ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ ทำสงครามแข้งสัตว์ปีกกับ ไบรท์ตัน และเป็นฝ่ายกำชัยไปได้แบบไม่ยากเย็นด้วยสกอร์ 2-0 จากการเหมาคลำเป้าของ อูโก้ เอกิติเก้ ขณะที่ดราม่าระหว่าง โม ซาลาห์ กับ อาร์เน่อ สล็อต น่าจะคลี่คลายลงแล้วเนื่องจาก บังโม ได้กลับมาสู่ทีม แถมลุกจากม้านั่งข้างสนามไปแอสซิสต์เม็ดที่สองของเกมด้วยช่วยพาทีมเจ้าบ้านขยับสู่อันดับหกของตารางคะแนน
1. ซาลาห์ สำรองทิ้งทวนก่อนรับใช้ชาติ
โม ซาลาห์ กองหน้าทีมชาติ อียิปต์ กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองหลังได้คุยกับ อาร์เน่อ สล็อต ผู้จ้ดการทีมเรียบร้อยแล้วกรณีเจ้าตัวไม่พอใจที่ถูกเจ้านายชาวดัตช์ดร็อปเป็นตัวสำรองสามเกมติดต่อกันจนระเบิดอารมณ์เปิดปากผ่านสื่ออย่างเดือดดาล
ลิเวอร์พูล ใส่ชื่อกองหน้าตัวฉกาจกลับสู่ทีมหลังกาชื่อเขาทิ้งในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดบุกไปเฉือนชนะ อินเตอร์ มิลาน 1-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโดยทีมเจ้าบ้านปรับโผรวมสองจุด
นอกจาก มิลอส เคอร์เคซ จะได้ลงเล่นเป็นแบ็คซ้ายแทนที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ได้กลับมาลงบู๊เช่นกันแทนที่ อเล็กซานเดอร์ อิซัก ที่ตกไปนั่งข้างสนาม
พร้อมกันนี้ เจ้าบ้านได้ เฟเดริโก้ เคียซ่า หายป่วยมีชื่อเป็นตัวสำรอง ขณะที่ เคอร์ติส โจนส์ ลงเล่นให้สโมสรเป็นนัดที่ 200 ในทุกรายการด้วยวัย 24 ปี 317 วัน ซึ่งทำให้เขาเป็นกองกลางของ เร้ด แมชีน ที่รับใช้ต้นสังกัดผ่านถึงหลักนี้เร็วที่สุดต่อจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในวัย 23 ปี 121 วันเมื่อเดือนก.ย.2003
2. นกนางนวลเปลี่ยนหอก เวลเบ็ค หลุดโผ11คนแรก
ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ กุนซือทีม ไบรท์ตัน ปรับหมากสองจุดเช่นกันบุกมาเยือน ลิเวอร์พูล โดยดร็อป แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าจอมเก๋าไปนั่งเป็นตัวสำรอง
ทีมเยือนซึ่งนัดก่อนเฝ้าบ้านไล่ตีเสมอ เวสต์แฮม ได้แบบเฉียดฉิว 1-1 ในช่วงทดเวลาเลือกส่ง แจ็ค ฮินเซลวู้ด ออกสตาร์ต ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ อดีตกองกลาง เร้ด แมชีน มีชื่อนั่งอยู่ในซุ้มร่วมกับ คาโอรุ มิโตมะ หลังทั้งสองสลัดอาการบาดเจ็บทิ้งได้แล้ว
นอกจากนี้ ไบรยาน กรูด้า เป็นอีกรายที่ได้ออกสตาร์ตก่อนหน้า มักซิม เดอ ไคเปอร์
3. ประตูเร็วสุดของซีซั่น
เขี่ยบอลได้แค่ 46 วินาที สกอร์แรกของเกมก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินคาดเมื่อเจ้าบ้านเปิดฉากกดดันใส่ทีมเยือนทันทีจนทำให้ ไบรท์ตัน ระส่ำระสายเตะเคลียร์บอลทิ้งแย่มาเข้าทางให้ โจ โกเมซ โขกเข้าเขตโทษโดยที่ อูโก้ เอกิติเก้ ซัดเต็มเกือกตุงตาข่ายพา หงส์แดง นำ 1-0 เป็นประตูที่หกของเขาในเกมลีก
นอกจากนี้ ประตูนี้มีการยืนยันว่าเกิดขึ้นเร็วที่สุดในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ดี นับจากนั้นโอกาสที่จะได้ประตูที่สองของแชมป์เก่ามีไม่มากนัก แม้จะได้ทำเสียวแทบข้างเดียว แต่ขาดความอันตรายกระทั่ง ซาลาห์ ได้ลงเล่นในนาทีที่ 26 แทน โกเมซ ที่เดี้ยงอีกหนจนได้ ก่อนที่สกอร์ในครึ่งแรกเป็นเจ้าบ้านนำแค่ 1-0 เช่นเดิมทั้งๆที่ ไบรท์ตัน แทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่
ครบ 45 นาทีแรก สถิติระบุว่า เร้ด แมชีน เหนือกว่าทุกประตูทั้งการครองบอล 59.40%:40.60% และโอกาสสับไก 10:7 ครั้ง รวมทั้งการส่งบอลเข้ากรอบ 2:1 ครั้ง
4. โม ไม่ย้าย?
ถือเป็นการทิ้งทวนที่ดีสำหรับ ซาลาห์ ก่อนอำลาทีมชั่วคราวเพื่อลงเล่นให้ทีมชาติในรายการ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์
หลังลุกจากม้านั่งข้างสนามลงไปแทน โกเมซ ดาวยิงทีมชาติ อียิปต์ แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นในการเล่น และยังเป็นนักเตะคนโปรดของสาวก หงส์แดง เช่นเดิม
จนในที่สุด นาทีที่ 60 บังโม ก็มีส่วนกับประตูจากการเตะมุมไปเสาสองให้ เอกิติเก้ โขกไม่เหลือพา ลิเวอร์พูล นำ 2-0 โดยเป็นประตูที่ 10 ในทุกรายการของสตาร์เลือดน้ำหอม แถมเป็นประตูแรกของ เครื่องจักรสีแดง จากลูกเตะมุมในซีซั่นนี้ด้วย
จากผลงานของ ซาลาห์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะได้ค้าแข้งในรั้ว แอนฟิลด์ ต่อไปหลังกลับมาจากการรับใช้ชาติเนื่องจากปัญหาบาดหมางระหว่างเขากับ สล็อต ได้รับการสะสางแล้วโดยตัวนักเตะน่าจะได้รับบทเรียนจนไม่คิดทำอะไรแบบสิ้นคิดอีกหนแน่
แต่ที่แน่ๆ ซาลาห์ จะไม่ใช่ตัวเลือกแรกของทีมอีกต่อไป และเขาต้องทำใจยอมรับหากไม่คิดลดเกรดย้ายไปเล่นในลีก ซาอุดิ อาระเบีย ที่พร้อมอ้าแขนต้อนรับเขา
หลังหมดเวลาโดย ลิเวอร์พูล กำชัย 2-0 สถิติบ่งชี้ว่าทีมเจ้าบ้านกลับมาครองบอลเป็นรองเล็กน้อย 49.89%:50.20% แต่ได้ส่องยิงมากกว่า 18:14 ครั้ง อีกทั้งส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่าเช่นกัน 4:1 ครั้ง ขณะที่ บังโม มีส่วนกับประตูของ หงส์แดง ในเกม พรีเมียร์ลีก 277 เม็ดแล้ว (188 ประตู 89 แอสซิสต์) เป็นสถิติสูงสุดของนักเตะกับสโมสรเดียวในรายการนี้แทนที่ เวย์น รูนีย์ ซึ่งมีส่วนกับ 276 ประตูสมัยอยู่ในสังกัดทีม แมนฯ ยูไนเต็ด (183 ประตู 93 แอสซิสต์)
ซีซั่น ประตู แอสซิสต์
2017/18 32 10
2018/19 22 8
2019/20 19 10
2020/21 22 5
2021/22 23 13
2022/23 19 12
2023/24 18 10
2024/25 29 18
5. เดือนโปรดของหงส์แดง
หลังตกอยู่ภายใต้ความกดดันมาระยะหนึ่ง ในที่สุด สล็อต ก็พา ลิเวอร์พูล ฟื้นจากผลงานที่เลวร้ายได้สำเร็จโดยห้าเกมหลัง เร้ด แมชีน ไม่รู้จักกับคำว่าปราชัยอีกเลย
ขณะเดียวกัน หลังเปิดบ้านสอย ไบรท์ตัน ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-0 ลิเวอร์พูล สานต่อผลงานที่ยอดเยี่ยมในการลงเล่นเดือนธ.ค.ได้ต่อไปเนื่องจากนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมาพวกเขาลงสนามในเดือนนี้เป็นนัดที่ 53 แล้ว และมีสถิติแพ้เกมเดียวเท่านั้น
สำหรับเกมเดียวที่ เร้ด แมชีน ปราชัยในเดือนสุดท้ายของปีเป็นการบุกไปแพ้ เลสเตอร์ 1-0 และผ่านมาจนถึงวันนี้พวกเขาไม่แพ้อีกเลยโดยเป็นการกำชัยได้ 38 นัด และเสมอ 14 นัด
ถึงขณะนี้ ลิเวอร์พูล ยังเหลือเกมให้ลงเล่นในเดือนธ.ค.อีกสองนัดในศึก พรีเมียร์ลีก โดยพวกเขาจะบุกไปเยือน สเปอร์ส วันที่ 20 ธ.ค.และต้อนรับ วูล์ฟส์ วันที่ 27 ธ.ค. โดยสี่เกมก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ หงส์แดง มีผลงานชนะสอง เสมอสองในทุกรายการ