ญี่ปุ่นโค่นเยอรมัน

หลังจาก กาตาร์ และอิหร่านออกตัวให้โดนล้อว่ามาตรฐานเอเชียดูด้อย ปรากฏว่า ซาอุดีอาระเบีย ล้างภาพนั้นด้วยการพลิกล็อคช็อกโลก จัดการทีมของลิโอเนล เมสซี่ ลงได้ทั้งสกอร์และเกมการเล่น ที่ต้องยกนิ้วให้ อาร์ฟ เลอนาร์ โค้ชจอมแทกติกชาวฝรั่งเศส

คือเกมไม่เป็นรองแถมยิงประตูได้อีก...

นั่นทำให้การเผชิญหน้ากับเยอรมัน กับ ญี่ปุ่นอยู่ในความสนใจทันที....

ในฐานะที่ญี่ปุ่นมีประสบการณ์บอลโลกที่ดีกว่าทั้ง สามทีมที่ออกจอไปก่อนแล้ว

ครั้งก่อนก็ 16 ทีมสุดท้ายเล่นเอาเบลเยียม...เหงื่อแตก

อีกทั้งสไตล์ซามูไร บลู ที่เล่นบอลอย่างมีวินัย ตามแทกติกของ โค้ช เปี่ยมด้วยสปิริต ที่ไม่ต่างจากทีมแชมป์สี่สมัยอย่างเยอรมัน ...จะมีแค่ "คุณภาพ" ของเกมรุก ตัวรุก ที่ดูจะเป็นรองงง

กระนั้น....ก็ไม่ใช่ปลาดิบที่จะมาจิ้มวาซาบิง่ายๆ หรือจิ้มได้แล้วขึ้นจมูกสำลักทันที 



แทกติกสองโค้ช

 ฮันส์ซี่ ฟลิค ; เรื่องของรูปแบบไม่ใช่ปัญหาของ ฮันส์ซี่ ฟลิค แค่ว่าเวลานี้เลือดใหม่ พร้อมเดินเครื่องได้ดีขนาดไหน  ฟลิค ยังเล่นระบบ 4-2-3-1 

นอยเออร์ + แบกโฟร์ ปรับ นิคลาส ซือเล่นมายืนแบ๊กขวา ปกติดูมั่นใจกับ ธีโล เคห์เลอร์ จากเวสต์แฮม ส่วนคู่เซนเตอร์เลือก รือดิเก้อ และ ชลอตเตอร์เบค ของดอร์ทมุนด์ แบ๊กซ้าย ไลป์ซิก ดาวิด รอม 

แดนกลางคู่ กุนโดกันกับ โจชัว คิมมิช 

แดนกลางรุก 3 คน นาบรี กับ มุสิอาลา ริมเส้น ส่วน มุลเลอร์ เล่นเบอร์สิบ หน้าเป้าเป็นแบบ ฟอล์สไนน์...โค ฮาแวร์ตส์ 

ส่วน ฮาจิเมะ โมริยาสุ ยังเลือกขาประจำ ในระบบ 4-2-3-1 

กอนดะ นายด่านจาก ชิมิสิ เอสพลัส  แบ๊กโฟร์ ไม่มีชื่อโทมิยาสุ จากอาร์เซนอล เกมนี้สำรอง ปกติเล่นทีมชาติยืนเซนเตอร์แบ๊ก แต่เกมนี้เลือกคู่หูจากบุนสเดลีกา อีตากุระ  (กลัดบัค) ยืนกับ มายะ โยชิดะ (ชาลเก้) แบ๊กขวาตัวหลัก ซากาอิ ที่เคยเล่นกับ ฮันโนเวอร์, มาร์กเซย ปัจจุบันอยู่กับ อูราวะ เรด ไดมอนด์ ถือว่าเก๋าพอตัว ผ่านบอลโลกมาแล้ว ส่วนแบ๊กซ้ายเจ้าประจำ นากาโตโมะ ที่กลับไปเจลีก เล่นกับ เอฟซี โตเกียว

คู่กลางเอนโดะ (สตุตการ์ท) กับ ทานากะ  (ดุสเซลดอร์ฟ)

กลางรุกริมเส้นด้านขวา อีโตะ จาก รีมส์ ตัวเพลย์เมคเกอร์ ของทีม คามาดะ (แฟร้งค์เฟอร์ต) และ คูโบะ (โซเซียดัด) ส่วนหน้าเป้า "หลวงพี่" มาเอดะ ของเซลติก 

45 นาทีแรก....อินทรีเหล็กครองเกม81%  ญี่ปุ่นพลาดเอง

ลูกทีม ฮันส์ซี่ ฟลิค เล่นแบบเขี้ยวลากดิน เน้นเกม พาสซิง คุมจังหวะการเล่น แล้วก็นวดไปเรื่อยๆ เพราะทีม โมริยาสุ เน้นรับแดนสองรอสวน 

จนกระทั่งญี่ปุ่นพลาดเองจากจังหวะ กอนดะ นายประตูระดับเจลีก ที่โดน รอม หลอก แล้วเสียเหลี่ยม โผเข้าหา...จังหวะนี้ประสบการณ์ล้วนๆเลย ไม่จำเป็นต้องไปทำอะไร เพราะ รอม ล้มกับพื้นไปแล้ว ตัวเองเสียเปรียบอยู่แท้ๆ กลับพุ่งเข้าหา เลยกลายเป็นไปทับ รอม เสียจุดโทษแบบไม่น่าเสีย

กุนโดกัน ยิงไม่พลาดนำ 1-0 จากนั้นเยอรมันก็บีบให้ญี่ปุ่นตั้งรับอย่างเดียว อยู่แต่กรอบโทษ จวนเจียนเสียลูกสอง...แต่ก็รอดตัวไป

ครึ่งแรกรูปเกมเยอรมันเหนือกว่าทุกแบบ ญี่ปุ่นได้ยิงหนึ่งครั้งเอง 

ครึ่งหลัง... เกมสวนกลับซามูไรทำงาน 

แค่ 15 นาทีแรกของครึ่งหลังที่เยอรมัน น่าได้ลูกสองหลายครั้ง แต่พอไม่ได้ เกมญี่ปุ่นดีขึ้น เริ่มบุกมากขึ้น เริ่มสวนกลับมากขึ้น ทำให้เยอรมันต้องเครียดมากกว่าครึ่งแรก แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ....กอนดะ ออกแรงเซฟ ลูกยากหลายครั้ง กุนโดกัน ยิงชนเสาทำให้ญี่ปุ่นรอดไม่เสียลูกสอง ยังอยู่ในเกม จนกระทั่งไล่ตีเสมอ จากกลุ่มตัวสำรองที่ลงมาพลิกเกมได้ ทั้ง มิโตมะ, มินามิโนะ , อาซาโนะ, ริตสึ โดอัน ที่มีความเร็ว เล่นเอากองหลังเยอรมันหอบกิน พอข้างหน้าสามารถเล่นเกมสวนกลับได้ดี ทีมก็ตีเสมอและยิงนำได้ 


บทสรุปความพ่ายแพ้ "อินทรีเหล็ก" 

1 กอนดะ ซาตานและ ฮีโร่ 

ครึ่งแรกเป็น ซาตาน ครึ่งหลังเป็นฮีโร่... 

ครึ่งแรกสำคัญเลย ความผิดพลาด กอนดะ นายประตูที่เสียเหลี่ยม ทะเล่อทะล่า ทำฟาวล์เอง เลยโดน 1-0 พอจากนั้นอีก 15 นาทีก่อนหมดครึ่งแรกเยอรมันเดินรถทางเดียว ไฟเขียวผ่านตลอด เช่นกันครึ่งหลังที่เยอรมันลุยแหลกจนเกือบได้ประตูที่สองหลายครั้ง แต่ กอนดะ ป้องกันพัลวัน

2 โมริยาสุ แก้เกม

ตัวสำรองเห็นได้ชัด... โมริยาสุ เปลี่ยนตัวสำรองลงมาสามสี่คนมีผลต่อการโต้กลับได้ดีมาก ตัวทำจี๊ดจ๊าดของพวกเขาถูกเปลี่ยนตัวลงมามาโชว์ฟอร์ แม้ครึ่งแรกมีครั้งเดียวที่ได้ยิง แต่ครึ่งหลัง ตัวสำรองลงมาเปลี่ยนเกมและหาโอกาสเข้าทำ จนได้ประตู จาก โดอัน นักเตะที่ย้ายจากดัชท์ลีก มา บุนเดสลีกากับไฟรบวร์ก ซ้ำจังหวะ นอยเออร์ ปัดลูกเปิดของ มินามิโนะ มาเข้าทาง โดอัน  ก่อนที่ ลูกฟรีคิกง่ายๆจากแดนหลังให้ อาซาโนะ เอาบอลลงแล้วเบียด ชลอตเตอร์เบค เข้าไปยิงแสกหน้า นอยเออร์ เข้ามุมแคบ ไป 2-1 

ในขณะที่ตัวเปลี่ยนของ ญี่ปุ่นใช้ได้ผล...ของเยอรมัน ต้องไปขุดเอา มาริโอ เกิทเซ่ กลับมาเล่น...ตัวสำรองเยอรมัน แพ้ญี่ปุ่น 

3เยอรมันหน้าไม่คม หลังแผ่ว 

น่าจะนำ 2-0 ใน15 นาทีแรกของครึ่งหลัง เพราะเกมยังเหนือกว่าแต่พอยิงไม่ได้ เท่ากับญี่ปุ่นได้ความมั่นใจ และเมื่อตัวสำรองญี่ปุ่นลงมา มีความเร็วโจมตีได้ดี 

ขณะที่แบ๊กโฟร์ของเยอรมัน ทั้งรือดิเก้อ, ชลอตเตอร์เบค ดูแผ่วลงไปเห็นได้ชัด รับผิดชอบกับการโดนตีเสมอและลูกยิงนำ ไม่น่าเชื่อว่าความแข็งแกร่งหายไป แต่ก็ต้องยอมรับว่า สำรองญี่ปุ่นที่ลงมานั้นทีเด็ด เร็ว, คล่อง , พลังเหลือเฟือ 

4 เจลีก...ลีกอันดับหนึ่งเอเชีย

อวยชัยให้เจลีก ไม่น่าเกลียดครับ จังหวะตามน้ำ นักเตะเจลีก สร้างมาแล้วส่งไปยุโรปกันทั้งทีม ขณะที่ กอนดะ นายประตูที่ต้องบอกว่าเป็นฮีโรได้ด้วย ครึ่งหลังเซฟพัลวันมาจากสโมสร ชิมิสุ เอสพลัส ด้วยซ้ำ

ครั้งล่าสุดที่เยอรมันนำก่อนแล้วแพ้คือ คัดเลือกบอลโลก 1994 นำบัลแกเรียก่อนแพ้ 

แต่นี่คือบอลโลกรอบสุดท้าย และแพ้ญี่ปุ่น ทีมที่ประสบการณ์ระดับโลกน้อยกว่า แต่พลัง, สปิริต หาได้เป็นรองเยอรมันแต่อย่างไรไม่

ญี่ปุ่นสมควรชนะด้วยประการทั้งปวง....เพราะเล่นบอลเหมือนอยากเอาชนะมากกว่าเยอรมัน ที่บางคนแอ๊กอาร์ต โดยเฉพาะ รือดิเกอร์ ที่ทำท่าวิ่งล้อเลียน อาซาโนะ จังหวะสปรินต์ถึงเส้นหลัง...

ตอนนี้ รือดิเกอร์  คงโดนล้อเลียนเต็มโซเชียลแล้วละครับ 

เฮ้อ...หัวเราะทีหลังดังกว่า

เอาเถอะครับ..คนชนะพูดอะไรก็ไม่ผิด แต่อย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่นักเตะซามูไร สู้เยอรมันได้และอาจมีมากกว่านั่นคือ "หัวใจในการต่อสู้" และ "ความมุ่งมั่น" ในเกมนี้

JACKIE 


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport