ดวลกันมานาน!คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลั่นหมดยุคตนชิงชัยกับ ลิโอเนล เมสซี่ แล้ว

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ระบุ หมดยุคสมัยการดวลกันระหว่างตนกับ ลิโอเนล เมสซี่ แล้ว พร้อมกางปีกป้อง ซาอุดี โปรลีก และบอกว่าภูมิใจสุดขีดที่ตัวเองคือผู้บุกเบิกยุคทองของลีกในย่านตะวันออกกลาง

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะ อัล-นาสเซอร์ สโมสรของศึก ซาอุดี โปรลีก กล่าวว่ายุคสมัยการขับเคี่ยวกันระหว่างตนกับ ลิโอเนล เมสซี่ มันจบลงไปแล้ว

ตลอดช่วงหลายปีก่อน โรนัลโด้ กับ เมสซี่ ต่างถูกมองว่าเป็นคู่แข่งกันจากการที่ทั้งคู่ต่างก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมรวมถึงประสบความสำเร็จอย่างมากในการเล่นบนทวีปยุโรป ซึ่งมันก็ทำให้แฟนคลับของทั้ง 2 คนมักจะตอบโต้กันอย่างดุเดือดตามไปด้วย

หลังโดนถามถึงการเป็นคู่แข่งกับ เมสซี่ แล้วนั้น โรนัลโด้ ก็ตอบว่า "ผมไม่มองมันไปในทางนั้น การชิงชัยกันมันจบลงแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ดี แฟนๆ ชื่นชอบมัน แต่คนที่ชอบ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่จำเป็นต้องเกลียด เมสซี่ ตามไปด้วย และในมุมตรงกันข้ามมันก็ควรจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน (หมายถึงคนที่ชอบ เมสซี่ ก็ไม่จำเป็นต้องเกลียด โรนัลโด้ เช่นกัน)"

"เราต่างก็ทำผลงานได้ดี เราเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลได้ เราเป็นที่เคารพของคนทั่วโลก นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการเลือกเล่นนอกทวีปยุโรปนั้นเขาเดินไปตามเส้นทางของเขาเอง ส่วนผมก็เดินตามทางของผม จากที่ผมเห็นนั้นเขากำลังทำผลงานได้ดี ผมเองก็กำลังเล่นได้ดีเช่นกัน"

"สิ่งที่เราเคยทำได้มันจะคงอยู่ต่อไป แต่ผมไม่มองว่าการชิงชัยกันมันแฝงไปด้วยความเป็นอริต่อกัน เราเคยดวลกันหลายครั้ง มันกินเวลาถึง 15 ปี ผมไม่ได้จะบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันหรอกนะ ผมไม่เคยกินข้าวเย็นร่วมกับเขา แต่เราต่างก็เป็นมืออาชีพรวมถึงเคารพกันและกัน"

ดาวเตะชาวโปรตุกีสกล่าวปกป้องลีกของ ซาอุดี อาระเบีย ด้วย หลังจากที่ผ่านมาแฟนบอลบางส่วนแสดงท่าทีต่อต้านลีกของชาติเศรษฐีน้ำมันอย่างหนัก แถมบอกด้วยว่ารู้สึกภูมิใจสุดๆ ที่เป็นผู้บุกเบิกในยุคที่มีนักเตะหลายรายย้ายจากทีมในทวีปยุโรปไปเล่นที่นั่น "การตำหนิมันเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา มีลีกไหนบ้างที่ไม่โดนตำหนิ ? มีลีกไหนบ้างที่ไม่เคยเจอปัญหาหรือเรื่องอื้อฉาว ? ทุกลีกเจอแบบนั้นกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ สเปน หรือกับ โปรตุเกส เองก็ตาม"

"ผมรู้ดี ผมพูดอยู่เสมอว่า -ทุกคนคิดว่าผมบ้า ทั้งที่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นการตัดสินใจที่เพี้ยนเลย- และตอนนี้การไปเล่นในลีกของ ซาอุดี อาระเบีย มันก็กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว (หมายถึงการที่มีนักเตะย้ายจากทีมในทวีปยุโรปมาเล่นที่ ซาอุดี อาระเบีย หลายคน"

"ในฐานะนักเตะของ อัล-นาสเซอร์ นั้น ผมรู้ดีว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มันนับเป็นเกียรติสำหรับผมที่ได้เปลี่ยนวัฒนธรรมและวงการฟุตบอลของประเทศนั้น, รวมถึงได้เห็นสตาร์ดังหลายคนย้ายไปเล่นที่นั่น มันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจมากๆ ผมเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องนั้นและรู้สึกภูมิใจกับมัน สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดคือเดินหน้าพัฒนาตัวเองต่อไป เพื่อที่ผมจะได้อยู่ในจุดสูงสุดได้"


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport