ชื่นชมความกล้าของ มาซาทาดะ อิชิอิ

ผมชื่นชมความกล้าของ มาซาทาดะ อิชิอิ


แน่นอนการวางแผน การฝึกซ้อมให้ได้ตามแผน การเตรียมความพร้อมสำหรับเกมที่กำลังจะมาถึง การจัดตัว ทุกอย่างถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว

โค้ชประชุมร่วมกับทีมงาน หาวิธีการเล่นที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด หาวิธีการที่คาดว่าจะได้ผลลัพธ์ออกมาตามเป้าหมายที่วางเอาไว้มากที่สุด เรียกลูกทีมมาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจตรงกันว่าเราจะเล่นแบบไหน อย่างไร จุดมุ่งหมายคืออะไร

จากนั้นก็เดินหน้าไปสู่เป้าหมาย ซ้อมให้คุ้นเคยกับแผนและวิธีการที่จะใช้ ยิ่งซ้อมเข้มข้นเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสทำได้อย่างที่ซ้อมมากเท่านั้นยามเมื่อลงไปในสนามจริง

นั่นคือหน้าที่ปกติของคนเป็นโค้ช ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของเขา แต่เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นแล้ว โค้ชก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าคอยลุ้นและสั่งการกระตุ้นลูกทีมที่ข้างสนาม

ก่อนเตะ เป็นเรื่องของโค้ช แต่เมื่อเริ่มเตะ เป็นเรื่องของนักฟุตบอลที่ลงไปเล่น.. เกมฟุตบอลไม่ว่าที่ไหนๆ ระดับใดก็มีธรรมชาติเป็นแบบนี้

เพราะฉะนั้น การวางแผน ไอเดีย แนวคิด ความกล้าที่จะเลือกใช้วิธีการเล่น เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การตอบสนองและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในสนามก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทว่าสุดท้ายแล้วเมื่อครบ 90 นาทีทั้งหมดก็จะรวบกลับมาเป็นบทสรุปความรับผิดชอบของโค้ชอีกครั้ง

จะอย่างไรคนเป็นโค้ชก็ต้องรับผิดชอบในผลที่ออกมาอยู่แล้ว

ถามว่าอาจารย์อิชิอิจัดตัวผิดพลาดไหมในประเด็นที่แฟนบอลวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องการพัก บดินทร์ สุภโชค ศุภณัฏฐ์ พีรดนย์ แล้วให้ ปฐมพล วรชิต รุ่งรัตน์ สารัช ลงเล่นเป็นตัวจริงก่อน ถ้าดูจากผลลัพธ์ที่เราเป็นฝ่ายแพ้และผลงานส่วนตัวของแต่ละคนจะพูดอย่างนั้นก็ได้เพราะไม่มีใครเล่นได้โดดเด่นเลยทั้งยังมีความผิดพลาดให้เห็นเป็นพักๆ

แต่จะใช้คำว่าจัดตัวผิดพลาดอาจไม่ถูกต้องเสียทีเดียวนัก เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าถ้าจัดตัวจริงชุดใหญ่แล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ในเมื่อเรื่องนี้มีแนวคิดที่มีเหตุผลเช่นกันซ้อนทับอยู่

ให้ สุภโชค กับ ศุภณัฏฐ์ ที่เป็นทีเด็ดสามารถสร้างความแตกต่างได้ลงมาตั้งแต่ครึ่งแรก แน่นอนเราอาจมีโอกาสลงโทษเกมรับอุซเบกิสถานแต่แนวโน้มที่อาจเป็นไปได้มากกว่าคือการต้องใช้แรงอย่างหนักด้วยความที่นักเตะอุซเบ็กยังสดชื่น น่าจะครองบอลได้มากกว่าและเดินเกมรุกใส่เราตามธรรมชาติของทีมที่เหนือกว่า

เช็ก กับ แบงค์ ต้องใช้แรงมากในการลงมาช่วยเกมป้องกัน แล้ววิ่งสปรินต์ขึ้นไปเล่นเกมบุกยามที่ทีมตัดบอลได้และเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุก ต้องวิ่งขึ้นลงในระยะทางที่มากด้วยรูปเกมที่น่าจะเป็น

ทั้งสองคนเป็นไพ่เด็ดอาจจะแค่ 2 ใบที่เราพอจะมีในเกมที่มีความยากระดับนี้ อุซเบกิสถานคือทีมชั้นนำของทวีป เข้ารอบน็อกเอ๊าต์เอเชียน คัพ 6 สมัยติด จ่อคิวไปฟุตบอลโลกก็หลายหน ฉะนั้นถ้าอิชิอิจะวางแผนเซฟพลังของ สุภโชค กับ ศุภณัฏฐ์ ไว้ตลอดครึ่งแรกเพื่อไปจุดระเบิดเล่นงานคู่ต่อสู้ในครึ่งหลัง ผมก็คิดว่ามันไม่ใช่ไอเดียที่ผิดเลย ในเมื่อคุณภาพทีมของเรา ณ เวลานี้มีอาวุธพิเศษในแบบคุณภาพลีกต่างแดนแค่ 2 คนนี้เท่านั้นในเกมรุก

อุซเบกิสถานจะอ่อนแรงลงในครึ่งหลังมากน้อยแค่ไหนไม่รู้หรอกครับ แต่ความสดชื่น ความฟิต เรี่ยวแรง จะน้อยกว่าครึ่งแรกแน่ และนั่นล่ะที่เราจะมีโอกาสทำร้ายพวกเขาได้จากอาวุธหลักของเรา

ผมคิดว่าอิชิอิอ่านเกมและวางแผนการเล่นออกมาแบบนี้ ณ ปัจจุบันทีมชาติไทยยังไม่ได้มีทรัพยากรนักเตะที่สามารถแลกตัวต่อตัวกับนักเตะอุซเบ็กได้ยกทีม อาจจะมีแค่ 5-6 คนที่วัดได้สูสีหรือกระทั่งเหนือกว่า แต่ในภาพรวมแล้วคุณภาพผู้เล่นเราเป็นรอง

การต้องตัดสินใจนั้นยากเสมอ ยิ่งในเกมยากอย่างนี้ยิ่งต้องรอบคอบที่สุด ละเอียดที่สุด และยังต้องกล้าอย่างมากด้วย ทำไมอิชิอิจะไม่อยากใช้ สุภโชค กับ ศุภณัฏฐ์ ตั้งแต่ครึ่งแรก ทว่าเมื่อคำนึงถึงพละกำลังที่จะหดหายลงไปในครึ่งหลังแล้ว เขาจำเป็นต้องเลือกทางนี้

แต่แน่นอน การเลือกเล่นวิธีนี้ย่อมต้องมีพื้นฐานจากความไว้วางใจในตัวลูกทีมทุกคนก่อน เชื่อว่านักเตะทุกคนรับทราบแผนการเป็นอย่างดี รู้หน้าที่ตัวเองว่าต้องทำอะไร และฝึกซ้อมกันอย่างหนักเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเมื่อถึงเกมจริง

ทุกคนเล่นเพื่อทีม ด้วยแผนที่วางเอาไว้สำหรับเกม 90 นาที ปฐมพล วรชิต รุ่งรัตน์ ลงสนามโดยที่รู้ว่าตัวเองจะถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังเพื่อให้ สุภโชค กับ ศุภณัฏฐ์ ลง ได้ผลแค่ไหนไม่รู้หรอก แต่โค้ชวางแผนมาแบบนี้แล้ว เราก็ต้องเล่นตามแผน มีเท่าไหร่ใส่ให้หมด

ความยากของเกมฟุตบอลก็คือ กระทั่งในเกมที่เราเตรียมตัวรับมือมาเป็นอย่างดีที่สุด เราก็อาจจะยังผิดพลาด หรือมีปัจจัยอื่นเข้ามาทำให้แผนที่วางไว้ไม่เป็นอย่างที่หวัง

ในภาพที่อยากให้เป็นก็คือทีมชาติไทยไม่เพลี่ยงพล้ำกับการรับมือเกมบุกของทีมหมาป่าแห่งทูราเนียน สามารถยันสกอร์ไว้ที่ 0-0 ได้ในครึ่งแรก เพิ่มความกดดันให้คู่แข่งจากเอเชียกลางที่จะต้องเปิดเกมบุกมากขึ้นในครึ่งหลัง แนวรับดันสูงขึ้น เปิดพื้นที่ด้านหลังให้เรามากขึ้น และพื้นที่ตรงนั้นคือจุดสลบที่เราเล็งเอาไว้ด้วยพลังจุดระเบิดของ เช็ก กับ แบงค์ ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงสนามด้วยความสดเต็มที่

ถ้าให้ทั้งคู่เล่นตั้งแต่ครึ่งแรกจะเป็นอย่างไรเราไม่รู้หรอกเพราะมันไม่ได้เกิดขึ้น แต่ที่แน่ๆ เมื่อทั้ง 2 คนลงสนามมาในครึ่งหลังตามแผน ความสดของ 2 พี่น้องเล่นงานเกมรับอุซเบกิสถานได้

แน่นอนมันอาจจะน่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นทั้งคู่ตั้งแต่ครึ่งแรก แต่ผมคิดว่าเมื่อมองภาพรวมเห็นแนวคิดของ อิชิอิ แล้ว มันก็เข้าใจได้ ส่วนตัวผมไม่มีอะไรติดขัด

ผมอยากจะใช้คำว่า ผิดแผน หรือ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ มากกว่าจะบอกว่าเป็นการจัดตัวที่ผิดพลาด ความหมายของมันรุนแรงไม่เท่ากัน "จัดตัวผิดพลาด" เหมือนเป็นการกล่าวโทษ แต่ "ผิดแผน" นั้นมีพื้นที่ให้กับปัจจัยอื่นที่เข้ามาประกอบด้วยไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคล จังหวะไม่คาดฝัน หรือความสามารถของคู่ต่อสู้

ผมถึงพูดว่าผมชอบในความกล้าตัดสินใจของอิชิอิ เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าแผนนี้เสี่ยง แต่ก็ต้องวัด มีเวลาให้เตะแค่ 2 ครึ่ง ซื้อครึ่งแรกด้วยการยื้อสถานการณ์เอาไว้ไม่ให้เสียเปรียบมาก นักเตะที่ส่งลงไปเล่นก็ผ่านเกมในรอบแรกมาแล้วด้วยการตอบสนองที่ดี ไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง แล้วจากนั้นก็มาวัดกันหมัดต่อหมัดในครึ่งหลังด้วยชุดใหญ่ของเรา

ผมจึงไม่ติดหรือขัดข้องอะไรเลยกับการวางแผนจัดตัวในเกมนี้ ยอมรับว่าผิดคาดแต่เข้าใจได้ถึงเจตนาและเป้าหมาย ในเมื่อทรัพยากรนักเตะที่เรามีในตอนนี้ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่จะสู้กับอุซเบกิสถานได้ใกล้เคียงกว่านี้ก็ต้องเลือกวิธีนี้

แต่มองไปข้างหน้ามันย่อมเป็นเป้าหมายของเราในอนาคตที่จะต้องผลิตทรัพยากรนักเตะที่มีความแตกต่างอย่าง เช็ก อย่าง แบงค์ หรืออย่าง ธีราทร ธีรศิลป์ ชนาธิป นิโคลัส ออกมาให้มากขึ้น ให้โค้ชทีมชาติเลือกหยิบใช้ได้ถนัดมือยิ่งขึ้น

นั่นคือภารกิจของทุกๆ ฝ่ายที่จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความตั้งใจ วิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง และจริงจังกับมัน

สร้างบุคลากรนักเตะให้อิชิอิได้เลือกใช้มากกว่านี้ จัดลำดับความสำคัญของทัวร์นาเม้นต์ต่างๆ เพื่อปรับโปรแกรมเตะในลีกให้สอดคล้องกัน หาวิธีเพิ่มมูลค่าเกมลีกให้มากขึ้นและกลับไปเป็นที่ติดตามในลักษณะภูมิภาคนิยมมากขึ้น ต่อยอดสู่การผลักดันให้มีนักฟุตบอลเก่งๆ เข้ามาในวงการ

เราทุกฝ่ายทุกภาคส่วนต้องสนับสนุนเขาให้เต็มที่หลังจากนี้ สนับสนุนอาจารย์อิชิอิทุกรูปแบบ ควบคู่ไปกับการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพด้วยพื้นฐานความรู้ที่อัดแน่นของเขาเอง

อย่างน้อยในเอเชียน คัพ ครั้งนี้ ผมได้เห็นความสามารถของโค้ชชาวญี่ปุ่นคนนี้ ได้เห็นความเข้าใจในฟุตบอลไทยของเขา ได้เห็นความเชื่อมั่นที่เขามอบให้ลูกทีม ได้เห็นความละเอียดรอบคอบในการวางแผน เห็นความกล้าที่จะตัดสินใจเลือกทีมที่มีโอกาสตอบโจทย์ที่วางเอาไว้มากที่สุด

กับอุซเบกิสถาน เราเป็นรองหลายด้าน อันดับโลกห่างกัน 45 อันดับพอจะบอกความแตกต่างได้ระดับหนึ่ง การเข้ารอบน็อกเอ๊าต์เอเชียน คัพ 6 สมัยติดและลุ้นไปฟุตบอลโลกทุกครั้งของเขายิ่งฉายภาพความแตกต่างกับเราได้ชัดขึ้นในอีกระดับหนึ่ง

นักเตะอุซเบ็กคล่อง เร็ว และแข็งแรง อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ปะทะกันตรงๆ เราเสียเปรียบเว้นแต่จะเป็นคนที่มีหน่วยก้านดีเยี่ยมอย่าง เอเลียส ดอเลาะ ซึ่งเกมนี้ผมมองว่าเล่นได้โดดเด่นที่สุดในทีมของเรา หรือไม่ก็ต้องอาศัยการเอาตัวรอดเฉพาะตัวอย่างในช่วงท้ายครึ่งแรกที่สารัชแทบจะต้องคั้นเอาเทคนิคและทักษะทั้งหมดที่มีออกมาใช้ในการเบียดแย่งบอลกับนักเตะอุซเบ็ก เพราะถ้าปะทะกันด้วยแรงโดยตรงคงกระเด็นก่อนแน่

ผมชื่นชมการปักหลักยืนตำแหน่งของอุซเบกิสถาน เราอาจจะทำสถิติไม่เสียประตูเลยในครึ่งแรกจนเป็นที่พูดถึง แต่บทสัมภาษณ์ของอิชิอิที่มีต่อขุนพลจากทาชเคนต์ในวันก่อนแข่งก็บอกชัดว่าเกมรับของอุซเบกิสถานก็เหนียวแน่นเช่นกัน มีโครงสร้างของเกมป้องกันที่ดี นักเตะมีความเข้าใจเกมสูง

ในรอบ 3 เดือนหลัง อุซเบกิสถานเสียประตูมากกว่า 1 ลูกแค่เกมเดียวเท่านั้นจาก 9 นัดที่ลงเตะ (เสมอ อิหร่าน 2-2 ในเกมคัดบอลโลก เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว) เก็บคลีนชีตได้ 4 เกม เสียแค่ประตูเดียว 5 เกม แสดงให้เห็นว่าทีมของ สเร็คโก้ คาตาเน็ช มีความเหนียวแน่นแค่ไหน

เขาพลาดถูกเราตีเสมอ 1-1 ก็จริงแต่เมื่อเราประกบหลวมนิดเดียวจนถูก อับบอสเบ็ค ฟายซุลลาเยฟ ดาวรุ่งตัวเก่งของเขาลงโทษในเวลาให้หลังอีกเพียง 7 นาที อุซเบกิสถานก็เน้นเต็มที่และไม่พลาดเปิดโอกาสให้เราอีกเลย

การยืนเกมรับของเขาแน่น หาช่องเจาะยาก ปรี่เข้ากดดันเร็ว รุมแย่งบอลดี ช่วง 20 นาทีสุดท้ายเราขึงกดเขาได้น่าสนใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเวลาเหลือน้อยลงเราจำเป็นต้องเล่นให้เร็วขึ้นและกล้าเสี่ยงผ่านบอลได้เสียมากขึ้น อีกส่วนเพราะเขาเองก็ไม่เดินหน้าบุกเพื่อทำประตูที่ 3 แต่เลือกการเล่นแบบไม่ยอมเสียประตูที่ 2 และหาจังหวะโต้กลับทำประตูฝังเพื่อจบภารกิจมากกว่า

บอลเร็วนั้นแลกมาด้วยความแม่นที่น้อยลง ถ้าเป็นทีมระดับโลกนั้นเร็วด้วยแม่นด้วย เกมจึงเร็วมากและไหลลื่น ส่วนเรายังอยู่ในการพัฒนาไปให้ถึงจุดนั้น ถ้าเราอยากเล่นเร็ว ต้องแลกกับความแม่นที่น้อยลง ต้องขยับตัวมากขึ้น ใช้พละกำลังมากขึ้น แต่ถ้าไม่อยากเสียบอล ให้บอลเข้าเป้าขึ้น เกมก็ต้องช้าลง นี่คือธรรมชาติ และมันเป็นจุดที่เราถูกอุซเบกิสถานเล่นงานในครึ่งแรก

เขาจ้องเราอยู่ คิดช้าหรือครองบอลมากจังหวะไม่ได้เลยเพราะจะถูกอ่านเกมตัดบอลและรุมแย่งตลอดเวลา ความอึดอัดนี้เห็นชัดในครึ่งแรก

ช่วง 20 นาทีสุดท้ายเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเล่นเร็วขึ้นเพราะบอลตามหลังอีกครั้ง ไม่แม่นเท่าเก่าไม่เป็นไรเพราะอุซเบกิสถานเองก็หันไปเน้นความรัดกุมแล้ว

เกมรับของอุซเบกิสถานยอดเยี่ยม ถอยไปปักหลัก 2 แถว คู่หน้าถอนลงมาช่วยอีกคนเป็นรูปแบบ 4-4-1-1 ภาพที่ออกมาจึงเป็นเราเก็บบอลจังหวะสองบุกเข้าใส่ต่อเนื่อง แต่จะเห็นว่าการป้องกันของอุซเบกิสถานยังหนักแน่นไม่ปั่นป่วนเลย รับมือกับเราได้อย่างมีสมาธิตลอดเกมจนหมดเวลา

คุณภาพของอุซเบกิสถานแสดงออกมาให้เห็นจากการควบคุมสถานการณ์และการลงโทษเราในประตู 2-1 ที่ประกบห่างเพียงเสี้ยววินาที ขณะที่ประตูขึ้นนำ 1-0 นั้นก็เกิดขึ้นจากน้ำหนักบอลที่ยอดเยี่ยมและทักษะการทำประตูที่เยี่ยมยอด

หลังจากทำเกมบดเราอยู่พักใหญ่ อุซเบกิสถานรุมแย่งบอลจากรุ่งรัตน์ได้อย่างที่ทำได้หลายครั้งกับนักเตะคนอื่นๆ ของเราก่อนหน้านั้น ต่อบอลกัน 2-3 ทอดจากทางซ้ายแล้วโยนเปลี่ยนแกนเร็วฉับพลันไปทางขวา ธีราทรที่คุมพื้นที่ทางซ้ายและกำลังขยับเข้าในเพื่อรักษาระยะห่างกับเซนเตอร์แบ๊กต้องถอยหลังกระโดดจึงโหม่งไม่ถนัด

น้ำหนักบอลจาก ดิยอร์ โฮลมาตอฟ สมบูรณ์แบบทั้งความแรงและความโด่งข้ามหัวธีราทรไปลงที่ตัวเป้า เยี่ยมกว่านั้นคือการจบสกอร์ของ อาซิซเบ็ค ตูร์กุนโบเยฟ ที่เฉียบขาด พักอกนิ่มนวลบอลไม่กระฉอกไปไหนเลยทำให้ยิงได้ง่ายส่งบอลผ่าน ปฏิวัติ คำไหม เข้าไป

สุดท้ายแล้วเราก็จบเส้นทาง เอเชียน คัพ ครั้งนี้ด้วยคุณภาพที่ยังเป็นรองอุซเบกิสถาน แต่กระนั้นถนนเส้น กาตาร์ 2024 นี้ก็มีด้านดีมากมายที่เราได้เห็นและเก็บเกี่ยวกลับมา

จากของจริงรายการหนึ่งสู่ของจริงอีกรายการหนึ่ง.. มีนาคมนี้ เกาหลีใต้ 2 นัดเหย้า-เยือนในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ก่อนจะปิดท้าย 2 เกมชี้ชะตากับ จีน และ สิงคโปร์ ในเดือนมิถุนายน

เราจะลงสนามด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากเดิม

ด้วยสิ่งต่างๆ ที่ได้เห็นนับตั้งแต่ มาซาทาดะ อิชิอิ เข้ามาทำทีม ผมเชื่อว่าเรามีความมั่นใจว่าเราเป็นทีมที่ดีขึ้น พร้อมขึ้น เก่งขึ้น

ขอบคุณทุกหยาดเหงื่อที่เสียไปใน เอเชียน คัพ คราวนี้

ขอบคุณนักเตะ ขอบคุณทีมงาน ขอบคุณอาจารย์อิชิอิ พวกคุณทำให้เรากลับมามีความหวังอีกครั้ง

ถนนสายนี้ทอดยาว มันยังคงโรยด้วยความฝัน..

ในวันนี้เราเห็นฝันนั้นชัดขึ้น สดใสขึ้น แม้รู้ว่าระยะทางยังอีกไกลแต่ผมเชื่อว่าเราทุกคนตื่นเต้นที่จะก้าวไปด้วยกัน

"ตังกุย"


ที่มาของภาพ : -
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport