จาก พ่อ สู่ ลูก แด่ความโรแมนติกแห่งไบ อารีน่า..

24 ปีที่แล้ว..

เด็กชายวัย 14 ปีคนหนึ่งรอคอยพ่อของเขาในห้องพักของสนามสปอร์ตพาร์ค อุนเตอร์ฮัคคิงก์ เมืองอุนเตอร์ฮัคคิงก์

รอเจอหน้าคุณพ่อของเขา เพียงเพื่อที่จะถามคำถามที่ตัวเองไม่เข้าใจ..

"ทำไมฟุตบอลมันถึงโหดร้ายขนาดนี้ล่ะครับพ่อ"

...ไม่มีคำตอบจากปากของพ่อ นอกจากอ้อมกอดที่อ่อนล้าเรี่ยวแรง และน้ำตา

"จะให้ผมตอบลูกว่ายังไงดีล่ะ จะหาคำตอบยังไงดี มันไม่มีคำตอบหรอก ผมทำได้แค่ร้องไห้ไปกับเขาด้วย" คริสโตฟ ดอย์ม รำลึกถึงความหลังในวันนั้น

หลังจากพาทีมจบฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์มา 2 ครั้งเมื่อปี 1997 และ 1999 ดอย์มนำ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เดินหน้าอย่างท้าทายตลอดฤดูกาล 1999/2000 นำเป็นจ่าฝูงและเข้าสู่เกมสุดท้ายด้วยการมีคะแนนมากกว่า บาเยิร์น มิวนิค ทีมอันดับสองอยู่ 3 คะแนน

เพียงผลเสมอก็พอที่อุนเตอร์ฮัคคิงก์.. แค่แต้มเดียวเท่านั้นที่เลเวอร์คูเซ่นต้องการ แล้วพวกเขาก็จะเป็นแชมป์บุนเดสลีกาครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

เด็กชาย มาร์เซล ดอย์ม ติดตามพ่อของเขาไปด้วยในเกมนั้น หนุ่มน้อยตื่นเต้นใจจดใจจ่อกับบรรยากาศที่เป็นไปตลอดสัปดาห์ ทีมของพ่อกำลังจะเป็นแชมป์

เขาคิดถึงการฉลองแชมป์ คิดถึงความสนุกตอนกระโดดโลดเต้นไปกับบรรดาอาๆ ลูกทีมของพ่อ คิดถึงการต้อนรับของแฟนบอลที่จะมีให้ทีมของคุณพ่อเมื่อเดินทางกลับไปถึงเลเวอร์คูเซ่น คิดถึงขบวนแห่รอบเมืองที่คงเต็มไปด้วยสีสัน มองไปทางไหนก็เจอแต่รอยยิ้ม

แต่แล้วทุกอย่างที่วาดเอาไว้ก็พังทลาย..

สิบเดือนแห่งการต่อสู้ หยาดเหงื่อที่หลั่งไหล ความหวังอันเรืองรองพินาศสิ้นภายในเวลาเพียง 90 นาที

"ทำไมฟุตบอลมันถึงโหดร้ายขนาดนี้ล่ะครับพ่อ"

ไม่มีคำตอบจากพ่อ นอกจากน้ำตา

----------

ยี่สิบสี่ปีผ่านไป.. คริสโตฟ ดอย์ม ร่วงโรยไปตามกาลเวลา เขาอายุ 70 ปีแล้ว ร่างกายผ่ายผอมลง ใบหน้าซูบตอบลง ริ้วรอยมากขึ้น และมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนคือการรอคอย

จากวันนั้นถึงวันนี้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ยังคงรอคอย..

คริสโตฟ 3 สมัย เคล้าส์ ท็อปป์โมลเลอร์ 1 สมัย จุ๊ปป์ ไฮย์นเกส อีก 1 สมัย ทั้งหมดที่ว่ามาคือตำแหน่งรองแชมป์.. นั่นแหละประวัติศาสตร์แห่งเลเวอร์คูเซ่นในบุนเดสลีกา เป็นทีมที่ได้รองแชมป์มากที่สุดแล้วในหมู่ทีมที่ยังไม่เคยสัมผัสโล่แชมป์บุนเดสลีกาด้วยกัน

แต่ในฤดูกาลนี้ กับความเป็นจริงที่กำลังอยู่ตรงหน้า.. การรอคอยอันยาวนานกำลังจะสิ้นสุดลงเสียที

ชาบี อลอนโซ่ และทีมงานของเขาต้องการอีกเพียง 3 คะแนนเท่านั้นใน 6 นัดที่เหลือ เพื่อนำพาทีมห้างขายยาไปสู่ฝั่งฝัน

จาก Never-kusen สู่ Fever-kusen

จาก ฤดูกาล 1996/97, 1998/99, 1999/2000, 2001/02 และ 2010/11 สู่ฤดูกาล 2023/24

จาก เดตต์มาร์ คราเมอร์, เอริค ริบเบ็ค, ไรนุส มิเชลส์, แบร์ตี้ โฟ้กท์ส, คริสโตฟ ดอย์ม, เคล้าส์ ท็อปป์โมลเลอร์, มิชาเอล สคิบเบ้, จุ๊ปป์ ไฮย์นเกส, โรเจอร์ ชมิดท์ สู่ ชาบี อลอนโซ่

จาก ฮันส์-ยอร์ก บุตต์, คาร์สเท่น ราเมโลว์, เยนส์ โนว็อตนี่, ลูซิโอ, เซ โรแบร์โต้, นิโก้-โรเบิร์ต โควัช, แบรนด์ ชไนเดอร์, สเตฟาน บายน์ลิช,  ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, โอลิเวอร์ นอยวิลล์, อูล์ฟ เคียร์สเท่น..

สู่ ลูคัส ฮราเด็คกี้, โจนาธาน ทาห์, เอ๊ดมอนด์ แท็ปโซบา, โอดีลอน คอสซูนู, กรานิต  ชาก้า, โรเบิร์ต อันดริช, เอเซเกล ปาลาซิออส, เฌเรมี่ ฟริมปง, เนธาน เทลล่า, อเล็กซ์ กริมัลโด้, โยนาส ฮอฟมันน์, พาทริค ชิค, วิคเตอร์ โบนิเฟซ

จาก มิชาเอล บัลลัค สู่ ฟลอเรียน เวีร์ตซ์

จาก การรอคอย สู่ จุดสิ้นสุดของการรอคอย

จาก ความอัดอั้น สู่ งานฉลองครั้งใหญ่

ชาวเมืองเลเวอร์คูเซ่นกำลังรอวินาทีนั้น มันอาจจะมาถึงตั้งแต่สัปดาห์นี้เลยก็ได้ หรือถ้ายังขัดข้อง จะรอไปอีกสักสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ก็ยังไหว

พวกเรารอกันมาทั้งชีวิต รออีกแค่นิดหน่อยจะเป็นไรไป

ถึงกระนั้น.. ทุกฝ่ายก็คาดกันว่าเลเวอร์คูเซ่นไม่ต้องรอนานหรอกครับ มันอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันอาทิตย์นี้เลยก็ได้

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จะรับมือ แวร์เดอร์ เบรเมน ในวันอาทิตย์

หรืออาจจะเป็นหนึ่งวันก่อนหน้านั้น ตำแหน่งแชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสรเลเวอร์คูเซ่นจะยืนยันทันทีถ้า บาเยิร์น มิวนิค แพ้ โคโลญจน์ ที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า ในวันเสาร์

หากผลเป็นอื่นคือเสือใต้ ชนะ หรือ เสมอ ตำแหน่งแชมป์จะยืนยันในวันอาทิตย์ถ้า เลเวอร์คูเซ่น ได้ผลการแข่งขันที่เท่ากันหรือดีกว่าบาเยิร์น

มันจะจบวันไหนก็ได้ไม่เป็นไร ถ้าจบตั้งแต่วันเสาร์ก็โอเค จะได้เตรียมงานฉลองให้พร้อมตั้งแต่ก่อนเตะวันอาทิตย์ แต่ถ้าวันเสาร์ยังยืดเยื้อก็ไม่เป็นไรอีก เดี๋ยวพวกเรามาปิดจ๊อบเอาเองก็ได้

ไบ อารีน่า ในวันอาทิตย์นี้คงอบอวลไปด้วยความสุข และคงจะมีศิษย์เก่ามากมายได้รับเชิญมาร่วมดื่มด่ำบรรยากาศแห่งความชื่นมื่นด้วยกัน

หนึ่งในนั้นอาจมี คริสโตฟ ดอย์ม ชายคนแรกที่พาเลเวอร์คูเซ่นไปถึงตำแหน่งรองแชมป์บุนเดสลีกา และเกือบจะได้สัมผัสฝั่งฝัน

มันคงเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุด และเป็นความสุขที่ทวีขึ้นไปอีกหลายเท่า..

----------

นอกจากความยอดเยี่ยมในศาสตร์การเป็นโค้ชและบุคลิกที่มีเสน่ห์แล้ว ชาบี อลอนโซ่ยังมีทีมงานที่เก่งกาจอยู่รอบตัวเขา

ในวันที่ถล่ม บาเยิร์น มิวนิค 3-0 ฉีกหนีเสือใต้จาก 2 คะแนนไปเป็น 5 แต้มช่วงก่อนวาเลนไทน์ อลอนโซ่กวักมือเรียกสตาฟฟ์โค้ชทุกคนของเขาให้วิ่งลงมาในสนามด้วยกันหลังจบเกม เพื่อมาฉลองกับแฟนบอลใน ไบ อารีน่า ด้วยกัน

เซบาสเตียน ปาร์รีย่า กับ อัลเบร์โต้ เอนซีนาส ผู้ช่วยเทรนเนอร์

อิสมาเอล โลเปซ, มาร์คุส มุลเลอร์, โยนาส ราธ และ ดาเนียล ฌูแว็ง โค้ชความฟิต

ดาวิด ธีล โค้ชผู้รักษาประตู

ไซม่อน ลัคมันน์ นักวิเคราะห์ทีมชุดใหญ่

ดร. มัลเต้ ครูเกอร์ หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาและฟิตเนสส์

ดร. คาร์ล-ไฮน์ริช ดิทท์มาร์ หัวหน้าทีมแพทย์พร้อมผู้ช่วยทั้ง 2 คนของเขา

สเวน เอลซิงเงอร์ หัวหน้าฝ่ายกายภาพบำบัดพร้อมทีมงานทั้ง 4 คนของเขา

ฮันส์-ปีเตอร์ เลห์นโฮฟฟ์ ผู้จัดการฝ่ายประสานงาน

สตาฟฟ์ทั่วไปทั้ง 3 คน

และนักวิเคราะห์หนุ่มวัย 38 ปีที่ชื่อ มาร์เซล..

มาร์เซล เด็กชายวัย 14 ปีเมื่อ 24 ปีก่อนคนนั้น

มาร์เซล.. มาร์เซล ดอย์ม

มันอาจจะเป็นโชคชะตาก็ได้ที่ฤดูกาลนี้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มีทีมงานคนสำคัญของสโมสรเป็นทายาทของอดีตเทรนเนอร์ผู้ยิ่งใหญ่แห่ง ไบ อารีน่า

มันอาจจะเป็นโชคชะตาก็ได้ที่หนุ่มทีมงานคนนั้นเคยอยู่ร่วมในบรรยากาศแห่งความโศกเศร้ากับคุณพ่อ พานพบกับประสบการณ์ที่โหดร้ายของฟุตบอลตั้งแต่วัยเด็ก

มันอาจจะเป็นโชคชะตาก็ได้ที่ทำให้เด็กน้อยคนนั้นอยู่กับฟุตบอลมาทั้งชีวิต อุทิศตนให้การศึกษางานวิเคราะห์ข้อมูลจากตัวเลขสถิติอย่างบ้าคลั่งจนแทบจะกินนอนกับมัน

มันอาจจะเป็นโชคชะตาก็ได้ที่นำพานักวิเคราะห์เกมมือต้นๆ ของวงการวัย 38 ปีที่เคยทำงานให้ทั้ง โคโลญจน์ เฟเนร์บาห์เช่ และ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต มาอยู่ที่นี่พอดีในวันสร้างประวัติศาสตร์

6 ปีแล้วที่เด็กหนุ่มวัย 14 ในวันนั้นเข้ามาช่วยงานที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ผ่านการทำงานกับ ปีเตอร์ บอสซ์, เคราร์โด เซวาเน่, ไฮโค แฮร์ลิช, ฮันเนส โวล์ฟ ก่อนจะมาเป็น อลอนโซ่ ในปัจจุบัน

วันนั้น.. เขารอคุณพ่อของเขาอยู่ในห้องพักที่สนามสปอร์ตพาร์ค อุนเตอร์ฮัคคิงก์

รอเพื่อจะถามคำถามที่ตัวเองไม่เข้าใจ.. ด้วยน้ำตาที่นองหน้า

"ทำไมฟุตบอลมันถึงโหดร้ายขนาดนี้ล่ะครับพ่อ"

วันนี้.. อาจเป็นคุณพ่อของเขาที่รออยู่ในห้องพักแทน แต่มันจะไม่มีคำถามใด ๆ อีกแล้ว แม้น้ำตาอาจจะยังไหลหลั่งเหมือนเดิม

น้ำตาเหมือนกัน แต่น้ำตาไม่เหมือนกัน

"ฟุตบอลไม่โหดร้ายอีกแล้วนะครับพ่อ ผมนำมันมาให้พ่อแล้ว"

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มีความฝันของผู้คนมากมาย ในจำนวนนั้นมีของพ่อลูกคู่หนึ่งอยู่ด้วย

จาก คริสโตฟ ดอย์ม

สู่ มาร์เซล ดอย์ม

จาก พ่อ สู่ ลูก

แด่ความโรแมนติกแห่งไบ อารีน่า..

ยินดีด้วยครับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ฝันที่เป็นจริงของพวกคุณช่างสวยงามเหลือเกิน

-ตังกุย-


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport