5 สิ่งที่แมนยูต้องทำเพื่อเอาชนะแมนซิตี้

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หวังล้างแค้นสางความผิดหวังที่พวกเขาโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปราบทั้งไป-กลับในเกมลีกเมื่อซีซั่นก่อน ด้วยสกอร์ 0-2 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด และ 1-4 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม

ภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก ฤดูกาลนี้ "ปีศาจแดง" ปราบ 2 บิ๊กทีมมาได้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล โดยอยู่ในฟอร์มยอดเยี่ยมคว้าชัยเกมลีกมาแล้ว 4 นัดติด ยิ่งไปกว่านั้นการออกมาเยือนรัง "เรือใบสีฟ้า" 4 ครั้งหลังสุด พวกเขาเก็บชัยชนะออกไปได้ถึง 3 เกมเลยทีเดียว

แล้วหากทัพอสูรแดงอยากคว้าชัยในลีก 5 เกมติด ต้องทำอย่างไรบ้างล่ะ? ไปดู 5 สิ่งที่พวกเขาต้องทำหากอยากเป็นผู้ชนะในเกมนี้

1. ใส่ความเข้มข้นตั้งแต่ต้น

หลังจากแพ้ 2 เกมแรกต่อ ไบรท์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด ถัดจากนั้นพวกเขาก็คืนฟอร์มเก่งได้ด้วยการปราบ ลิเวอร์พูล ด้วยการเล่นแบบเข้มข้นตั้งแต่เริ่มต้นจนเป็นฝ่ายยัดเยียดความปราชัยให้แก่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งหากพลพรรค "ปีศาจแดง" ทำได้แบบนั้นก็มีสิทธิ์ที่จะเล่นงาน แมนฯ ซิตี้ ได้เหมือนกัน

ความพ่ายแพ้นัดเจอ "เดอะ บีส์" สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการขาดความพยายามในการเล่น แต่นับจากนั้นเราก็ไม่ได้เห็นแบบนั้นจากลูกทีม เอริค เทน ฮาก อีกเลย

2. เพรสใส่ แมนฯ ซิตี้

ย้อนไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2021 แมนฯ ยูไนเต็ด ยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โชว์ควมยอดเยี่ยมด้วยการบุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0 ซึ่งรูปแบบวันนั้นคือตัวอย่างที่ดีที่จะต้องถอดแบบออกมาใช้ในเกมนี้

ยูไนเต็ด ไล่กดดันสูง ไม่ปล่อยให้ ซิตี้ มีที่ว่างมากนัก คอยบีบให้พื้นที่สนามแคบลง โดยหลังจบเกมดังกล่าว เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึงกับชื่นชมการเล่นของอริร่วมเมือง

"มันเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมมาก ยูไนเต็ด เพรสซิ่งสูงอย่างไม่น่าเชื่อ และพวกเขาก็เล่นโต้กลับได้เร็วมาก ถึงแม้เราจะเล่นได้ดีก็ตาม โชคร้ายที่เราไม่สามารถตอบสนองได้ ขอแสดงความยินดีกับ ยูไนเต็ด ด้วย" กุนซือสแปนิช กล่าว

3. อย่าขึ้นเกมจากแดนหลัง

แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนฆ่าตัวตายเมื่อไปเซ็ตเกมบุกลักษณะนี้ใน 2 เกมแรกของซีซั่น ซึ่งเป็นสไตล์ของ เทน ฮาก ที่ทำมาตั้งแต่สมัยคุม อาแจ็กซ์  อย่างไรก็ตาม เทน ฮาก ก็คิดได้แล้วว่า "ปีศาจแดง" ชุดนี้ ไม่มีผู้เล่นที่จะทำแบบนั้นได้

นับตั้งแต่นั้นมา เทน ฮาก สั่งไม่ให้ลูกทีมพยายามตั้งเกมบุกจากแดนหลังอีก และมันก็ได้ผล นับเป็นการปิดปัญหาการเสียบอลหน้าปากประตูตัวเอง แต่ถ้าพวกเขากลับมาใช้แท็คติกนี้อีก ดูเหมือนว่าจะเป็นการกลบหลุมฝังศพตัวเอง เพราะผู้เล่น "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นชื่อในเรื่องไล่กดดันคู่แข่งอยู่แล้ว

4. เล่นงานด้วยเกมโต้กลับ

แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้การต่อบอลไม่กี่ครั้งในการพังประตูใส่ อาร์เซน่อล จุดเริ่มต้นมาจากการเล่นเกมรับ ก่อนที่จะแย่งบอลคืนมาแล้วเข้าทำโดยใช้ผู้เล่นไม่กี่คน

ย้อนไปในเกมแดงเดือดก็เช่นกัน ความโหดเหี้ยมในการเล่นสวนกลับสามารถเล่นงานทั้ง "ปืนใหญ่" กับ "หงส์แดง" จากประโยชน์ความเร็วของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งนอกเหนือจากดาวยิงทีมชาติอังกฤษ รายนี้แล้วก็ยังมีอาวุธใช้พร้อมสรรพไม่ว่าจะ อันโตนี่, เจดอน ซานโช่ หรือกระทั่ง แอนโธนี่ อีลันก้า

5. ใช้ กาเซมีโร่-เอริคเซ่น และ แม็คโท

เควิน เดอ บรอยน์ อยู่ในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม จนถึงตอนนี้ดาวเตะเบลเจี้ยนถวายพานให้เพื่อนยิงไปแล้ว 6 ครั้งจาก 7 เกมที่ลงสนามในศึก พรีเมียร์ลีก ซึ่งการมี เออร์ลิง ฮาลันด์ ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า ก็ยิ่งทำให้ เดอ บรอยน์ มีความอันตรายมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้เอง ยูไนเต็ด ควรจะเก็บ เดอ บรอยน์ ให้อยู่หมัด ไม่ปล่อยให้มีพื้นที่ในการออกบอล ซึ่ง เทน ฮาก ควรจะใช้ 3 มิดฟิลด์ลงสนามเป็นตัวจริงก็คือ กาเซมีโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

แม็คโท กำลังมีช่วงเวลาที่ดี ขณะที่มิดฟิลด์โคนม ก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนในรายของ กาเซมีโร่ แม้ที่ผ่านมาจะอยู่ในช่วงการปรับตัว แต่ถึงตอนนี้อาจจะได้เวลาของเขาแล้ว

ในเรื่องของแนวรุก ยังไม่มีความชัดเจนว่า แรชฟอร์ด กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จะพร้อมลงสนามเกมนี้หรือไม่ แต่หาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แผนการเพรสซิ่งใส่ ซิตี้ ก็อาจจะล้มเหลว และก็ต้องยอมรับว่าถึงเวลานี้ ซีอาร์เซเว่น ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำในแผงกองหน้าของทีม

ดังนั้น เทน ฮาก ควรจะใช้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยืนเป็นฟอลซ์ ไนน์ (กองหน้าตัวหลอก) แล้วใช้การวิ่งของ อันโตนี่ กับ ซานโช่ ทางริมเส้น ซึ่งมองจากตรงนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็พอมีทางที่จะเล่นงาน ซิตี้ ได้ โดยเฉพาะการที่พวกเขามีตัวออกบอลดี ๆ อย่าง บรูโน่ และ เอริคเซ่น


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport