ซาก้า ฮ็อตจริง,เซาธ์เกต ยืนหนึ่งกุนซือผู้ดี! 5 ข้อ อังกฤษ ขยี้ อิหร่าน ประเดิมบอลโลก

เปิดหัวศึก เวิลด์คัพ 2022 ได้อย่างน่าจับตามองสำหรับ อังกฤษ ซึ่งขยี้ อิหร่าน ลงได้แบบราบคาบ 6-2 ในเกมการฟาดแข้งนัดแรกของกลุ่ม บี เมื่อวันจันทร์ที่ 21 พ.ย.

แม้จะมีผลงานลงเล่นเกม เนชั่นส์ลีก หกนัดหลังสุดเลวร้ายไม่ชนะเลยแม้แต่เกมเดียวก่อนบินมาทำศึกใหญ่ที่ กาตาร์ แต่สุดท้ายทีม สิงโตคำราม ก็ไม่ทำให้สาวกผิดหวังเมื่อระเบิดฟอร์มฉกาจเก็บสามแต้มแรกเป็นประเดิมได้อย่างยอดเยี่ยม


1.โผ 11 ตัวแรก อังกฤษ ไม่พลิก


จากที่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีม สิงโตคำราม ยืนยันว่า ไคล วอล์คเกอร์ กับ เจมส์ แมดดิสัน หมดสิทธิ์ดวลเกือกกับ อิหร่าน เนื่องจากสภาพความฟิตยังไม่เต็มร้อย

พร้อมกันนี้ กุนซือ ทรี ไลอ้อนส์ ยังยืนยันตามมาว่า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป็นสองนักเตะคนสำคัญของเขาแม้ทั้งคู่จะถูกแฟนบอล และกูรูวิจารณ์เรื่อยมา

จนในที่สุด โผรายชื่อ 11 นักเตะ สิงโตคำราม ก็เป็นไปตามความคาดหมายแม้อาจมี ฟิล โฟเด้น ที่แฟนบอลบ่นอุบว่าน่าจะได้ออกสตาร์ตก่อนหน้า สเตอร์ลิ่ง มากกว่า

2.สิงโตพลังหนุ่ม


จากโผรายชื่อ อังกฤษ หมายความว่า บูคาโย่ ซาก้า ได้ออกสตาร์ตทำศึก ฟุตบอลโลก เป็นเกมแรกของเขาหลังโชว์ฟอร์มกับ อาร์เซน่อล ได้อย่างน่าประทับใจ

และในวัย 21 ปี 77 วัน ซาก้า กลายเป็นขุนพล ปืนใหญ่ อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับ อังกฤษ ในเกม ฟุตบอลโลก ด้วยซึ่งเป็นการทำลายสถิติของ แอชลีย์ โคล ในวัย 21 ปี 164 วันนัดบู๊กับ สวีเดน เมื่อปี 2002

ด้าน ดีแคลน ไรซ์ เป็นนักเตะ เวสต์แฮม อายุน้อยที่สุดเช่นกัน 23 ปี 311 วันที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกม เวิลด์คัพ ให้กับ อังกฤษ นับตั้งแต่ มาร์ติน ปีเตอร์ส ครองสถิตินี้ในนัดชิงชนะเลิศปี 1966 กับ เยอรมัน ในวัย 22 ปี 264 วัน

3.อวสานนายทวาร


หลังจากเกมผ่านไปได้แค่ 10 นาที อิหร่าน ก็ต้องเปลี่ยนนายทวาร อลิเรซ่า เบรันวานด์ ออกจากสนามเนื่องจากปะทะกับเพื่อนร่วมทีมจนจมูกแตก และแม้จะพยายามฝืนเล่นต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่ไหวในจังหวะที่เกมยังไม่มีประตูเกิดขึ้น

และนับจากนั้น สกอร์ก็ไหลมาเทมา แต่สำหรับ เบรันวานด์ เชื่อว่า ฟุตบอลโลก หนนี้ของเขาน่าจะจบลงแล้วเนื่องจากตามกฏของ ฟีฟ่า นักเตะที่ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจะต้องพักฟื้นสิบวัน

ขณะเดียวกัน นับเป็นเรื่องแปลกไม่ใช่เล่นเนื่องจากถึงขณะนี้มีนายทวารทีมคู่แข่งของ อังกฤษ ในเกม ฟุตบอลโลก ต้องเปลี่ยนตัวออกก่อนถึง 20 นาทีแรกมากถึงสามรายแล้วไล่ตั้งแต่ บียาร์ ของ ปารากวัย ในปี 2006 ,ฮัสซัน ของทีมชาติ ตูนีเซีย ในปี 2018  จนกระทั่งมาถึงคิวของ เบรันวานด์ เป็นรายล่าสุด



4.ซาก้า-เบลลิ่งแฮม คู่โหด ทรี ไลอ้อนส์


ต้องบอกว่าประเดิมเกม ฟุตบอลโลก ได้อย่างระบือลือลั่นจริงๆสำหรับ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ซึ่งพังประตูแรกในนามทีมชาติของตัวเองได้ในเวทีใหญ่จากการรับใช้ชาติเป็นนัดที่ 18

ต่อผลงานดังกล่าว ทำให้ดาวเตะทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นพ่อค้าแข้งรายแรกที่เกิดในปี 2000 หรือหลังจากนั้นที่สอยตาข่ายในเกม เวิลด์คัพ ได้ด้วย

ขณะเดียวกัน เจ้าหนูจู๊ดยังเป็นขุนพล ทรี ไลอ้อนส์ อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ใน ฟุตบอลโลก ด้วยวัย 19 ปี 145 วัน เป็นรองแค่ ไมเคิ่ล โอเว่น ในวัย 18 ปี 190 วันเมื่อปี 1998 รายเดียวเท่านั้น

ยิ่งเมื่อ เบลลิ่งแฮม (19ปี) มาจับคู่กับ ซาก้า (21ปี) ก็ทำให้ อังกฤษ มีนักเตะสองรายที่อายุไม่มากกว่า 21 ปีที่ยิงประตูในเกม ฟุตบอลโลก นัดเดียวกันได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ของทัวร์นาเมนต์

สำหรับ ซาก้า ซึ่งกระทุ้งได้สองเม็ด แน่นอนว่าทำให้เจ้าตัวเป็นนักเตะ อังกฤษ อายุน้อยที่สุด 21 ปี 77 วันที่ยิงได้มากกว่าหนึ่งประตูในเกม ฟุตบอลโลก นัดเดียวกัน

และหากไม่นับคู่หูนรกแตก มาร์คัส แรชฟอร์ด ตัวสำรองยังแผลงฤทธิ์ลุกจากม้านั่งข้างสนามลงมาสอยตาข่ายได้อย่างไวในเวลาเพียง 49 วินาทีซึ่งเป็นสถิติอันดับสามของ ฟุตบอลโลก สำหรับบรรดาตัวสำรองที่เช็คบิลได้อย่างเร็วจี๋เป็นรองแค่ ริชาร์ด โมราเลส ในเกมระหว่าง อุรุกวัย กับ เซเนกัล ในปี 2002 (16 วินาที) และ เอ็บเบ้ ซานด์ ในเกมระหว่าง เดนมาร์ค กับ ไนจีเรีย ในปี 1998 (26 วินาที)

5.บ๊ายบาย อิหร่าน/เซาธ์เกต ยอดกุนซืออิงลิช


เท่าที่ผ่านมา อิหร่าน ไม่เคยเอาชนะทีมจากยุโรปได้เลยในเกม ฟุตบอลโลก (เสมอ 2 แพ้ 6) และพวกเขาได้บู๊กับ อังกฤษ เป็นครั้งแรกจากทุกรายการก่อนพ่ายไปอย่างขาดลอย 6-2

นับเฉพาะครึ่งแรกที่ สิงโตคำราม นำหน้า 3-0 อิหร่าน ได้ส่องยิงแค่หนเดียวในช่วงท้าย และหลุดกรอบ ขณะที่ ทรี ไลอ้อนส์ ได้สับไก 7 ครั้ง และเข้ากรอบ 4 ครั้ง

เท่านั้นไม่พอ มีการบ่งชี้ว่าเกมใน 45 นาทีแรก อังกฤษ ผ่านบอลดีได้มากถึง 366 ครั้งซึ่งเป็นสถิติอันดับสองของศึก ฟุตบอลโลก ใน 45 นาทีแรกนับตั้งแต่ปี 1966 โดยผลงานที่ดีที่สุดเป็นเกมระหว่าง สเปน กับ รัสเซีย ในปี 2018 ซึ่งทีม กระทิงดุ ผ่านบอลดีได้มากถึง 395 ครั้ง

ในทางกลับกัน อิหร่าน ของกุนซือ คาร์ลอส เคยรอช ผ่านบอลดีในครึ่งแรกได้แค่ 46 ครั้งเท่านั้นซึ่งย่ำแย่ที่สุดของศึก ฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ปี 1966

พร้อมกันนี้ ก่อนหน้าการปะทะกับ อังกฤษ ยักษ์ใหญ่จากเอเชียยิงประตูในเกม ฟุตบอลโลก 15 นัดของพวกเขาได้แค่ 9 ลูกเท่านั้นซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยประตูต่อนัดที่เลวร้ายที่สุดของทีมที่ได้เล่น ฟุตบอลโลก มากกว่า 10 นัดด้วย

และอย่างที่บอก อิหร่าน ซึ่งไม่เคยชนะทีมจาก ยุโรป ใน ฟุตบอลโลก ไม่เคยผ่านรอบแรกได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวจากการลงสนาม 15 นัดซึ่งสองนัดที่พวกเขากำชัยได้เป็นเกมบู๊กับ สหรัฐฯ ในปี 1998 และ โมร็อคโก ในปี 2018

ด้าน เซาธ์เกต แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ความจริง ณ วันนี้คือเขาคุม อังกฤษ คว้าชัยในเกมทัวร์นาเมนต์สำคัญทั้ง ฟุตบอลโลก และ ฟุตบอลยูโร ได้มากที่สุดรวม 9 นัดแล้วซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดเหนือกว่า เซอร์ อัลฟ์ แรมซีย์ 8 นัดด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ชัยชนะที่มีต่อ อิหร่าน 6-2 ยังเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ อังกฤษ เช่นกันในการลงสนามนัดแรกของสองทัวร์นาเมนต์ใหญ่โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเคยยิงได้หกตุงในทัวร์นาเมนต์ใหญ่แค่หนเดียว แต่ไม่ใช่เกมประเดิมสนามนัดกำราบ ปานามา 6-1 ในศึก ฟุตบอลโลก ปี 2018


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport