จริงแค่ไหน? ดื่มแล้วขับ… “ไม่ได้ดับแค่คุณคนเดียว” เพราะคุณได้ทิ้งตราบาปไว้ให้คนที่อยู่ข้างหลัง

วินาทีที่ครอบครัวพังทลาย : เรื่องจริงที่คุณอาจเป็นผู้สร้าง

    เหตุการณ์หนึ่ง ทางภาคใต้ของประเทศไทย ปลายปี 2567 ชายวัย 50 ปี ยืนตัวสั่นอยู่ข้างถนน น้ำตาไหลไม่หยุด "ผมจับหน้าอก ลูกสาว...เลือดโชก...แล้วเมื่อเห็นภรรยานอนในสภาพเดียวกัน ใจผมสลายทันที" เขาสูญเสียทั้งภรรยาและ ลูกสาววัย 14 ปี ในคืนเดียว

     ผู้ก่อเหตุ คือ คนขับรถที่อยู่ในสภาพมึนเมาที่คิดว่า "ยังไหว...แค่นี้ไม่เป็นไร" 

     แค่วินาทีเดียว ครอบครัวที่เคยอบอุ่น กลายเป็นความว่างเปล่า เสียงหัวเราะของลูกสาว อ้อมกอดของ ภรรยา... ทุกอย่างหายไปตลอดกาล เพราะการตัดสินใจผิดพลาดของคนแค่คนเดียว

"ดื่มแล้วขับ ไม่ได้ดับแค่คุณคนเดียว" : สารจากแคมเปญดื่มไม่ขับ ปีใหม่กลับบ้านปลอดภัย 2569

    ภาพความจริงที่สะเทือนใจ แม้ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดยังคงอยู่ เด็กกำพร้าต้องโตขึ้น โดยไร้พ่อแม่ ครอบครัวแตกสลาย หนี้สินทับถม นี่คือ "ผลกระทบที่ไม่สิ้นสุด" ที่ สสส. ต้องการให้ทุกคน ตระหนัก

ความจริงที่น่าสะเทือนใจของสังคมไทย

    • มีคนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากดื่มแล้วขับ ชั่วโมงละ 7 คน เฉลี่ยปีละ 56,850 ราย

    • 284,253 ชีวิต ที่ต้องสูญเสียหรือบาดเจ็บจากดื่มแล้วขับในรอบ 5 ปี

    • สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 74,733 ล้านบาท แต่ชีวิตที่สูญเสียประเมินค่าไม่ได้ 

คุณคือ "ของขวัญล้ำค่า" ที่ใครบางคนรออยู่

    ลูกของคุณรอให้พ่อแม่กลับมาอ่านนิทานก่อนนอน คู่ชีวิตรอให้คุณกลับมาทานข้าวด้วยกัน พ่อแม่รอให้คุณกลับบ้านอย่างปลอดภัย

การเลือกดื่มแล้วขับ คือ การเสี่ยงที่จะทำให้…

    • ลูกต้องเติบโตแบบกำพร้า ตกอยู่ในห้วงของความเหงา ว้าเหว่ ไร้คนสอน ไร้คนรัก ไร้หลักในชีวิต

    • คู่ชีวิตต้องแบกภาระหนี้สินและเลี้ยงลูกเพียงลำพังไปอีกนาน

    • พ่อแม่ต้องจัดงานศพลูกก่อนตายซึ่งเป็นความทุกข์ที่หนักที่สุดในชีวิต

ผลกระทบ กับ ตราบาปที่ติดตามไปชั่วชีวิต 

    ผู้ก่อเหตุที่รอดชีวิตต้องเผชิญกับ...

    • โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 60,000-200,000 บาท กรณีชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย

    • ถูกแชร์ข้อมูลในโซเชียลตลอดไปว่าเป็น "ฆาตกรดื่มแล้วขับ"

    • ถูกไล่ออกจากงาน ไม่มีใครกล้าจ้าง

    • ความรู้สึกผิดที่หลอกหลอนทุกคืน 

    • ครอบครัวต้องแบกรับความอับอายไปด้วย 

• การต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล ทรัพย์สิน และค่าเสียโอกาสแก่คู่กรณีจำนวนมาก

ทางเลือกอยู่ในมือคุณแล้ว

    ปี 2569 ทางเลือกปลอดภัยมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น...

    • ใช้ แอปพลิเคชันเรียกรถมารับ คุ้มกว่าเสียชีวิต

    • โทรหาครอบครัว พวกเขายินดีมารับเสมอ

    • นอนค้างที่บ้านเพื่อน หรือเปิดห้องพักใกล้ ๆ

    • วางแผนให้รอบคอบ ถ้าดื่มต้องไม่ขับ มีคนขับรถแทน ปลอดภัยกว่า

ขอให้จำไว้ว่า

"คุณคือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับคนที่รัก

การกลับบ้านอย่างปลอดภัยคือสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุด"

แคมเปญ "ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2569” ของ สสส. ไม่ได้ต้องการแค่ลดสถิติอุบัติเหตุ แต่ต้องการสร้างความตระหนักว่า การเลือกไม่ขับหลังดื่ม ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือความรับผิดชอบต่อชีวิต 

โดยเป็นการสื่อสารภายใต้แนวคิด “ดื่มแล้วขับ ไม่ได้ดับแค่คุณคนเดียว” ที่สะท้อน “ผลกระทบที่ไม่สิ้นสุด” ซึ่งเกิดขึ้นจากการดื่มแล้วขับ ที่ไม่ได้ส่งผลแค่ตัวผู้ขับขี่ แต่ยังส่งผลไปถึง “คนที่อยู่ข้างหลัง” อีกจำนวนมาก ทั้งลูก ๆ ที่รออยู่บ้าน คู่ครอง คนรัก ครอบครัว เพื่อนฝูง รวมไปถึงหน้าที่การงาน อาชีพ ความฝันที่พังทลาย การต้องเป็นหนี้ ชดใช้หรือรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งต่อตนเองและคู่กรณี อีกทั้งยังต้องรับโทษตามกฎหมาย ทำให้สูญเสียโอกาสในชีวิต เกิดความรู้สึกผิดฝังลึกยากที่จะลบออกจากจิตใจ หรือถูกแรงกดดันจากสังคมถาโถมเข้าใส่ ทั้งหมดนี้เลือกที่จะไม่ให้เกิดขึ้นได้แค่เสี้ยววินาที เพียงเลือกที่จะ “ดื่มไม่ขับ” 

ผลกระทบที่ยาวเหยียดเกินจะรับไหวนี้ ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเข้าใจง่าย ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุด “ผลกระทบ” และ ภาพนิ่งชุด “คนข้างหลังเป็นห่วง”  ภาพการพยายามดึงตัวผู้ขับขี่ที่กำลังเมาให้หยุดจากการออกเดินทาง สื่อถึงความสูญเสียที่สามารถป้องกันได้ หากผู้ขับขี่ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งตัวเองและคนรอบข้าง

เพราะ "ผลกระทบจากการดื่มแล้วขับ" จะไม่มีวันสิ้นสุด แม้คุณจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่คุณทิ้งไว้ จะยังคงอยู่ในใจของคนที่คุณรักตลอดไป 

#ดื่มไม่ขับ #ดื่มไม่ขับกลับบ้านปลอดภัย #ดื่มแล้วขับไม่ได้ดับแค่คุณคนเดียว #ผลกระทบที่ไม่สิ้นสุด 

ร่วมรณรงค์โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)