทพยังต้องหลีกทางให้


นาทีนี้ไม่พูดถึงหมอนี่ไม่ได้เลยจริงๆสำหรับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าคนใหม่ของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งทำให้แฟนบอล เรือใบสีฟ้า ลืม กาเบรียล เชซุส ไปได้สนิทใจเนื่องจากดาวยิงร่างยักษ์อันตรายในทุกฝีก้าวจริงๆ

ถึงขณะนี้ซึ่งฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เล่นกันไปได้แค่แปดเกม ฮาลันด์ เขย่าขวัญบรรดากองหลังด้วยการพังประตูไปแล้ว 14 ลูก และหากรวมทุกรายการก็เป็น 17 ลูกจาก 11 นัด

เท่านั้นไม่พอ อดีตกองหน้าทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังเป็นนักเตะคนแรกที่ซัดแฮตทริคเกมเหย้าใน พรีเมียร์ลีก ได้สามนัดติดต่อกันอีกด้วย (ชนะ พาเลซ 4-2, ชนะ ฟอเรสต์ 6-0) และสามแฮตทริคของเขาในเวลาแค่แปดเกมก็มากกว่าสตาร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , เจมี่ วาร์ดี้ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกัน ฟิล โฟเด้น ก็กระทุ้งแฮตทริคแรกของเขากับทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จในเกมชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 6-3 ซึ่งทำให้ทั้งเขา และ ฮาลันด์ เป็นขุนพลทีม เรือใบสีฟ้า รายที่สามและสี่ที่กดแฮตทริคใส่ทีมร่วมเมืองได้ต่อจาก ฟรานซิส ลี ในเดือนธ.ค.1970 และ โฮเรซ บาร์นส์ ในเดือนต.ค.1921

ต่อการทำแฮตทริคได้สองคนในเกมเดียวของ ฮาลันด์ และ โฟเด้น เป็นที่เผยว่านี่คือคู่ที่สามที่ยิงได้คนละสามตุงในเกม พรีเมียร์ลีก  ต่อจากเกมที่ อาร์เซน่อล ยำใหญ่ เซาธ์แฮมป์ตัน 6-1 เมื่อเดือนพ.ค.2003 ซึ่ง เจอร์เมน เพนแนนต์ กับ โรแบร์ ปิแรส ซัดแฮตทริคได้เช่นเดียวกับเกมที่ เลสเตอร์ บุกไปอัด เซาธ์แฮมป์ตัน 9-0 เมื่อเดือนต.ค.2019  โดยมี อโยเซ่ เปเรซ กับ เจมี่ วาร์ดี้ ซัดได้คนละสามเม็ด

สำหรับ ฮาลันด์ เจ้าตัวกลายเป็นดาวซัลโวชาว นอรเวย์ ในเกม แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ไปแล้วหลังคลำเป้าได้สามเม็ด เหนือกว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เคยยิง เรือใบสีฟ้า แค่เม็ดเดียวเท่านั้น

สำหรับสามแฮตทริคใน พรีเมียร์ลีก ของ ฮาลันด์ ซึ่งใช้เวลาลงสนามแค่แปดนัดทำให้เขาเหนือกว่าดาวยิงหลายรายที่ทำแฮตทริคในเกม พรีเมียร์ลีก ได้สามหนเช่นกัน แต่ใช้เวลานานกว่ามากทั้ง ไมเคิ่ล โอเว่น 48 นัด ,รุด ฟาน นิสเตลรอย 59 นัด , เฟร์นานโด ตอร์เรส 64 นัด , แอนดี้ โคล 65 นัด และ หลุยส์ ซัวเรซ 71 นัด

3.แง่ดีของ แมนฯ ยูไนเต็ด

ในความพ่ายแพ้ที่ยับเยิน อย่างน้อย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็พอจะมองถึงแง่ดีได้บ้างเช่นกัน

ประการแรก หลังโดนสอยไปถึงสี่ประตูในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาเล่นได้ดีขึ้นในครึ่งหลังแม้เจ้าบ้านอาจเพลาเกมลงไปก็ตามเนื่องจากทีมของ เทน ฮาก ยิงประตูได้สามลูก ขณะที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เช็คบิลเพิ่มได้อีกสองลูกซึ่งถือว่าผู้มาเยือนชนะใน 45 นาทีหลัง

ประกอบกับสถิติต่างๆของเกมก็ชี้ไปในทิศทางนั้นเนื่องจากครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นรองชนิดเทียบกันไม่ได้ทั้งเปอร์เซนต์การครองบอล 62:38% และโอกาสทำประตู 15:3 โดย แมนฯ ซิตี้ ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 7:2

อย่างไรก็ดี หลังจบ 90 นาที ตัวเลขต่างๆของทีมเยือนกระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัดซึ่งยืนยันได้ว่า ผีแดง แก้ไขสถานการณ์ได้ดีขึ้นโดยมีเปอร์เซนต์การครองบอลเป็นรอง 54:46%, โอกาสทำประตูรวมทั้งเกม 22:12 และส่งบอลเข้ากรอบ 10:8

นอกจากนี้ อย่าลืมว่า อันโตนี่ ปีกแซมบ้าซึ่งสอยตาข่ายได้ในเกมประเดิมสนามของเขากับ อาร์เซน่อล ยิงประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในลีกได้สองนัดติดต่อกันด้วยแม้ฟอร์มในเกมล่าสุดจะไม่ได้น่าประทับใจอะไรก็ตาม

ขณะเดียวกัน ที่อาจเป็นข่าวดีสำหรับ ผีแดง มากที่สุด แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพิ่มขึ้นไปอีกก็คือ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หายเจ็บกลับมาลงเล่นเป็นตัวสำรองได้แล้ว แถมหัวหอกเฟรนช์แมนยังตะบันประตูได้ถึงสองลูกอีกต่างหาก

4.รอลุ้นปฏิกริยาของ โรนัลโด้


เป็นอันว่า โรนัลโด้ เพิ่มสถิติในทางลบหล่นเป็นตัวสำรองห้านัดติดต่อกันในลีกซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ศูนย์หน้านามกระเดื่องต้องประสบกับสถานภาพแบบนี้นับตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งเขายังค้าแข้งอยู่กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมในบ้านเกิด

ขณะเดียวกัน ในเกมบุกไปแพ้ แมนฯ ซิตี้ โรนัลโด้ ไม่ถูกส่งลงสนามอีกต่างหากซึ่ง เทน ฮาก อธิบายกับสื่อว่าต้องการแสดงความเคารพดาวยิงวัย 37 ปีเพื่อไม่ให้มีมลทินเนื่องจาก ผีแดง ตกเป็นรอง เรือใบสีฟ้า หลายขุม

ถึงขณะนี้ "ซีอาร์เซเว่น" ถล่มประตูในทุกรายการไปแล้ว 699 ลูก แบ่งเป็น 497 ลูกในเกมลีก และยิงได้สี่ประตูบวกกับสองใบแดงจาก 12 นัดที่ได้ต่อกรกับ แมนฯ ซิตี้

อย่างไรก็ดี หลังถูกมองข้ามไม่ได้ลงเล่นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม จึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่าหัวหอกคนดังจะก่อเรื่องแสดงปฏิกริยาในทางลบเหมือนที่ผ่านๆมาหรือเปล่าไม่ว่าจะเป็นการขาดซ้อมโดยอ้างเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นหรืออะไรก็ตามซึ่งเจ้าตัวมักสร้างเรื่องฉาวเสมอในหลายๆครั้งที่ไม่ได้รับในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

5. โอกาสฟอร์มทีมใหม่ของ ผีแดง

จากที่แพ้ให้กับ ไบรท์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด เทน ฮาก แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถหล่อหลอม แมนฯ ยูไนเต็ด ให้เข้าที่เข้าทางได้ถึงขนาดมีชัยเหนือ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล

กระทั่งในเกมบุกไปแพ้ แมนฯ ซิตี้ มันฟ้องให้เห็นว่า ผีแดง ยังไม่ดีพอถึงขนาดมีลุ้นคว้าความสำเร็จในลีกเนื่องจากมีทีมร่วมเมืองเป็นกระดูกขวางคอชิ้นใหญ่แม้ว่า เทน ฮาก จะเลือกใช้งานทีมชุดเดิมจากเกมลีกนัดล่าสุดที่เปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด สยบ อาร์เซน่อล 3-1 ก็ตาม

ฉะนั้นแล้ว ด้วยสกอร์แพ้ขาดลอย 6-3 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม อาจส่งผลให้กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ฟอร์มทีมขึ้นมาใหม่อีกรอบหลังจากเป็นที่เชื่อกันว่าเขาควานหาทีมที่ใช่ได้อย่างลงตัวแล้วจนทำให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ

ในกรณีนี้ บางทีเราอาจได้เห็น กาเซมีโร่ ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างจริงๆจังๆสักทีหลังจากที่ผ่านมา เทน ฮาก ให้ความเชื่อมั่นในตัว สกอตต์ แม็คโมมิเนย์ มากกว่าซึ่งไม่แน่ว่าเขาอาจเปลี่ยนใจส่งอดีตมิดฟิลด์ทีม เรอัล มาดริด จับคู่กับ เฟร็ด เพื่อนร่วมชาติดูสักตั้งเนื่องจากคู่นี้คือคู่มิดฟิลด์ในโผ 11 คนแรกของทีมชาติ บราซิล ซึ่งได้ลงเล่นด้วยกันบ่อยครั้งในหลายเกมหลังโดยทีมเมืองกาแฟมีผลงานชนะรวดเจ็ดนัดติดต่อกันแล้ว

นอกจาก กาเซมีโร่ แล้ว ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายทีมชาติ อังกฤษ อาจได้รับโอกาสให้พิสูจน์ตัวเองอีกหนด้วยเพราะเท่าที่เห็น ไทเรลล์ มาลาเซีย ยังไม่ถึงกับมีความแข็งแกร่งมากพอ รวมถึง เจดอน ซานโช่ อีกรายที่ฟอร์มยังดูไม่จืด และอาจต้องหลีกทางให้ แอนโธนี่ อีแลงก้า ดูบ้าง

แต่ที่แน่ๆ อาการบาดเจ็บของ ราฟาแอล วาราน ไม่เป็นผลดีต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจาก เทน ฮาก ไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้อีกแล้วไม่ว่าจะเป็น วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ หรือว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ยังบาดเจ็บซึ่งอาจทำให้ใครบางคนถูกโยกมารับบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟขัดตาทัพก็เป็นได้ แต่ไม่รู้ว่าจะทำให้ทีมแย่ลงหรือเปล่าหากว่าดาวเตะทีมชาติ ฝรั่งเศส จะล้มเจ็บไปนานอีกรอบ


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X