5-3-2!? 5 ปัจจัยหลักพา บุรีรัมย์ ฟาด 3 แชมป์ 2 ฤดูกาลติด

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกาศศักดากวาดแชมป์ทุกถ้วยในเมืองไทย และนับเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกันที่พวกเขาทำสำเร็จ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังแดนสยาม ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงวิเคราะห์ 'ปัจจัย' ที่ทำให้ปราสาทสายฟ้าสานต่อความยิ่งใหญ่

[ 1 ] ความเป็นเอกภาพ

   ฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นเป็นทีม ดังนั้นต้องอาศัยความเข้าใจซึ่งกันและกันสูง อย่างไรก็ตาม ด้วยหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป มันจึงทำให้ทีมที่ปรารถนาจะประสบความสำเร็จได้นั้นควรจะมีเรื่องของความเป็น 'น้ำหนึ่งใจเดียว' หรือ 'เอกภาพ' อยู่ในลำดับแรก

   ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ บุรีรัมย์ พุ่งชนแชมป์แทบจะทุกซีซั่นนั่นคือการที่พวกเขาอยู่ในระบบและระเบียบ แทบไม่มีแตกแถว

   อาจจะมีบ้างที่พฤติกรรมของนักเตะจากค่ายปราสาทสายฟ้าออกนอกลู่นอกทาง แต่ด้วยความที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ซึ่งลงมาคลุกคลีกับทีมด้วยตัวเอง และเขาเป็นคนเฉียบขาด มีทั้งพระเดช-พระคุณ มันจึงทำให้ปัญหาถูกขจัดไปด้วยความไวว่อง

   ตัวอย่างชัดเจนกับกรณีล่าสุด สดๆ ร้อนๆ ที่ โจนาธาน โบลินกิ ปล่อยหมัดใส่สตาฟฟ์โค้ช ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถูกจัดการด้วยการปล่อยออกจากทีมทันที เพราะการกระทำที่ไม่เป็นมืออาชีพ ต่อให้ผลงานในสนามดีเพียงใด แต่ถ้าคุณไม่อยู่ในกรอบของ บุรีรัมย์ คุณก็ไม่สมควรที่จะได้ไปต่อ

   จุดนี้เอง ทำให้นักเตะปราสาทสายฟ้าทุกคนมีความสามัคคีกลมเกลียว เพราะพวกเขามีเป้าหมายร่วมกัน หนักนิด-เบาหน่อย ก็พูดคุยกันแบบตรงไปตรงมา โดยมีประธานใหญ่เป็นผู้สมานความขัดแย้ง

   ภาพสะท้อนความเป็น 'เอกภาพ' ของ บุรีรัมย์ คือการเล่นในสนาม ทุกตำแหน่งรู้หน้าที่ของตนเอง แม้ว่าทีมของพวกเขาจะเหนือกว่า แต่ก็ไม่เคยประมาทคู่ต่อสู้ อีกทั้งยังให้เกียรติฝั่งตรงข้ามเสมอ 

   อาจจะมีบ้างที่ถกเถียงกับผู้ตัดสินหรือคู่แข่ง แต่นั่นเป็นเรื่องปกติของกีฬาลูกหนังที่ต้องปะทะกันตลอดทั้ง 90 นาที ทว่า 'ลูกเกเร' นั้นไม่มีเลยจากผู้เล่นของปราสาทสายฟ้า

   ดังนั้นความเป็น 'เอกภาพ' นี่แหละ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ บุรีรัมย์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด

[ 2 ] เฮดโค้ชเก่งกาจ

   มาซาทาดะ อิชิอิ คือกุนซือที่มีโปรไฟล์เลิศหรูที่สุดใน ไทยลีก กับผลงานเก่าก่อนที่นำ คาชิมะ แอนท์เลอร์ส คว้าแชมป์ เจลีก และ เอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ ในปี 2016 ได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยที่ตนเองได้รับเลือกให้เป็น 'โค้ชยอดเยี่ยม' ในซีซั่นนั้นแบบไร้คู่ต่อกร

   เท่านั้นไม่พอ เขายังพาทีมกวางเขาเหล็กทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกชิงแชมป์สโมสรโลกในปีเดียวกัน ซึ่งถือเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทีมจากเอเชีย ทำได้ 

   แถมในเกมชิงดำกับ เรอัล มาดริด ที่ห้วงเวลานั้นมีสตาร์ล้นทีม ไล่ตั้งแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, กาเซมีโร่, ราฟาเอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส และ มาร์เชโล่ ทว่ากว่าที่ทีมราชันชุดขาวจะคว้าชัย ก็ต้องไปเล่นในอีก 30 นาทีของช่วงต่อเวลาพิเศษ

   นี่คือผลงานระดับ 'มาสเตอร์พีซ' ของ อิชิอิ ก่อนจะมาหาความท้าทายบนแผ่นดินขวานทอง โดยเริ่มต้นกับ สมุทรปราการ ซิตี้ และก็ไปได้สวยด้วยการพาทีมจบอันดับ 6 ของตาราง ทั้งๆ ที่ในทีมไม่ได้มีผู้เล่นระดับดาวดังเลย

   กระทั่งเซ็นสัญญากับ บุรีรัมย์ ในเดือนธันวาคม 2021 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็พาปราสาทสายฟ้าลอยลมบน ด้วยเปอร์เซ็นต์ชนะถึง 77.61 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ 

   ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ อิชิอิ เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งรั้ว ช้าง อารีน่า เขาพาทีมเก็บชัยเป็นว่าเล่น และโทรฟี่ต่างๆ ก็ไหลสู่ตู้โชว์ของสโมสรแบบเต็มเหนี่ยว แม้ว่าซีซั่นแรกจะมาสานงานต่อจาก อเล็กซานเดร กามา ในเลกที่สอง แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น คือคีย์แมนสำคัญกับแชมป์ทุกถ้วยในประเทศ

   ความเก่งกาจของกุนซือวัย 56 ปี คือการเป็นโค้ชที่มีความยืดหยุ่นสูง มีลูกพลิกแพลงตามแต่สถานการณ์จะพาไป แท็กติกของเขาสามารถปรับตากคู่ต่อสู้ได้เสมอ และเมื่อมีนักเตะคุณภาพสูงอยู่เต็มทีม มันจึงทำให้แผนการที่วางไว้ประสบผลได้ง่ายขึ้น

   การที่ บุรีรัมย์ มี อิชิอิ เป็นเฮดโค้ช ก็เหมือนว่าพวกเขาได้เปรียบทีมอื่นไปแล้วครึ่งตัว ซึ่งจุดนี้แหละเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ปราสาทสายฟ้าสามารถเดินหน้าสร้างความยิ่งใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง

[ 3 ] ขุมกำลังทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง

   ขุมกำลังผู้เล่นจอง บุรีรัมย์ จัดว่าสามารถทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง ไม่ใช่ว่าพวกเขาเพิ่งสร้างมาตรฐานจุดนี้ หากแต่ปราสาทสายฟ้าตระเตรียมทรัพยากรนักเตะมานานแล้ว

   ผู้รักษาประตู พวกเขามี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่อาจจะอาย 39 ปี เข้าไปแล้ว ความปราดเปรียวอาจลดลง ทว่ามันถูกแทนที่ด้วยประสบการณ์ที่เข้มคลั่ก เมื่อใดก็ตามที่จอมหนึบชาวนครราชสีมา คนนี้ยืนเฝ้าเสา แผงหลังของ บุรีรัมย์ จึงอุ่นใจได้เสมอ

   ส่วนมือรอง นพพล ละครพล กับวัย 22 ปี ที่ฤดูกาล 2022-23 ได้โอกาสลงเล่นแทน ศิวรักษ์ ไปพอสมควร และผลงานก็อยู่ในระดับน่าพอใจด้วยตัวเลข 7 คลีนชีต มากที่สุดเป็นลำดับที่ 4 ของ ไทยลีก

   ขยับมาที่แผงหลัง เริ่มจากเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ - เรบิน ซูลาก้า คือผู้มายกระดับให้กับทีมและรวมถึงลีก นอกจากนี้ พรรษา เหมวิบูลย์ ก็ยังคงเป็นตัวหลักที่ไว้ใจได้ แถมการได้ ดิออน คูลส์ ในเลกที่สอง มันยิ่งเพิ่มความแข็งแรงให้คู่ปราการหลังตัวกลางอีกเท่าตัว

   ส่วนฟูลแบ็กทั้งฝั่งขวาและซ้าย นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ ศศลักษณ์ ไหประโคน ต่างก็อยู่ในเลเวลมาตรฐาน โดยที่มี รัตนากร ใหม่คามิ กับ อิรฟาน ดอเลาะ สองมิดฟิลด์อาชีพ ที่ขยับมาเล่นตำแหน่งนี้ได้

   แดนกลาง ธีราทร บุญมาทัน เฉิดฉายสุดไฉไลในบทบาทตัวทำเกม ซึ่งจุดนี้ต้องให้เครดิตกับ โกรัน เคาซิช ผู้มาใหม่ แต่ทำให้ทุกอย่างไหลลื่นทันที พ่วงด้วย พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และมีกำลังเสริมอย่าง รัตนากร กับ อิรฟาน

   ส่วนแนวรุก อาวุธหนักทั้งนั้น ศุภชัย ใจเด็ด ที่เล่นได้ทั้งกองหน้าตัวเป้า, มิดฟิลด์ตัวรุกหรือจะขยับไปยืนริมเส้น ซึ่งผลงาน 23 ประตู ในทุกรายการของเขาก็สะท้อนให้เห็นว่าเขากำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

   นอกจากนี้ยังมี ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่มาพร้อม 8 ประตู กับ 10 แอสซิสต์ในลีก

   ส่วนแข้งต่างชาติ ลอนซาน่า ดูมบูญ่า และ โจนาธาน โบลินกิ ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างแท้จริง

   การมีขุมกำลังที่สามารถทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ บุรีรัมย์ ประสบความสำเร็จในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด

[ 4 ] โควตาต่างชาติย้ายมาปุ๊บใช้ได้ปั๊บ

   บุรีรัมย์ เป็นสโมสรที่ไม่เคยหยุดนิ่งต่อความสำเร็จ แม้ว่าพวกเขาจะได้แชมป์บ่อยแบบปีต่อปี หรือบางครั้งเว้นวรรคไปบ้าง แต่ก็ห่างไม่เกินซีซั่น ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้ปราสาทสายฟ้าเดินหน้าได้อย่างมั่นคงคือเรื่องการเสริมทัพตัวผู้เล่น

   ยอดทีมแห่งดินแดนตะวันออกเฉียงเหนืออาจจะไม่ได้นำเข้านักเตะแบบยกโขยง หากแต่พวกเขาเฟ้นคนที่เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งเน้นๆ เสมอ มันจึงทำให้แต่ละซีซั่นจะมีแข้งใหม่เพียงไม่กี่รายที่ย้ายสู่ ช้าง อารีน่า 

   ทว่าคนที่เข้ามาคือประเภทที่ย้ายมาปุ๊บแล้วใช้งานได้ปั๊บ

   อย่างไรก็ตาม ก็มีไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะโควตาต่างชาติที่ บุรีรัมย์ มักจะ 'ซื้อพลาด' แต่โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะ 2 ซีซั่นหลังสุดนั้นจัดว่าสามารถยกระดับ ไทยลีก ได้เลยทีเดียว

   ฤดูกาล 2021-22 พวกเขาได้ เรบิน ซูลาก้า เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอิรัก มาจาก เลฟสกี้ โซเฟีย สโมสรเบอร์ใหญ่ของบัลแกเรีย และหมอนี่ก็ตอบโจทย์ทันทีด้วยการพาทีมเสียประตูน้อยที่สุดในลีก

   พอกลางซีซั่นก็ได้ โจนาธาน โบลินกิ ศูนย์หน้าดีอาร์คองโก มาจาก รอยัล อันท์เวิร์ป ทีมในลีกเบลเยียม แม้จะไม่เด่นเท่า ซูลาก้า แต่ก็ถือว่ามาช่วยทีมได้พอสมควร

   ฤดูกาล 2022-23 ยิ่งแล้วใหญ่ โกรัน เคาซิช มิดฟิลด์เกรดเอที่มาจาก อาร์เซน่อล ทูล่า (รัสเซีย) คือ 'ดีลสุดคุ้มแห่งซีซั่น' ขนานแท้ แถมเลกสองยังมี ดิออน คูลส์ ปราการหลังเชื้อสายเบลเยียม-มาเลเซีย มาเติมความแข็งแกร่งอีก 

   เรียกได้ว่าการนำเข้าโควตาต่างชาติของ บุรีรัมย์ นั้นสามารถสร้างความแตกต่างได้ชัดเจน แถมยังยกระดับทีมแบบที่ทำให้คู่แข่งต้องเมียงมอง

[ 5 ] ธีราทร บุญมาทัน

   นักฟุตบอลที่เก่งกาจนั้นมีเยอะมาก แต่นักฟุตบอลที่เกิดมาเพื่อเป็น 'ผู้ชนะ' นั้นมีไม่มากนัก

   ชื่อของ เปเล่, ดีเอโก้ มาราโดน่า, ซีเนอดีน ซีดาน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ลีโอเนล เมสซี่, คีเลียน เอ็มบั๊ปเป้ คือหนึ่งในตัวอย่างชั้นยอดของผู้เล่นระดับโลกที่สารมารถสร้างความแตกต่างได้ในเสี้ยววินาที

   สำหรับไทย ที่อาจจะยังไม่ไต่ถึงความเป็นทีมชั้นนำของทวีป แต่นักเตะของสยามประเทศก็เคยมี ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานศูนย์หน้าที่ได้รับการยอมรับทั่วทั้งเอเชีย ถึงฝีเท้าที่แปรเปลี่ยนผลการแข่งขันได้เพียงจังหวะเดียว

   จาก ปิยะพงษ์ ในวันนั้น มาถึง ธีราทร บุญมาทัน ในวันนี้ - กองหลังชาวนนทบุรี พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังไทย

   ในวัย 33 ปี ปัจจุบันเขาสะสมแชมป์ ไทยลีก ไปแล้ว 7 สมัย (บุรีรัมย์ 6, เมืองทอง 1), เอฟเอ คัพ 6 สมัย (บุรีรัมย์ 6) และ ลีก คัพ อีก 8 สมัย (บุรีรัมย์ 6, เมืองทอง 2) 

   แต่ที่ยิงใหญ่ที่สุดคือการคว้าแชมป์ เจลีก ร่วมกับ โยโกฮามะ มะรินอส ได้ในปี 2019 ซึ่งเป็นคนไทย คนแรกที่ได้ชูถ้วยแชมป์ลีกญี่ปุ่น โดยที่ตนเองคือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญอีกด้วย

   การย้ายกลับมาเล่นกับ บุรีรัมย์ อีกครั้งในช่วงเลกที่สองของฤดูกาล 2021-22 ก็สร้างความแตกต่างได้ทันที เพราะก่อนหน้านั้นปราสาทสายฟ้ากำลังขับเคี่ยวกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม แบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์

   กระทั่งเท้าซ้ายสุดฉมังของ ธีราทร นี่แหละที่ช่วยยกระดับให้กับทีมจนคว้าทุกถ้วยในซีซั่น 2021-22 ได้สำเร็จ

   ฤดูกาล 2022-23 กับบทบาทใหม่ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง เขาก็ยังเปล่งประกายเหมือนเคย แถมยังดูจะโดดเด่นเกินใครด้วยซ้ำ แม้จะมีแอสซิสต์ไม่มากนัก แต่เกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประตูที่ บุรีรัมย์ ทำได้ จุดเริ่มต้นมาจากนักเตะหมายเลข 5 คนนี้นี่แหละ

   ดังนั้น ธีราทร บุญมาทัน จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุดนั่นเอง


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport