เป็นอันแน่นอนแล้วว่า จู๊ด เบลลิ่งแฮม ดาวเตะคนใหม่ของ เรอัล มาดริด ตัดสินใจเลือกสวมเสื้อหมายเลข 5 ของ ราชันชุดขาว
อาจเป็นหมายเลขเสื้อที่สร้างความประหลาดใจมากพอสมควรเนื่องจาก เบลลิ่งแฮม เป็นกองกลางตัวรุก แต่ที่แน่ๆจอมทัพในตำนานอย่าง ซีเนดีน ซีดาน เคยสวมเสื้อหมายเลขนี้ให้กับทีมยักษ์ของ ลา ลีกา มาก่อนระหว่างปี 2001-2006
ด้วยเหตุนี้ เจ้าหนูอิงลิชจึงเผยว่าเลือกเสื้อหมายเลข 5 เพื่อเดินตามรอยเท้า ซิซู และได้รับการอนุเคราะห์จาก เฆซุส บาเยโฆ๋ เนื่องจากหมายเลขโปรด 22 ของเขาตกเป็นของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ปราการหลังจอมแกร่ง
จะอย่างไรก็ตาม ก่อนจะได้เห็น เบลลิ่งแฮม วาดลวดลายในซีซั่นหน้า เราจะย้อนไปดูกันว่าในอดีตมีนักเตะ เรอัล มาดริด คนไหนบ้างที่สวมเสื้อหมายเลข 5 หลังพ้นยุคของอดีตสตาร์ทีมชาติ ฝรั่งเศส และใครสร้างชื่อได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด
6. เฟร์นานโด กาโก้
หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างเตะตากับ โบคา จูเนียร์ส กาโก้ ก็ย้ายสู่ถิ่น เบร์นาเบว ในปี 2006 ด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโร และลงบู๊อย่างสม่ำเสมอในช่วงสองสามปีแรกด้วยการสวมเสื้อหมายเลข 8
กระทั่งปี 2009 เขาเปลี่ยนมาใช้หมายเลข 5 เพื่อเปิดทางให้ กาก้า สวมเสื้อหมายเลข 8 แทน แต่ถัดจากนั้นมิดฟิลด์อาร์เจนไตน์ได้ลงเล่นน้อยลงไปเนื่องจากถูกโรคเดี้ยงเล่นงาน
จนในที่สุดหลังการย้ายมาคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในปี 2010 กาโก้ ก็ไม่มีชื่อในทีม 11 คนแรกของเจ้านายโปรตุกีส
5. นูริ ซาฮิน
ย้อนเวลากลับไปในปี 2011 กองกลางดาวรุ่งทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกฉุดมาร่วมทีม เรอัล มาดริด โดยในเวลานั้น เบลลิ่งแฮม ยังมีอายุไม่ถึงสิบขวบด้วยซ้ำ
แม้จะมีฝีเท้าที่น่าประทับใจ แต่ ซาฮิน ไม่อาจแทรกเข้ามาอยู่ในทีมตัวจริงของ ราชันชุดขาว ได้อย่างเต็มตัวเนื่องจากถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน อีกทั้งมีฟอร์มไม่อยู่กับร่องกับรอย
ด้วยเหตุนี้ ดาวเตะเติร์กจึงถูกส่งให้ ลิเวอร์พูล ยืมตัวในซีซั่นถัดมา แต่แค่หกเดือนผ่านไป หงส์แดง ก็ตัดสินใจยกเลิกสัญญาในเดือนม.ค. 2013 โดย ซาฮิน หวนกลับสู่ทีม เสือเหลือง อีกรอบด้วยสัญญายืมตัวเช่นกันก่อนเซ็นสัญญาอย่างถาวรกับสโมสรใน บุนเดสลีกา เป็นคำรบสองในปี 2014
4. เฆซุส บาเยโฆ่
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟสแปนิชย้ายจาก ซาราโกซ่า มาร่วมทีม เรอัล มาดริด ในปี 2015 โดยถูกวางตัวให้เป็นอนาคตของทีมชุดใหญ่ แต่มันไม่เป็นไปอย่างที่สโมสรวาดหวัง
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถูกปล่อยออกไปแบบยืมตัวให้กับ แฟร้งค์เฟิร์ต ก่อนกลับมาสวมเสื้อหมายเลข 3 แทน เปเป้ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจยึดตำแหน่งในทีมตัวจริงได้
ถัดจากนั้น บาเยโฆ่ ย้ายออกไปแบบยืมตัวอีกหลายรอบกับทั้ง วูล์ฟส์ และ กรานาด้า ก่อนกลับสู่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในปี 2021 ด้วยการสวมเสื้อหมายเลข 5 และได้แชมป์ ลา ลีกา และ แชมเปี้ยนส์ลีก แม้จะมีส่วนร่วมเพียงน้อยนิด
3. ฟาบิโอ โคเอนเตรา
ย้ายมาจาก เบนฟิก้า และเริ่มต้นกับ เรอัล มาดริด ได้อย่างเลิศหรูจนในที่สุดโดนโรคเดี้ยงเล่นงานอีกราย แต่รวมแล้วพอจะบอกได้ว่ากองหลังเลือดฝอยทองประสบความสำเร็จกับสังเวียนแข้ง เบร์นาเบว
และที่สำคัญ การเล่นได้หลายตำแหน่งถือเป็นจุดแข็งของเขาโดย มูรินโญ่ สามารถส่งเขาลงบู๊ได้ทั้งตำแหน่งแบ็คซ้าย และกองกลาง
ได้แชมป์ ลา ลีกา ตั้งแต่ซีซั่นแรก รวมทั้งแชมป์ โกปา เดล เรย์ และแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่น 2013/14 ก่อนเริ่มมีผลงานที่ตกต่ำเนื่องจากบาดเจ็บ และย้ายกลับบ้านเกิดอย่างถาวรในปี 2018 โดยเซ็นสัญญากับ ริโอ อาฟ
2. ฟาบิโอ คันนาวาโร่
ในฐานะกัปตันทีมชาติ อิตาลี ชุดคว้า แชมป์โลก คันนาวาโร่ จึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในปราการหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล แถม เรอัล มาดริด ได้ตัวเขามาร่วมทีมในราคาเพียง 7 ล้านยูโรเท่านั้นในปี 2006 อันเป็นผลมาจาก ยูเวนตุส ถูกปรับตกลงสู่ เซเรียบี หลังก่อคดีฉาว
ตลอดระยะเวลาสามซีซั่นกับ ราชันชุดขาว ดาวเตะสัญชาติมะกะโรนีซึ่งสวมเสื้อหมายเลข 5 เช่นกันมีผลงานที่น่าประทับใจเนื่องจากพาทีมซิวแชมป์ ลา ลีกา ได้สองหน ขณะที่เจ้าตัวได้รางวัล บัลลงดอร์ ปี 2006 และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ ฟีฟ่า เช่นกัน
กระทั่งหมดสัญญาในปี 2009 คันนาวาโร่ เลือกย้ายกลับไปรับใช้ทีม ม้าลาย อีกรอบ
1. ราฟาแอล วาราน
เรอัล มาดริด เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อการแย่งลายเซ็นของเขาได้ก่อนแล้วในปี 2011 โดยกองหลังหนุ่มจากทีม ล็องส์ ได้รับเสื้อหมายเลข 19 จาก ราชันชุดขาว
ขณะเดียวกัน ดาวรุ่งเลือดน้ำหอมได้แชมป์ ลา ลีกา ตั้งแต่ซีซั่นแรก และสร้างชื่อได้ทันทีจนกลายเป็นหนึ่งในปราการหลังชั้นยอดของโลก
เปลี่ยนมาสวมเสื้อหมายเลข 2 ในซีซั่นที่สองกับ เรอัล มาดริด กระทั่งปี 2016 ก็ได้เสื้อหมายเลข 5 ในช่วงที่เจ้าตัวก้าวขึ้นสู่ฟอร์มที่สุดยอดของอาชีพกับการพาทีมชาติ ฝรั่งเศส คว้าตำแหน่ง แชมป์โลก
จวบจนปี 2021 วาราน ก็ย้ายสู่ โรงละครแห่งความฝัน จนได้หลังค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด สิบปีโดยได้แชมป์กับทีมดังของลีกกระทิงดุรวม 18 รายการ