หงส์น้ำตาตก! ลิเวอร์พูล เมาหมัดบุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด ชวดขึ้น ท็อปไฟว์

"หงส์แดง" น้ำตาตกจบ 45 นาทีแรกตามหลังถึง 2 ลูกแม้ครึ่งหลังไล่ตีไข่แตกสำเร็จจาก แชมเบอร์เลน แต่ก็เป็นเพียงประตูปลอบใจท้ายเกมโดน เอ็มเบวโม่ ซัลโวปิดกล่อง จบเกม บุกพ่าย "เบรนท์ฟอร์ด" 1-3 สะดุดพ่ายรอบ 5 นัดในลีกหลังซิวชัยมา 4 เกมติดหยุดอยู่ที่ 28 คะแนนชวดแซง สเปอร์ส ขึ้น ท็อปไฟว์ รั้งอันดับ 6 เหมือนเดิม ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

สนาม : เบรนท์ฟอร์ด คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม

เบรนท์ฟอร์ด ปลดล็อกคว้าชัยได้เป็นเกมแรกในรอบ 5 เกมรวมทุกรายการหลังบุกไปเชือด เวสต์แฮม 2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ เดอะ บีส์ มี 23 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 17 เกมในฤดูกาลนี้ 

ทางด้าน ลิเวอร์พูล ชนะมา 2 เกมติดต่อกันในลีกหลังเปิดบ้านเฉือนชนะ เลสเตอร์ 2-1 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ หงส์แดง มี 28 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 16 เกมในฤดูกาลนี้ 

เปิดฉากครึ่งแรก 3 นาที "หงส์แดง" ทักทายก่อน ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เก็บตกหน้าเขตโทษฝั่งขวายกย้อนข้ามมาเสาไกลถึง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ซัดหน้ากรอบ 6 หลาแบบไร้ตัวประกบ ติดปลายมือ ดาบิด ราย่า ควักทิ้งข้ามคานก่อนมีธง ล้ำหน้า ยกตามขึ้นมา

นาทีที่ 8 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทอง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลหน้ากรอบ 18 หลาแทงช่องสุดงามเข้าเขตโทษให้ ดาร์วิน นูนเญซ สอดมาแตะหลบ ดาบิด ราย่า แต่จังหวะยิงไม่ผ่าน เบน มี ยืนคุมเส้นขวางช่วยไว้ได้ทัน

15 นาทีผ่าน เบรนท์ฟอร์ด เริ่มขยับเข้าพื้นที่อันตรายมากขึ้นซัดไปตรงตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ หนึ่งครั้งก่อนเป็น โยอัน วิสซ่า สอดมาจักรยานอากาศหน้ากรอบ 6 หลาเสียดายโดนจับ ล้ำหน้า

3 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น พลาดโอกาทองจากจังหวะสวนกลับ โยอัน วิสซ่า แทงบอลออกขวาให้ บริย็อง เอ็มเบวโม่ ใช้ความเร็วเอาชนะ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ หลุดเดี่ยวขึ้นมาจากครึ่งสนามจี้เข้าเขตโทษแต่ซัดติดเซฟ อลีสซง เบ็คเกอร์ 

แต่แล้วนาทีที่ 19 เบรนท์ฟอร์ด ทะยานออกนำ 1-0 จากลูกเตะมุมทางขวา บริย็อง เอ็มเบวโม่ ปั่นบอลเข้าเขตโทษโค้งมาเสาแรกแฉลบขา อิบราฮิม่า โกนาเต้ เปลี่ยนทางหลอก อลีสซง เบ็คเกอร์ เข้าประตูตัวเอง

นาทีที่ 25 "หงส์แดง" พลาดตีเสมอเหลือเชื่อ ออกซ์เลด เชมเบอร์เลน โชว์เหนือดึงบอลหน้ากรอบ 6 หลาก่อนไขว้จ่ายออกซ้ายให้ คอสตาส ซิมิคาส ล่อเป้าแบบไร้ตัวประกบไปติดเซฟ ดาบิด ราย่า อย่างน่าผิดหวัง

2 นาทีต่อมาจากจังหวะเตะมุมทางขวา บริย็อง เอ็มเบวโม่ โยนยัดมาเสาแรกให้ อีธาน พินน็อค ขวิดไปติดตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ บอลชุลมุนสุดท้ายซุกก้นตาข่าย โชคร้าย โยอัน วิสซ่า ไปยืนหลังเส้นประตูกลายเป็นโดน วีเออาร์ จับล้ำหน้า

นาทีที่ 39 ลิเวอร์พูล ดูมีปัญหากับการจัดการลูกตั้งเตะ บริย็อง เอ็มเบวโม่ ครอสทางขวาตักบอลเข้าเขตโทษลึกมาถึง โยอัน วิสซ่า พักอกซัดแฉลบ เบน มี พุ่งเสียบเสาไกลก็ยังโดน วีเออาร์ ริบสกอร์จับล้ำหน้าอีกรอบ

จนแล้วจนรอดนาทีที่ 42 เบรนท์ฟอร์ด หนีห่าง 2-0 จนได้ มาเธียส เยนเซ่น ตามมาเชื่อมบอลหน้ากรอบ 18 หลาฝั่งขวาหยอดเข้าเขตโทษโค้งมาเสาไกลเข้าหัว โยอัน วิสซ่า ขวิดกดลงพื้นกระดอนติดปลายมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ พยายามควักออกมาแต่ไม่ทันข้ามเส้นเรียบร้อย

หมดครึ่งเวลาแรก เบรนท์ฟอร์ด 2 ลิเวอร์พูล 0

นาทีที่ 48 "หงส์แดง" หวิดได้เฮ ติอาโก้ อัลคันตาร่า แทงบอลสุดงามให้ ดาร์วิน นูนเญซ ใช้ความเร็วหลุดเข้าเขตโทษเลือกดีดด้วยซ้ายแสกหน้า ดาบิด ราย่า ตุงตายข่ายงามหยดแต่ก็มาโดน วีเออาร์ ริบสกอร์คืนบ้าง

ต่อมานาทีที่ 50 ลิเวอร์พูล ตีไข่แตกไล่มา 2-1 จนได้จากบอลทางขวาของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โยกตัดเข้าในได้ช่องตักด้วยซ้ายโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาถึง ออกซ์เลด เชมเบอร์เลน ลอยมาโขกเข้าไปปลุกความหวังให้ทีม

5 นาทีต่อมา ทีมเยือน พยายามเร่งเครื่อง ติอาโก้ อัลคันตาร่า ฝากบอลข้ามมาให้ ฟาบินโญ่ หมุนหนีตัวประกบตั้งป้อมซัดไกลระยะร่วม 30 หลาแต่ก็ยังไม่ดีพอผ่านมือ ดาบิด ราย่า เหมือนเดิม

20 นาทีสุดท้าย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พยายามใช้ความสามารถเฉพาะตัวดึงแนวรับ เบรนท์ฟอร์ด ได้ช่องไหลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ดาร์วิน นูนเญซ มีเวลาก้มหน้าหักข้อแต่ก็โดนผิดเหลี่ยมบดผ่านหน้าประตู

ลูกทึมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีปัญหาในการจบสกอร์แม้ครึ่งหลังครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียวมีลุ้นจบสกอร์เพิ่มถึง 8 ครั้งแต่ตรงกรอบเพียง 2 ลูกแถมไม่ทำให้ ดาบิด ราย่า ต้องเจองานยากในการป้องกัน

แต่แล้วนาทีที่ 83 กลายเป็น เจ้าถิ่น ที่ครึ่งหลังมีโอกาสยิงเพียง 1 ครั้งได้ประตูปิดกล่อง 3-1 นาบี เกอิต้า เสียบอลกลางสนาม คริสเตียน นอร์การ์ด สอดมาฉกทิ้งยาวออกขวาให้ บริย็อง เอ็มเบวโม่ ชิงเหลี่ยมชน อิบราฮิม่า โกนาเต้ ร่วงลงไปก่อนซัดสวนตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ ไม่พลาด

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เบรนท์ฟอร์ด 3 ลิเวอร์พูล 1

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม 

เบรนท์ฟอร์ด (3-5-2) : ดาบิด ราย่า - มาเธียส ยอร์เกนเซ่น, เบน มี, อีธาน พินน็อค - โรเออร์สเลฟ ราสมุสเซ่น, มาเธียส เยนเซ่น จอช ดาซิลวา (น.74), คริสเตียน นอร์การ์ด, วิตาลี่ จาเนลต์ (ซามาน ก๊อดดอส น.87), ริโก้ เฮนรี่ (แมดส์ เบ็ค โซเรนเซ่น น.96) - บริย็อง เอ็มเบวโม่ (เซอร์กี กาโนส น.88), โยอัน วิสซ่า (คีน ลูวิส-พอตเตอร์ น.74)

เทรนเนอร์ : โธมัส แฟร้งค์

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (โจเอล มาติป น.46), คอสตาส ซิมิคาส (แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น.46) - ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (นาบี เกอิต้า น.46), ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคันตาร่า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (เคอร์ติส โจนส์ น.83)

เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอ๊ตต์เวลล์


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport