สำหรับศึกไอซ์ฮอกกี้เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ (IIHF ICE HOCKEY WORLD CHAMPIONSHIP) เป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ใหญ่ที่สุดของสหพันกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติจัดแข่งทุกปี โดยจะมีการแบ่งเป็นดิวิชั่นเพื่อเป็นการชาเลนจ์ของทุกทีมที่เข้าร่วมแข่งขัน

ในส่วนของทีมชาติไทยนั้นได้เข้าร่วมเมื่อปี 2019 เริ่มต้นในระดับดิวิชั่น 3 กลุ่มบี จากนั้นก็ต้องพักการแข่งขัน 2 ปีเนื่องจากทั่วโลกเจอสถานการณ์โรคระบาด "โควิด-19" จนกลับมาแข่งได้ในปี 2022 และก็เป็นครั้งแรกที่ทีมไอซ์ฮอกกี้หนุ่มไทยได้เลื่อนไปเล่นในดิวิชั่น 3 กลุ่มเอ

อย่างไรก็ตาม ผ่านมา 2 ปี ในปี 2024 สมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย ที่มี ม.ล.กฤษฎา เกษมสันต์ เป็นนายกสมาคม ได้มีการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ บรรดานักกีฬาซีเนียร์ก็ทยอยกันเลิกเล่นทีมชาติ สวนทางกับบรรดาเด็กดาวรุ่งที่สมาคมปั้นมาหลายสิบปี เข้าสู่ช่วงพีคของชีวิตนักกีฬา ทำให้ชุดนี้ถือว่าเป็นชุดแห่งอนาคตของวงการไอซ์ฮอกกี้ไทย

จึงทำให้การแข่งขันเวิลด์แชมเปี้ยนชิพรอบนี้มีความหวังมากที่สุดที่ไทยจะได้เลื่อนชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 2 กลุ่มบี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 16 มีนาคม 2567 ณ ประเทศคีร์กีซสถาน มี 6 ชาติร่วมชิงชัยดังนี้ เม็กซิโก, ลักเซมเบิร์ก, ไทย, เติร์กเมนิสถาน, คีร์กีซสถาน และ แอฟริกาใต้

ผลการแข่งขันนั้นก็เป็นไปตามที่หวังไว้จริงๆ เพราะทีมไทยนั้นเล่นด้วยความรัดกุม บวกกับเกมรุกที่ดุดันโดยเฉพาะผู้เล่นแนวรับขึ้นมาทำประตูได้หลายครั้ง แต่ที่เห็นได้ชัดคือระบบทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่มีการฝากความหวังไว้ที่ใครคนใดคนหนึ่ง ช่วยกันเล่นและเล่นตามแทคติกได้ดีความสามารถของแต่ละคนเท่ากันหมด จึงทำให้ทีมไทยคว้าแชมป์ดิวิชั่น 3 กลุ่มเอ ทั้งที่ยังแข่งไม่ครบทุกนัดเลยด้วยซ้ำ โดย 5 นัดชนะรวด (ชนะ คีร์กีซสถาน 9-4, ชนะ เม็กซิโก 5-0, ชนะ แอฟริกาใต้ 5-1, ชนะ เติร์กเมนิสถาน 13-3 และ ชนะ ลักเซมเบิร์ก 6-1) เก็บได้ 15 คะแนนเต็ม ยิงได้ 38 ประตู เสีย 9 ลูก

จากความสำเร็จของทีมหนุ่มไทยที่ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 เอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 2017 ที่ซัปโปโร ซึ่งเป็นเกมระดับเอเชีย วันเวลาผ่านมาถึง 7 ปี ก็พัฒนาทีมจนสามารถคว้าแชมป์ระดับโลกดิวิชั่น 3 ได้ โดยมีกลุ่มนักกีฬาที่อยู่ชุดเอเชียนเกมส์เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ถึง 7 คนคือ เค็น เอ็ดวิน ซินเบอร์น, ปภาณ ธนเกริกเกียรติ, เทวินทร์ ชาติสุวรรณ, ยอน มิคไคล์  อิซัคส์สัน, มาซาโต คิตายามะ, รักษ์ชัย สุขวิบูลย์ และ ภัทรพล อังกูลพัฒนาสุข ซึ่งถือว่าได้ซึมซับบรรยากาศแห่งชัยชนะเป็นครั้งที่ 2 โดยไม่นับรวมซีเกมส์เพราะถือว่าเป็นทัวร์นาเม้นที่เล็กกว่าเอเชียนเกมส์ กับ ชิงแชมป์โลก

ส่วนนักกีฬาที่โดดเด่นในปีนี้ ก็มี เค็น เอ็ดวิน ซินเบอร์น กองหลังกัปตันทีมลูกครึ่งไทย-สวีเดน ที่ถือว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดของไทยในเวลานี้ ฉายแววเด่นมาตั้งแต่ที่ติดทีมชาติครั้งแรกเมื่อปี 2017 แต่ในปีนี้ถือว่าพีคจริงๆ เล่นได้อย่างอิสระเติมเกมรุกได้ดี เกมรับก็ไม่มีบกพร่อง ส่วนอีกคนที่ฟอร์มเข้าตามากที่สุดคนหนึ่งก็คือ ปภาณ ธนเกริกเกียรติ ที่ในปีนี้เล่นดีผิดหูผิดตาหลังจากที่ได้รับความไว้วางใจให้ขึ้นมาเล่นไลน์ 1 ยืนหลังคู่กับ เค็น เอ็ดวิน ซินเบอร์น ซึ่งทั้งคู่ก็ซัพพอร์ตกันได้ดี และอาจจะเป็นความแข็งแกร่งของ ปภาณ ที่ยืนจังก้าในเกมรับ จน เค็น สามารถเติมเกมรุกได้สนุก

ขณะที่เกมรุกนั้นโดดเด่นหลายคนทั้ง ยอน มิคไคล์ อิซัคส์สัน, นิโคลาส ชาร์ล แลมสัน และ มาซาโต คิตายามะ ที่สลับสับเปลี่ยนกันกระซวกตาข่ายคู่แข่งอย่างเมามันส์ ถือว่าเป็น 3 ประสานกองหน้าที่ยอดเยี่ยมมากในปีนี้ แถมยังมี พันธุ์เดช คูหาแก้ว ที่ฟอร์มดีมากยิงได้แทบจะทุกนัด แต่น่าเสียดายที่บาดเจ็บในเกมที่ 4 ส่วนคนอื่นๆ ทั้ง แพทริก ฟอร์สเนอร์, ภานุรุจ สุวชิรัตน์, ชนกชนม์ ลิ้มปิ่นเพชร, ปัณณ์ หงษ์สวัสดิ์ ก็ถือว่าฟอร์มเข้าตาหมดทุกคน ภาพรวมทั้งทีมถือว่าดีมาก

นอกจากนี้ ทีมไทยยังได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมถึง 2 คนคือ เค็น เอ็ดวิน ซินเบอร์น ได้รางวัลกองหลังยอดเยี่ยม กับ เบนจามิน เดวิด คลายเนสเช ได้รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม

ในศึกไอซ์ฮอกกี้เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ดิวิชั่น 2 กลุ่มบี นั้นถือว่าเป็นระดับที่ยากกว่ามากเพราะต้องดวลกับทีมที่มีอันดับโลกเหนือกว่าไทยมาก ต้องมาลุ้นกันว่าปีหน้าทีมหนุ่มไอซ์ฮอกกี้ไทยจะมีผลงานอย่างไรในดิวิชั่น 2 กลุ่มบี แต่ตอนนี้ขอฉลองชัยกับการคว้าแชมป์ดิวิชั่น 3 ให้เต็มที่หน่อยก็แล้วกัน