เพาะกายโลกและเอเชียเอาจริง เพื่อให้กีฬาเพาะกายปลอดโด๊ป ล่าสุดเตรียมบทลงโทษ หากนักกีฬาคนใดตรวจพบสารต้องห้าม นอกจากโดนแบนห้ามแข่งขันเป็นเวลา 4 ปี แล้ว ยังจะโดนปรับอีกคนละ 2 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือ 64,830 บาท ส่วนประเทศต้นสังกัดโดนอีก 4 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือ 129,660 บาท รวมแล้ว 6 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือ 194,670 บาท โดยบทลงโทษทุกรายการจะเริ่มใช้ในปีหน้า 2026
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการ สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย และ นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับในโอกาส ที่สมาคมฯ ครบรอบ 72 ปี ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 2 รายการใหญ่ การแข่งขันเพาะกายชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 19 ที่จัดทดแทน การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพวันที่ 9-20 ธ.ค. ไม่มีการบรรจุเพาะกายเข้าแข่งขัน และอีกรายการ การแข่งขันเพาะกายและฟิตเนส ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 57 ที่ห้องสุพรรณหงส์ โรงแรมอเล็กซานเดอร์ ถนนรามคำแหง
นายศุกรีย์ เผยอีกว่า ในการแข่งขันทั้ง 2 รายการนี้ สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก และสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย โดยทาง ดาโต๊ะพอล ชัว ประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก ได้เห็นความสำคัญของเรื่องมาตรการการควบคุมสารต้องห้ามในกีฬาเพาะกาย ด้วยการจัดสัมมนาในเรื่องการรณรงค์เรื่องการป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้ง 2 รายการ ที่ห้องสกาย ชั้น 18 โรงแรมอเล็กซานเดอร์ ถนนรามคำแหง ซึ่งในการสัมมนาครั้งนี้ มีนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ที่เข้าร่วมการแข่งขันได้มาร่วมรับฟังการสัมมนาคนรั้งนี้ เป็นจำนวนมาก กว่า 300 คน
"ในการแข่งขันทั้ง 2 รายการ ก่อนแข่งขันนักกีฬาไทยทุกคน มีการตรวจหาสารกระตุ้นก่อนแข่งขันด้วย รวมทั้งมีการสัมมนาให้ความรู้ เกี่ยวกับสารต้องห้ามโดยเฉพาะสำหรับนักกีฬาไทย ก่อนแข่งขันอยู่แล้วทุกรายการ นอกจากนี้ทางฝ่ายการแพทย์ของ สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ยังมีการสุ่มตรวจหาสารกระตุ้นของนักกีฬาที่เข้าแข่งขันด้วย"
"สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ต้องการให้การแข่งขันกีฬาเพาะกายมีการรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจัง ในอดีตทางสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก และ สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ถ้าพบนักกีฬาที่ใช้สารต้องห้าม สำหรับบทลงโทษ สมัยก่อน มีแค่ห้ามแข่งขันเป็นเวลา 4 ปี แต่ในปี 2026 ทุกการแข่งขันทุกรายการที่ทางสหพันธ์ฯ จัดการแข่งขันขึ้น ถ้าพบว่านักกีฬาคนไหนตรวจพบว่า มีการใช้สารต้องห้าม นอกจากจะโดนแบนห้ามแข่งขันเป็นเวลา 4 ปี แล้ว ยังจะโดนปรับอีก คนละ 2 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือเงินไทย 64,830 บาท นอกจากนี้ ยังจะปรับเงินประเทศที่พบว่ามีนักกีฬาใช้สารต้องห้ามอีก 4 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือเงินไทย 129,660 บาท รวมแล้วนักกีฬาและประเทศ นั้นจะโดนปรับ 6 พันดอลลาร์สหรัฐ หรือ เงินไทย 194,670 บาท ต่อคนที่ตรวจพบว่ามีการใช้สารกระตุ้น"