โกงความตายอีกครั้ง! สิ่งที่อยากบอกหลัง แมนยู ทะลุ8ทีมเอฟเอคัพ

และนี่คือสิ่งที่ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอก หลังจากพลพรรคปีศาจแดงมีชัยเหนือ เวสต์แฮม ด้วยสกอร์ 3-1 ทะลุเข้าไปเจอ ฟูแล่ม ในรอบ 8 ทีม เอฟเอ คัพ ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 

1.โทษฐานที่มีเกมสำคัญระดับ 'ศึกแดงเดือด' แสยะยิ้มสยดสยองพลางยักคิ้วรออยู่ในวันอาทิตย์ แถม แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งบดหนักกับ นิวคาสเซิ่ล ในนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ มาหมาดๆ เมื่อวันก่อน

เอริค เทน ฮาก จำเป็นต้อง 'โรเตชั่น' หลายตำแหน่งเลยนะครับ 

มิเช่นนั้น 'ขาลาก' แน่นอน

ดาบิด เด เคอา เฝ้าเสาเหมือนเดิม

แผงหลังปรับเกือบทั้งหมด ยกเว้น ดิโอโก้ ดาโลต์ ในตำแหน่งแบ็คขวา 

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ จับคู่กันในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟอีกครั้งในรอบหลายสิบนัดให้แฟนบอลเสียวท้องน้อยเล่น

แบ็คซ้ายเปลี่ยนจาก ลุค ชอว์ เป็น ไตเรลล์ มาลาเซีย

บริเวณห้องเครื่อง กาเซมิโร่ กับ เฟร็ด ได้พักน่อง เพื่อให้ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ทำงานร่วมกัน โดยมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นหน้าต่ำ

แดนหน้า เวาท์ เวกฮอร์สต์ เป็นหัวหอก ขนาบข้างขวาและซ้ายด้วย อันโตนี่ กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่

เรียนตามตรงว่าผมอยากให้ เอริค เทน ฮาก จัดทีมแบบนี้แหละ ถึงแม้คุณภาพทีมจะต่ำลงบ้าง แถมมีโอกาสตกรอบก็ช่างหัวลูกสาวคุณยายมัน 

คือได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น เพราะขืนใช้ตัวหลักครบทุกตำแหน่ง มันส่งผลเสียในศึกแดงเดือดอย่างแน่นอน

2.ครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด พบกับความยากลำบาก เมื่อผู้มาเยือนอาศัยวิธีบีบสูง เพื่อบังทางพลางคุมพื้นที่แน่นหนา ไม่อนุญาตให้ปีศาจแดงเล่นเกมเร็ว

สิ่งที่บังเกิดคือเจ้าบ้านทำเกมรุกได้ไม่ต่อเนื่องจริงๆ 

เมื่อเอาบอลขึ้นมากดดัน เวสต์แฮม ไม่ได้ก็ต้องถอยกลับมาเซ็ตกันใหม่ในแดนตัวเอง เกมจึงติดๆ ขัดๆ ปราศจากความไหลลื่น

ตรงกลางพอไม่มี 'คุณเกษม' ก็คุมจังหวะกันได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มิหนำยังไม่มีตัวเบรคเกมรุกของคู่แข่งอีกต่างหาก

นอกจากจะปิดพื้นที่ได้แน่นหนา 'ขุนค้อน' ยังหาจังหวะสวนกลับแบบเจ็บๆ ได้เป็นระยะ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยการเสมอกัน 0-0

3.เมื่อรูปเกมไม่ค่อยจะสถาพรสักเท่าไหร่ กุนซือปีศาจแดงตัดสินใจเปลี่ยนตัวทันทีในครึ่งหลัง ด้วยการถอด สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ออก แล้วส่ง กาเซมิโร่ ลงมาคุมแดนกลาง

แต่ยังไม่ทันจะเห็นอะไร เวสต์แฮม ก็ ชิงจังหวะจากการที่ผู้เล่นเจ้าถิ่นหยุดเล่น และมัวแต่โวยผู้ตัดสิน เพราะคิดว่าบอลออกข้างไปแล้วทำประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0

พลันที่เป็นฝ่ายตามหลัง - เอริค เทน ฮาก แก้หมากเตะด้วยการเปลี่ยนผู้เล่นแบบไม่รอช้า

มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ถูกส่งลงมาแทนที่ อันโตนี่ กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ เพื่อแก้ไขสถานการณ์โดยเฉพาะ !!!

ดร.แรช ลงมาเพิ่มประสิทธิภาพในเกมรุก โดยเล่นเป็นหน้าเป้า ขยับ เวาท์ เวกฮอร์สต์ ลงมาเป็นหน้าต่ำ แล้วโยก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ออกไปทางขวา

ขณะที่ปราการหลัง อาร์เจนติน่า ลงมาทำให้เกมรับมีความแน่นอนมากขึ้น เช่นเดียวกับดุดันมากขึ้น แถมยังได้ประโยชน์จากการแทงบอลไปข้างหน้าที่แม่นยำ

4.นับตั้งแต่โดนนำ 1-0 ในนาทีที่ 55 จนต้องเปลี่ยนตัว เพื่อแก้ไขสถานการณ์ ผู้เล่นพันธุ์อสูรเหมือนถูกดึงขนตูดให้เกิดความกระตือรือร้นกันมากขึ้น

...ว่าแล้วก็วิ่งกันพล่านเหมือนถูกฉีด 'คาราบาวแดง' เข้าเส้นเลือด คุมเกมรุกพลางบุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว 

แม้ลูกโขกตุงตาข่ายของ 'กาเซ' จะถูก VAR ยึดคืน เพราะล้ำหน้า แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ ก่อนบุกต่อจนได้ประตูตีเสมอ

หลังจากนั้นก็กลายเป็นบอลได้ใจจนมาได้ประตูชัยจาก อเลฮานโดร การ์นาโช่ ในช่วงท้ายเกม แถมตัวสำรองอีกคนอย่าง เฟร็ด ยังเหิมเกริมด้วยการตอกตะปูฝาโลง ย้ำชัยชนะให้ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด

หากสังเกตให้ดีจะพบว่าทั้ง 3 ประตู มีผู้เล่นอยู่คนที่มีส่วนร่วมกับทั้ง 3 ประตู คือ เวาท์ เวกฮอร์สต์ ในบทบาทหน้าต่ำ

ประตูแรกจากลูกเตะมุมที่ช่วยกดดันจนคู่แข่งทำเข้าประตูตัวเอง

ประตูที่ 2 ก็ช่วยวิ่งทำทางจนดาวรุ่งวัย 18 มีพื้นที่และเวลาสับไก

ประตูที่ 3 ก็เป็นคนแตะบอลคืนหลังให้ เฟร็ด กระทุ้ง

5.เป็นอีกครั้งและอีกครั้งและอีกครั้ง รวมถึงอีกครั้งๆๆ ที่พลพรรคปีศาจแดงเริ่มต้นได้ไม่ค่อยโสภานัก มิซ้ำยังเป็นฝ่ายตามหลังอีกต่างหาก

ก่อนที่ เอริค เทน ฮาก จะแสดงการแก้ไขสถานการณ์ ด้วยการเปลี่ยนตัวผู้เล่นแบบไม่มีสนิมสร้อยแล้วได้ผล

เรียนตามตรงว่าตอนโดนนำ 1-0 ผู้ชมทางบ้านอย่างผมก็มั่นใจอยู่ลึกๆ ว่าน่าจะกลับมาจากป่าช้าได้ และเดี๋ยวก็กลับมาได้ และอย่างแย่คงไม่ถึงกับแพ้คาบ้าน

แล้วพวกเขาก็ทำได้จริงๆ ผิดกับเมื่อก่อนที่หากรูปเกมและรูปการณ์เป็นแบบนี้

ปีศาจแดงน่าจะเด๊ดห่าคาบ้านไปเรียบร้อย

บอ.บู๋