ถือว่าผิดคาด! สิ่งที่อยากบอกหลัง อังกฤษ กระซวก อิหร่านยับ

พลพรรคสิงโตคำรามเปิดตัวในศึกฟุตบอลโลก 2022 พร้อมฟอร์มร้อนแรง ว่าแล้วก็ขย้ำคู่แข่งอย่าง อิหร่าน แบบไม่เหลือซาก ด้วยการกระทุ้งถึง 6 ดอก

และต่อไปคือสิ่งที่อยากจะบอก

1. เมื่อเจอคู่แข่งที่อ่อนที่สุดในกลุ่ม แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 เพื่อเน้นเกมรุกมากขึ้น

ผู้เล่น 11 ตัวจริงไม่ได้แตกต่างจากที่คาดสักเท่าไหร่

จอร์แดน พิ๊คฟอร์ด เฝ้าเสา

คู่เซ็นเตอร์ฯ จอห์น สโตนส์ กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เล่นคู่กันขนาบข้างขวาและซ้ายด้วย คีแรน ทริปเปียร์ กับ ลุค ชอว์

มิดฟิลด์ตัวกลางเป็น ดีแคลน ไรซ์ กับ จู๊ด เบลลิงแฮม โดยให้ เมสัน เมาต์ ทำหน้าที่ตัวรุก

แฮร์รี่ เคน เป็นหัวหอกขนาบข้างด้วย บูกาโย่ ซาก้า ทางซ้าย และราฮีม สเตอร์ลิง ทางขวา

สังเกตว่าผู้เล่นประเภท 'ลูกรัก' ของผู้เป็นกุนซือได้ลงสนามก่อนทั้งหมด แถมไม่ทำให้ผิดหวังซะด้วย !!!

2. อังกฤษ เหนือกว่าทุกเหลี่ยมมุมอยู่แล้ว แต่บ่อยครั้งที่พวกเขามักจะเปิดตัวได้ไม่ค่อยน่าประทับใจ เฉพาะอย่างยิ่งในเกมแรกของฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่มักจะชนะแบบกระท่อนกระแท่น

ขณะที่ อิหร่าน มาตามสูตรของทีมที่เป็นรอง คือเน้นเกมรับเป็นพิเศษเอาไว้ก่อน แล้วพยายามหาจังหวะโต้กลับ

ว่าแล้วก็ถอยลงไปตั้งรับในแดน เพื่อปิดพื้นที่ให้แน่นหนา แถมยังเข้าประชิดตัวอย่างรวดเร็วทุกจังหวะ บวกการเข้าสกัดอย่างหนักหน่วงแบบถึงลูกถึงเมียจึงทำให้เกมหยุดบ่อยจนน่าหงุดหงิดตามง่ามนิ้วมือและง่ามนิ้วเท้า 

เจอกลยุทธ์อันเป็นสูตรสำเร็จแบบนี้เข้า มันก็น่าอึดอัดแทนทีมสิงโตคำรามเช่นกัน โดยช่วงแรกๆ พวกเขาทำเกมกันไม่ถนัดนัก เพียงแต่เกมสวนกลับของ อิหร่าน นั้นไม่ได้มีความน่ากลัวอะไรเลย





3. แล้วทีมชาติอั้งม้อก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจุดเด่นของตัวเอง คือเล่นเกมรุกทางด้านข้างแล้วครอสส์เข้ามาตรงกลาง

จังหวะขึ้นนำ 1-0 ลุค ชอว์ เปิดได้แม่นยำมากนะครับ ขณะที่ 'ไอ้จู๊ด' ก็โหม่งแบบสะบัดๆ ได้ฉลาดเกินเด็ก

ประตูนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยปลดล็อค มันยังช่วยเปิดจุดเฮ้ากวงให้อังกฤษอีกด้วย เพราะหลังจากนั้นพวกเขาก็เล่นด้วยความมั่นใจ และไม่กดดัน ก่อนประตูที่ 2 และประตูที่ 3 จะตามมาอย่างรวดเร็ว

ครึ่งแรกนำห่าง 3-0 ด้วยฟอร์มการเล่นที่เหนือกว่า มันก็เท่ากับเกมจบลงล่วงหน้าเรียบร้อย 

4. ถือเป็นเกมที่พลพรรค 'ทรี ไลอ้อนส์' เล่นได้ไฉไลเป็นบ้านะครับ

เกมรุกดุดัน และกะซวกไส้ดีนักแล 

อังกฤษใช้ประโยชน์จากเกมรุกได้หลากหลาย ทั้งการครอสส์บอลจากทางด้านข้างเ ทั้งการใช้ลูกตั้งเตะ และการใช้ความสามารถเฉพาะตัวเข้าโจมตี แถมมีความเฉียบคม และเด็ดขาด

อังกฤษกระทุ้งคู่แข่งได้ถึง 6 ดอก จากผู้เล่นที่แตกต่างกัน 5 คน โดยไม่มีชื่อของกองหน้าตัวเป้าอย่าง แฮร์รี่ เคน เป็นผู้ทำประตู

แต่สำหรับผม ดาวยิงผู้นี้คือ 'แมน ออฟ เดอะ แมตช์' ตัวจริง มิใช่ บูกาโย่ ซาก้า ที่เหมาคนเดียว 2 ประตู

'ปริ๊นซ์ แฮร์รี่' เป็น 'หน้าเป้า' บนแผ่นกระดาษและผังการเล่นก็จริง ทว่าเวลาเล่นในสนาม เขามักจะถอนตัวลงต่ำ เพื่อหนีการถูกประกบพลางหาทางเปิดป้อนให้ 'หน้ากึ่งปีก' ทั้ง 2 ข้างที่ผลัดกันหุบเข้ามาเป็นกองหน้า

แล้วผู้ชมทางบ้านอย่างผมก็พบว่าดาวเตะผู้นี้เป็นคนที่จ่ายบอลได้คมบรรลัย

บอลที่พุ่งออกจากเท้าของเขามีความทะลุทะลวงเกมรับของคู่แข่ง ขณะที่การจ่ายบอลแบบธรรมดาๆ ก็มีความแม่นยำมาก

แม้จะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตู แต่สามารถสร้างสรรค์เกมรุก และช่วยให้เกมรุกของอังกฤษมีสีสันเช่นเดียวกับพลานุภาพ

เกมรับของสิงโตคำรามก็ถือว่าดี แม้จะเสียไปถึง 2 ประตูก็ตาม

เฉพาะอย่างยิ่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ถูกล้อว่าเป็นตัวบรรลัย

เมื่อสวมเครื่องแบบทีมชาติ คุณพี่เขาแปลงร่างเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่มีคลาสส์ ด้วยการอ่านเกมพลางชิงจังหวะสกัดเด็ดขาด ไม่แสดงความผิดพลาดออกมาง่ายๆ

มิหนำยังเกือบทำลายตาข่ายได้ แถมแอสซิสต์ไปอีก 1 ครั้งจนเด็กผีอย่างผมแทบไม่อยากเชื่อสายตา

ประตูที่เสียไปเกิดขึ้นหลังจากนำห่างแล้วผ่อนเกมซะมากกว่า ไม่ถือว่าเป็นความผิดพลาดอะไรมากมาย

...ว่าแล้วก็ตลกที่ยังอุตส่าห์มีคนเอาไปล้อในจังหวะที่อังกฤษเสียประตูแรก

5 อย่างไรก็ตาม

มาตรฐานของ อิหร่าน ก็ต่ำกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยนะครับ เพราะตอนแรกก็นึกว่าพวกเขาจะสร้างความลำบากใจให้ทีมขวัญใจมหาชนได้มากกว่านี้

อังกฤษอาจยังไม่เจอ...ของจริง อันนี้เข้าใจ ว่าแล้วอย่าเพิ่งร่ำร้องตะโกนว่า...

Football is coming home

แต่เจอ 'ของปลอม' แล้วกดไม่เหลือซากแบบนี้ถือว่าผิดคาด และน่าปลาบปลื้มมิใช่น้อย

บอ.บู๋


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport