"บิ๊กหยิม" นำคณะเยือนโอซาก้า เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือการพัฒนาผู้ฝึกสอนและเยาวชนที่สนใจอาชีพฟุตบอล พร้อมหาพันธมิตรร่วม ทําทีมฟุตบอลอาชีพทีม คัสตอม ยูไนเต็ด ต่อไป
"บิ๊กหยิม" นายยุทธนา หยิมการุณ นายกสมาคมผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย(สบท.) และประธานสโมสร คัสตอม ยูไนเต็ด ที่เตรียมทีมในศึกไทยลีก3ฤดูกาลใหม่ 2024-25 พร้อมด้วย "บิ๊กแดง" จิรพัฒน์ อุดมผล กรรมการที่ปรึกษาสมาคมผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ มร.ยูสุเกะ คาวาซูมิ( MR.YUSUKE KAWASUMI) ได้เดินทางไปเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือการพัฒนาผู้ฝึกสอนและเยาวชนที่สนใจอาชีพฟุตบอล รวมทั้งเชิญภาคเอกชนญี่ปุ่นมาร่วมการทําทีมฟุตบอลอาชีพของทีม คัสตอม ยูไนเต็ด ให้มั่นคง และยั่งยืน เสริมวงการฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย
โดยทันทีที่ทางคณะเดินทางไปที่เมืองโอซาก้าที่ญี่ปุ่น "บิ๊กหยิม" นายยุทธนา หยิมการุณ ได้เข้าดูงานที่ศูนย์ฝึกฟุตบอล และ ฟุตซอล J Green SAKAI (เจ กรีน ซากาอิ) โอซาก้า ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกขนาดใหญ่ มีทั้งสนามหญ้าจริง และ สนามหญ้าเทียม รวมกัน 16 สนาม และ สนามฟุตซอลอีก 8 สนาม มีห้องพักรับรองนักกีฬา 300 คน เพียบพร้อมด้วยอำนวยความสะดวก รวมถึงแผนกโภชนาการก็เพียบพร้อม ส่วนงานซักรีด มีที่จอดรถรองรับผู้ที่มาใช้บริการได้ถึง 1,500 คน
ในการนี้ มร.ฟูจิซาว่า มาซายูกิ (MR.FUJISAWA MASAYUKI) ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกฟุตบอล และ ฟุตซอล J Green SAKAI ได้ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปให้ฟัง ว่า สถานที่แห่งนี้ เทศบาลเมืองซากาอิ เป็นผู้ลงทุนทำการก่อสร้าง และมีสมาคมฟุตบอลประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ให้การสนับสนุน เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 15 ปี สามารถดำเนินธุรกิจโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินจากภาครัฐ ปัจจุบันเทศบาลเมืองซากาอิ สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงสนามหญ้าเทียมปีละ 1 สนาม เปิดให้นักฟุตบอลในระดับเยาวชน และประชาชนทั่วไปใช้บริการ ตั้งแต่ เวลา 07.30-23.00 น. ของทุกวัน
ด้าน "บิ๊กหยิม" นายยุทธนา หยิมการุณ ได้กล่าวถึงวันแรกที่มาศึกษางานที่โอซาก้า ว่า "ไม่สงสัยเลยว่าทำไมประเทศญี่ปุ่น ถึงพัฒนากีฬาฟุตบอลได้ก้าวหน้าได้อย่างมั่นคง เป็นเพราะรัฐสนับสนุนอำนวยความสะดวกแก่นักกีฬามากเหลือเกิน และที่สำคัญที่สุดมีนักฟุตบอลเกิดใหม่ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ศูนย์ฝึกขนาดใหญ่แบบนี้ มีถึง 3 แห่ง ทั่วประเทศญี่ปุ่น หากประเทศไทยเราจะพัฒนากีฬาฟุตบอลให้ก้าวไกลในระดับฟุตบอลโลก ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ระดับเยาวชน และ สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานให้เพียงพอ"