"ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ยืนยันปล่อย 3 แข้ง ทรงชัย ทองฉ่ำ,ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ และ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ร่วมทัพช้างศึกเพื่อลุยศึกซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา
ความเคลื่อนไหวของศึกฟุตบอลซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา ภายใต้การคุมทัพของ" โค้ชหระ" อิสระ ศรีทะโร ทีมชาติไทย อยู่กลุ่มบี ร่วมกับ กัมพูชา (เชมป์เก่า ), มาเลเซีย ,สิงคโปร์ และสปป.ลาว ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.66 -16 พ.ค. 66 ในห้วงเวลาดังของการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์จะชนกับฟุตบอลไทยลีกที่จะเตะนัดสุดท้ายวันที่ 12 พ.ค.66 ทำให้ "โค้ชหระ" หัวหน้าโค้ชช้างศึก ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า จะได้นักเตะคนไหนมาร่วมทัพบ้าง แม้จะมีข่าวว่าได้ส่งหนังสือเพื่อขอตัวนักเตะจากสโมสรออกไปแล้วก็ตาม
ล่าสุดในส่วนของสโมสร ชลบุรี เอฟซี ที่ถือว่ามีแข้งอยู่ในข่ายแกนหลักชุดซีเกมส์อยู่หลายคนนั้น ทาง จีระศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อ ของชลบุรี เอฟซี ประกาศยืนยันแล้วว่า ยินดีปล่อยนักเตะทุกคนที่ "โค้ชหระ" เรียกตัว "นโยบายผู้บริหารของเรา พร้อมปล่อยนักเตะทุกคนให้ทีมชาติอยู่แล้ว เพื่อเป็นการช่วยทีมชาติไทย ทำผลงานที่ดีในซีเกมส์ และส่วนหนึ่งเพื่อเปิดโอกาสให้นักเตะได้แสดงฝีเท้า ได้เก็บประสบการณ์จากทีมชาติ เพื่อกลับมาเพิ่มมูลค่าให้กับสโมสรและตัวของนกัเตะเองด้วย"
ทั้งนี้ทีม ชลบุรี เอฟซี นั้น นักเตะที่ถือว่าอยู่ในข่ายติดทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ เมื่อเทียบกับชุดอันดับ 4 โดฮาคัพ2023 ล่าสุดนั้นมี 3 คน คือ ทรงชัย ทองฉ่ำ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ แบ๊กซ้าย และ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว นักเตะตัวรุก ที่ถือเป็นกำลังสำคัญของทีมด้วย
โดยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับข่าวคราวนักเตะที่อยู่ในข่ายว่าจะถูกเรียกร่วมทัพชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 32 แต่กลบต้องมีอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่าง 2 แข้ง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด "แบงค์" ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่มีอาการขาดเจ็บ และมีข่าวว่าจะเดินทางไปยุโรป เพื่อเซ็นสัญญากับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอังกฤษ แต่จะไปอยู่กับ โอเอช ลูเวิน ในเบลเยียมก่อน ขณะที่อีกรายคือ"ปัง" อิรฟาน ดอเลาะ กัปตันทีมที่ได้รับบาดเจ็บเท้าเช่นกัน และจะชวดไปแข่งซีเกมส์แน่นอนแล้ว
สำหรับโปรแกรมของทีมชาติไทย ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ประเทศกัมพูชา รอบแรก วันที่ 30 เม.ย. เวลา 16.00 น. พบ สิงคโปร์, วันที่ 6 พ.ค. เวลา 16.00 น. พบ มาเลเซีย, วันที่ 8 พ.ค. เวลา 16.00 น. พบ ลาว และวันที่ 11 พ.ค. เวลา 19.00 น. พบ เวียดนาม ทุกนัดเตะที่ ปรินซ์ สเตเดี้ยม ส่วน รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันที่ สนามกีฬาแห่งชาติ มรดกเตโช ในวันที่ 13 และ 16 พ.ค. 2566