หลังเกมหงส์เยือนนาโปลี! แพ้ยับเยินแย่ทั้งทีม!

วันนี้มีคำถาม 3 ข้อหลักๆเกี่ยวกับฟอร์มของลิเวอร์พูลนับจากเริ่มต้นซีซั่นนี้เป็นต้นมา

1 เลยจุดพีคแล้ว มันควรถึงเวลาถ่ายเลือดจริงๆ

2 หรือ...มันล้าเกินไปจากซีซั่นที่ผ่านมาเล่นเยอะครบสี่ถ้วยและพักน้อย

3 เจอร์เก้น คลอปป์ หมดมุกแล้ว

มันเป็นคำถามที่ตั้งขึ้นมาหลังจากออกตัว 6 นัดแรกในพรีเมียร์ลีกด้วยผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่ เจอร์เก้น คลอปป์ เคยทำ ดูเหมือนเป็นทีมพึ่งเริ่มสร้างใหม่ เล่นแบบไม่มีทรงบอลอะไรสักเท่าไหร่

โอเค....คำตอบรอดูกันครับ ผมให้อีก 4-5 นัดถ้ายังไม่กลับมาเล่นให้มันมีทรงบอล....เราค่อยย้อนมาคุยกันเรื่องคำถาม 3 ข้อที่ตั้งกันขึ้นมาถาม เพียงแต่ตอนนี้ไปว่ากันหลังเกมนัดเยือน นาโปลี กันก่อนครับ

เจเค เลือกตัวได้ตามสภาพ

จุดที่เป็นปัญหาคือแดนกลาง....มีให้เลือกจำกัด ติอาโก พึ่งกลับมาซ้อมสองวัน อาร์ตูร์ ไม่ได้เล่นเกมมาเลยและซ้อมน้อยด้วย เหลือ เจมส์ มิลเนอร์, อาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ ฟาบินโญ ที่เหลือเจ็บกันหมด เฮนโด, โจนส์, เกอิต้า....แต่ส่วนแดนอื่นยังพอโอเคมีให้เลือก ข้างหน้ามีห้าคนแล้ว ขึ้นกับว่าเลือกใคร ซึ่ง เจเค ส่ง บ๊อบบี, ดิอาส และ ซาลาห์ ส่วนแบ๊กโฟร์ ไม่มีการปรับยังใช้ชุดเดิม 

นาโปลี นั้น ลูชาโน สปัลเลตติ เล่นระบบ 4-2-3-1 เลือกส่ง โอซิมเฮน ดาวยิงซีซั่นก่อนที่ผ่านการทดสอบความฟิตลงสนามพร้อมกันกับปีกสองข้าง ควารัตส์เคเลีย ตัวจี๊ดจากจอร์เจีย ที่ทอปฟอร์ม ส่วนด้านขวา โปลิตาโน ไม่ใช่ โลซาโน ตัวทีมชาติเมกซิโก ที่มีชื่อสำรอง แดนกลางสองคน อังกีซา อดีตนักเตะฟูแล่มยืนกับ โลบอตก้า เป็นกลางคู่ มีตัวรุกคือ ซีเลนสกี้ แบ๊กโฟร์ รามานี คู่กับ คิม มิน แจ เซนเตอร์ทีมชาติเกาหลีใต้ แบ็กขวา ดิ ลอเรนโซ แบ๊กซ้าย โอลิเบรา ประตูก็ อเลกส์ เมเรต ตัวทีมชาติอิตาลี 

โกเมส&ฟานไดจ์จับมือกันทำเละ

แม้เสียประตูเร็วจากจุดโทษ...เจมส์ มิลเนอร์ เก๋าไม่เข้าท่า กางแขนบังการยิงเลยโดนแฮนด์บอล แต่หลังจากจุดโทษ 1-0 ดูเหมือนคู่เซนเตอร์ลิเวอร์พูล ทำพลาดกันง่ายเกินไปหน่อย เป็นความผิดพลาดส่วนตัวทั้งสองคน ฟานไดจ์ เปิดก่อนด้วยการทำเสียจุดโทษ ไปเหยียบเท้า โอซิมเฮน 

เหลือเชื่อตัวเลขจากopta ระบุว่าก่อนหน้านี้ ฟานไดจ์ เล่นให้หงส์แดง 150 นัดโดยไม่ทำเสียจุดโทษเลย ล่าสุดลงเล่น 7 นัดทำเสียจุดโทษสองครั้งแล้ว 

โชคดีจังหวะฟานไดจ์ทำเสียจุดโทษนั้น นาโปลี ไม่ใช้ ซิลินสกี ตัวทีเด็ดยิงอีก เป็น โอซิมเฮน ยิงเอง ปรากฏว่า ยิงไปติดเซฟ เบคเกอร์ กระดอนออกมา พอซ้ำก็ข้ามคาน...

แม้รอดตัวแต่เกมรับการยืนไฮไลน์ ดีเฟ้นส์ ของลิเวอร์พูล กลับสร้างปัญหาเมื่อเจอกับความคล่องตัวของการโจมตีนาโปลี  ประตู 2-0 นั้นง่ายมากเลย อังกิสซา ทำชิ่ง 1-2 บอลผ่านหน้า ฟาบินโญ แล้ว อังกิสซา หลุดแปเสาแรกเข้าไป...จากจังหวะที่ไม่น่ามีอะไรกดดัน 

ประตู 3-0 ควารัตส์เคเลีย ทำให้ โกเมส เสียบอล เสียเหลี่ยม โดนลงโทษจากจังหวะประตู3-0 ก่อนหมดครึ่งแรก แย่งบอลสู้ ควารัตส์เคเลีย โดนแปเข้ากรอบหกหลา ผ่านหน้าฟานไดจ์ ถึง โจวานนี ซิเมโอเน ลูกชายดีเอโก ซิเมโอเน ที่ลงมาเล่นแทน โอซิมเฮน ไม่ถึงสองนาที

ส่วนลูก4-0 จังหวะเกมรับดันสูงเหมือนเคยโดนวางบอลยาวหลังไลน์ ช่อง ฟานไดจ์ พอดี....ซิลินสกี้ จัดการซ้ำจังหวะ เบคเกอร์ ปัดบอลเข้าทาง 

เกมจากนั้นนาโปลีเล่นง่ายเหมือนช่วงได้ประตูแรกขึ้นนำ...นั่นคือรับแดนสองรอหงส์แดง ดันขึ้นมาสูง หากทำบอลเสีย เล่นบอลพลาดก็โจมตีเร็วทันที หาจังหวะแบบนี้เล่นงานได้เรื่อยๆ 

ส่วนหงส์แดงก็เจาะยากอยู่ละครับเพราะการตั้งโซนรับของ นาโปลี นั้นทำได้สบายๆไม่กดดัน แม้จะเปลี่ยน ดาร์วิน, โชตา และ ติอาโก ลงมาก็ขาดๆเกินๆ ไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย เพราะนาโปลี ให้เล่นให้บุก รอจังหวะสวนกลับเท่านั้นเอง

มีการขุดสถิติมาอ้างว่าสองทีมที่ คลอปป์ โบกมือลาทีมแบบไม่สวยงามคือ ไมนส์ และ ดอร์ทมุนด์ นั้นเกิดขึ้นกับการทำงานในปีที่ 7 ของเขาเอง จะว่าไป...ปีนี้ก็ปีที่ 7 ของเขากับลิเวอร์พูล  The seven-year itch อย่างนั้นหรือ

ความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของหงส์แดงใน ช.ป.ล เกมนี้ คงทำให้ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ อย่างละเอียดละครับว่า...มันเพราะอะไรใน 3 ข้อที่ผมจั่วเป็นคำถามให้คิด 

เพียงแต่ว่า...ขอรอดูอีกสักหนึ่งเดือนกับสี่ห้านัดนับจากนี้ เจอร์เก้น คลอปป์ จะแก้ปัญหาหรือทำให้ทีมชุดนี้กลับมาเล่นด้วยผลงานที่ดีกว่า 6-7 นัดแรกนี้ได้อย่างไร ไม่ต้องไปถึงจุดที่เคยยอดเยี่ยมเมื่อสามสี่ปีก่อน ที่เล่นอย่างทรงพลัง ดุดัน เอาแบบเล่นแล้วดูมีทรงบอล ไม่หละหลวม คว้าสามแต้มให้ได้ก่อน

ดูสภาพตอนนี้แล้ว.....น่าเป็นห่วงเหลือเกิน

#JACKIE 


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport