เด็กไม่มีสิทธิ์เหรอ? รุด กุลลิท พูดน่าคิดทำไม จู๊ด เบลลิงแฮม ไม่ได้บัลลง ดอร์ ปีนี้

เด็กไม่มีสิทธิ์เหรอ? รุด กุลลิท พูดน่าคิดทำไม จู๊ด เบลลิงแฮม ไม่ได้บัลลง ดอร์ ปีนี้
รุด กุลลิท ตำนานแข้งเอซี มิลาน ฟันธง จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษของ เรอัล มาดริด ยังไม่พร้อมที่จะคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ ในปีนี้ แม้ฟอร์มจะโดดเด่นกับ "ราชันชุดขาว" ก็ตาม พร้อมระบุชื่อนักเตะที่คู่ควรกับเกียรติยศนี้

รุด กุลลิท ตำนานยอดนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เผยเหตุผลที่ จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งพุ่งแรงชาวอังกฤษของสโมสรเรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศีกลา ลีกา สเปน จะพลาดคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ หรือ "บอลทองคำ" ในปีนี้ 

เบลลิงแฮม วัย 20 ปี ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเป็นสง่านับตั้งแต่ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยฟอร์มการเดบิวต์ในลีกแดนกระทิงดุของเขาน่าเหลือเชื่อมากๆ ด้วยการเกี่ยวข้องกับประตูของทัพ "โลส บลังโก" ถึง 36 ลูกรวมทั้งตะบันไป 23 ประตูจากทุกรายการในฤดูกาล 2023/2024

ที่สำคัญ เบลลิงแฮม ซึ่งปัจจุบันอยู่ร่วมกับทีมชาติอังกฤษเพื่อเตรียมลุยศึกยูโร 2024 บนแผ่นดินเยอรมนี ช่วยต้นสังกัดผงาดคว้าแชมป์ ลา ลีกา และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้เขาได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้รางวัลบัลลง ดอร์ ไปครอบครองในปีนี้

อย่างไรก็ตาม กุลลิท ซึ่งเคยได้รับเกียรติยศนี้เมื่อปี 1987 รู้สึกว่ามันยังเร็วเกินไปสำหรับ เบลลิงแฮม ที่จะได้รางวัลบอลทองคำ และเชื่อว่าคนที่เหมาะสมกว่าน่าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ มากกว่า 

"ผมคิดว่าเขายังเด็กเกินไป ถ้าคุณดูนักเตะคนอื่นๆอย่าง วินิซิอุส (จูเนียร์) ,(คีลิยัน) เอ็มบัปเป มีลุ้นที่จะได้รางวัลนี้ รวมทั้ง (เออร์ลิง) ฮาลันด์ แม้โดยรวมแล้วไม่ได้มีซีซั่นที่ยอดเยี่ยมมากนัก แต่ผมคิดว่า  เบลลิงแฮม ยังเร็วเกินไป หลังจากได้รับบาดเจ็บ (เดือนกุมภาพันธ์) เขาฟอร์มตกลงไปบ้าง เขายังต้องพยายามค้นหาความเฉียบคม และฟอร์มที่คงเส้นคงวา เพราะฉะนั้นมันยังเร็วเกินไป" อดีนผู้เล่น-ผู้จัดการทีม เชลซี ระบุ

ทั้งนี้พิธีมอบรางวัลบัลลง ดอร์ จะจัดขึ้นที่โรงละครชาเตอเลต์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 28 ตุลาคม ปี 2024 โดยมีหลายคนอยากรู้ว่านักเตะคนไหนที่จะสามารถโค่นบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ของ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งได้รับเกียรตินี้ไปครอบครองมากที่สุดถึง 8 สมัย 



ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport