"น้องทีเค"ตอบรับหวดสวิงเอเชีย-แปซิฟิกฯ2023ลุ้นตั๋วลุยเมเจอร์

รายการนี้เริ่มแข่งขันในปี 2009 จัดแข่งขันโดยสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี), เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ และ เดอะ อาร์แอนด์เอ หรือ องค์กรบริการจัดการกอล์ฟระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนากอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งผู้ชนะของการแข่งขันจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในรายการเมเจอร์ สองรายการ ได้แก่ รายการ "เดอะ มาสเตอร์ส" และ รายการ "ดิ โอเพ่น" นอกจากนั้น นักกอล์ฟที่ได้รองแชมป์ก็จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายในการชิงตั๋วเพื่อเล่นรายการ "ดิ โอเพ่น" ด้วยเช่นกัน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการแข่งขันครั้งที่ 14 ซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศออสเตรเลีย นั้น "ทีเค" รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ นักกอล์ฟสมัครเล่นมือ 34 ของโลก 1 ใน 7 นักกอล์ฟสมัครเล่นไทย ที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในการแข่งขันครั้งล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา ที่สนามอมตะสปริง คันทรี คลับ รัชชานนท์ จบอันดับ 13 ร่วม สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 282 ซึ่งการลงทำศึกครั้งนั้นเกิดขึ้นเพียงแค่ 6 เดือนหลังจากเขาสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการคว้าแชมป์ในรายการอาชีพของเอเชียนทัวร์ที่พัทยา ส่วนผลงานปีนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศการแข่งขัน เดอะ อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศอังกฤษ

นอกจากรัชชานนท์แล้ว นักกอล์ฟสมัครเล่นชั้นนำในภูมิภาคที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขัน "เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ 2023" ก็ยังมี ยูตะ ซูกิอุระ มือ 20 ของโลกจากญี่ปุ่น, เหวินยี่ หลิง มือ 22 สมัครเล่นโลกจากจีน และ คาซูม่า โกโบริ มือ 20 ของโลกจากนิวซีแลนด์ รวมทั้ง ป๋อ จิ้น นักกอล์ฟสมัครเล่นจากจีน มือ 118 สมัครเล่นโลก ซึ่งปีที่แล้วคว้ารองแชมป์ที่สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ แฮร์ริสัน โครว์ นักกอล์ฟจากออสเตรเลีย แชมป์คนล่าสุด ไม่ได้ลงป้องกันแชมป์ในปีนี้ เนื่องจากได้ประกาศเทิร์นโปรเพื่อลงเล่นในกอล์ฟอาชีพ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

ป๋อ จิ้น ที่กำลังลุ้นทาบสถิติรุ่นพี่อย่าง เฉิง จิ้น ที่คว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2015 กล่าวว่า "ทุกๆ ปี รายการเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ เป็นหนึ่งในรายการโปรด แน่นอนว่านี่คือการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นที่ดีที่สุดและระดับสูงสุดรายการหนึ่ง ซึ่งผมมีความทรงจำดีๆ เพราะปีที่แล้วก็เกือบคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ประสบการณ์ครั้งนั้นสร้างความมั่นใจในเกมกอล์ฟของผมเป็นอย่างมาก ช่วยให้สภาพจิตใจผมแข็งแกร่งขึ้น หวังว่าการแข่งขันในปีนี้ ผมจะก้าวขึ้นไปอีกขั้น หากมีโอกาสได้เล่นทั้งเดอะ มาสเตอร์ส และดิ โอเพ่น ก็จะเป็นการปิดฉากการเล่นกอล์ฟระดับมหาวิทยาลัยของผมได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว"

ตลอดระยะเวลา 14 ปี ตั้งแต่เริ่มมีการแข่งขัน เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ถือเป็นบันไดสำคัญของนักกอล์ฟชั้นนำของโลกมาแล้วหลายคนรวมถึง ฮิเดกิ มัตสึยาม่า แชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส 2021 ซึ่งเคยได้แชมป์ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ถึง 2 สมัย, คาเมรอน สมิธ แชมป์ดิ โอเพ่น 2022, ไรอัน ฟ็อกซ์, ลูคัส เฮอร์เบิร์ต, ซาโตชิ โคไดร่า, ลี ยุง-ฮุน, ลี มิน วู และซี ที แพน ซึ่งหากรวมทั้งหมดแล้ว มีนักกอล์ฟที่เคยเล่นใน เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ และสามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ รวมทั้งสิ้น 24 รายการ และรวมแล้วกว่า 120 รายการในดีพีเวิลด์ทัวร์, เอเชียนทัวร์ และ เจแปน กอล์ฟทัวร์

สำหรับสังเวียนการแข่งขันในปีนี้ เดอะ รอยัล เมลเบิร์น กอล์ฟ คลับ ก่อตั้งเมื่อปี 1891 ถือเป็นสนามกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย สำหรับการแข่งขัน เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 ซึ่งจะมีนักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขัน 120 คน นั้น จะมีขึ้นที่คอมโพซิต คอร์ส ที่มี 12 หลุม ทางฝั่งเวสต์และอีก 6 หลุมทางฝั่งอีสต์ โดยฝั่งเวสต์นั้นออกแบบโดย อลิสเตอร์ แม็คเคนซี่ ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบ ออกัสต้า เนชั่นแนล กอล์ฟ คลับ โดยที่ผ่านมา รอยัล เมลเบิร์น เคยจัดการแข่งขันกอล์ฟชาย รายการ ออสเตรเลียน โอเพ่น มาแล้ว 16 ครั้ง และกอล์ฟหญิง ออสเตรเลียน โอเพ่น 2 ครั้ง, รายการเพรสซิเด้นท์ คัพส์ 3 ครั้ง และรายการเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ 2014 โดยในครั้งนั้น แชมป์เป็นของ อันโตนิโอ เมอร์ดาก้า ซึ่งเป็นนักกอล์ฟออสเตรเลียคนแรกที่ได้แชมป์รายการนี้