ชนะห้านัดติด !

ลิเวอร์พูลลงสนามนัดที่ 34 ต้อนรับฟูแล่มทีมที่พวกเขาเกือบเสียท่าเมื่อนัดแรกของซีซั่น เกมนั้นจบด้วยผลเสมอ 2-2 เปิดตัว ดาร์วิน นูนเยส พร้อมทั้งเปิดแผลเรื่องของเกมเพรสซิง ที่ดูเหมือนดรอปๆลงไป เป็นเกมที่ฟูแล่มเล่นได้แน่นปึ้ก ตามแทกติกของ มาร์โก ซิลวา เพียงแต่ เด็กหงส์มีทีเด็ดเอาตัวรอดได้จากเกมที่เล่นได้ไม่ดี

อาจอ้างได้ว่านัดแรก...ว่ากันแบบนั้น

ที่ไหนได้สองนัดต่อมาก็ไม่ชนะ แถมไปสร้างความมั่นใจให้ เอริก เทน ฮาก ที่โรงละครอีก นับจากนั้นก็ลุ่มๆดอนๆ เล่นไปเล่นมา กลายเป็น "หงส์เข้าหงส์ออก" มีการพูดเรื่องเกมเพรสซิงเบา และพลังนักเตะชุดนี้เริ่มร่อยหรอ แถมเกมรับขาประจำ แกนหลักกลับฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย...

เล่นดีอย่างมากสองเกมแล้วก็กลับมาเสมอหรือแพ้ ไม่เคยมีช่วงไหนชนะรวดเกินสามนัด มีช่วงก่อนบอลโลกชนะสองนัด และพอเบรกกลับมาชนะ 2 นัด แต่นั่นก็พอกล้อมแกล้มว่าชนะรวดสี่นัด แต่มันโดนเบรกก่อนไง 

กระทั่ง5 นัดล่าสุดรวมเกมนี้ด้วยนี้คือครั้งแรกชนะรวดห้านัดติดต่อกันในซีซั่นนี้

เริ่มจากถล่มลีดส์6-1 จนเกมล่าสุดเจอฟูแล่ม...นี่คือเกมแรกที่เด็กหงส์ไม่เสียประตู 

จากที่โดนไป 7 ลูกทั้งลีดส, ฟอเรสต์, เวสต์ แฮม, สเปอร์ส 

เกมนัดนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง นอกจากฟูแล่มไม่มี มิโตรวิช และ เปเรรา....

บทบาท ดาร์วิน นูนเยส


เกมนี้ เจเค พัก โคดี กัคโป เพราะเล่นมาต่อเนื่องในบทบาท "บ๊อบบี" ซึ่งต้องบอกว่าเขาเริ่มปรับตัวเข้ากับรูปแบบนี้ เหมือนยิ่งเล่นยิ่งลงล้อคกับทีมในบทบาท "หน้าปลอม" 

เกมนี้ ดาร์วิน ลงเล่นก็จริงแต่คนละแบบ ดาร์วิน ยืนหน้าเป้าโดดๆ เลย คอยไล่เพรสข้างบนถ้ามีโอกาส ซึ่งเขามีส่วนทำให้ทีมได้จุดโทษ เพราะ ดิยอป เหม่อ เลยโดนขโมยบอล ก่อนสอยหัวเข่า ดาร์วิน ที่แตะบอลได้ก่อน  

ความขยันทำให้ได้จุดโทษ...และ โม ซาลาห์ ยิงประตูแซงหน้า รอบบี ฟาวเลอร์ ไปแล้ว 

ช่วง 25 นาทีท้าย เจเค เปลี่ยน ดิอาส ออก ส่ง กัคโป มายืนปีกซ้าย ซึ่ง ดาร์วิน เล่นหน้าเป้า 

การเล่นเกมโดยรวมก็ถือว่ายังร่วมเล่นแดนหน้าได้น้อย การให้บอลยังไม่ละเอียด 

ก่อนโดนเปลี่ยนออก น.82 

เกมรับ...เอาตัวรอด


นัดนี้พัก รอบโบ เลือก ซิมิกาส ลงเล่นแทน ที่เหลือก็เหมือนเดิม โกนาเต, ฟานไดจ์ และเทรนต์ ส่วนแดนกลางนั้น เฮนโด ลงมาแทน ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ประสานงานกับ ฟาบินโญ และ เคอร์ติน โจนส์ 

ครึ่งแรกถือว่าหน่วยรับใช้ได้ ทั้งกลางและหลัง ช่วยกันแย่งบอลคืนกลับมาได้บ่อยครั้ง จะมีแค่จังหวะสวนกลับฟูแล่ม อันนี้ว่าไม่ได้ เพราะหลังยืนไฮไลน์ ดีเฟ้นส์ ก็ต้องโดนแบบนี้ วินิซิอุส พลิกหลบ ฟานไดจ์ เข้าไปยิงให้ เบคเกอร์ เซฟ ครึ่งแรก 1  ครั้ง และครึ่งหลัง วินิซิอุส ยิงเผาขน ติดมือ เบคเกอร์นั่นคือ เกือบ...แต่ดูแล้วมีหลายจังหวะ แดนกลางช่วยกัน ไล่ตัดบอลคืนกลับไปได้ 

ครึ่งหลังเกมรับ...ถือว่าเอาตัวรอดไปได้ จังหวะหลุด เปิดโอกาสให้ ฟูแล่ม ชัดๆสองสามครั้ง 

นักเตะหลายคนเล่นใช้ได้ อย่างเช่น โจนส์ เล่นตัวจริงนัดที่ 7 ต่อเนื่องถือว่ามั่นใจขึ้น มีส่วนร่วมกับเกมเยอะ   ส่วนเทรนต์ ก็สนุกกับการเล่น "กึ่งมิดฟิลด์ กึ่งแบ็ค" ต่อไป ดูเล่นสบายๆ เพราะ มีเฮนโด ยืนทางขวา เวลาขึ้นบอลรุก พอรับกลับมายืนแบ๊กโฟร์  

ลุยส์ ดิอาส...คืนฟอร์ม


คล่อง..เร็ว...ทะลุทะลวง..เสียบอลยาก เหลือแค่ยิงประตูเท่านั้น 

การกลับมาเล่นได้เข้าฟอร์มของ ลุยส์ ดิอาส สร้างความลำบากใจให้ ดาร์วิน นูนเยส หากไม่มีที่ว่างในตำแหน่งตัวทำ ก็หมดโอกาสเล่นด้านซ้าย 

เจเค ให้เล่น 64 นาที เท่านั้นพอ 

การชนะฟูแล่มในแบบสกอร์หวาดเสียว1-0 ดูหวุดหวิด แต่การเล่นเกมโดยรวมถือว่าไม่ขี้เหร่ นั่นรวมทั้งการคว้าชัยชนะเป็นนัดที่ห้าติดต่อกันครั้งแรกในซีซั่นนี้ พร้อมยึดอันดับห้าไว้เหนียวแน่น 

ส่วนพื้นที่ ช.ป.ล ก็อย่างที่เขียนบอกไปวันก่อน....

อย่าไปลุ้นอะไรมาก เพราะมันไกลมือ 

อีกสี่นัดที่เหลือก็เล่นให้มันดีไล่เก็บสามแต้ม ไปเรื่อยๆ 

ที่เหลือก็รอดูว่ามันจะไปถึงไหน 

ต้องยอมรับว่าเด็กหงส์เล่นไม่คงเส้นคงวาหรือมีฟอร์มที่ดีต่อเนื่อง

เท่ากับ นิวคาสเซิล และ แมนฯยูไนเต็ด 

ครั้นจะหยิบชิ้นปลามัน....ก็ดูเขินๆอยู่นะ

ป.ล. ยกนิ้วให้ เอรลิง ฮาลันด์ 

เจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุด พมล 35 ลูกใน 31 นัด (ตัวจริง30สำรอง 1)


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport