ฮาลันด์ ฮอตเกินต้าน! เจาะหลังเกม แมนซิตี้ บี้แชมป์ไล่อัด บอร์นมัธ

ฮาลันด์ ฮอตเกินต้าน! เจาะหลังเกม แมนซิตี้ บี้แชมป์ไล่อัด บอร์นมัธ
เอร์ลิง ฮาลันด์ ยิงประตูอยู่คนเดียวในทีมเรือใบ 20 ลูกของเรือใบเขายิงไป 13 ที่เหลือเพื่อนอีก 5 คนๆละ1 ลูกรวม โอไรลีย์ ล่าสุด ส่วนอีก2 เอสแตฟ OG

10 นัดในลีก ฮาลันด์กดไป 13 ลูกรวม98 ใน107 นัด...

เหลืออีก 2 จะครบ100 ในPL ดูจำนวนนัดถือว่าเร็วมาก

สถิติของPL ยิง100 ลูกเร็วสุดคือ อลัน เชียเรอร์

"ฮอตชอต" ทำได้ใน 124 แมตช์.....

ดูท่า...ว่าจะโดน ฮาลันด์ ทำลายสถิติในเร็ววันนี้

หลังเกมกับ เรือใบ มีอะไรน่าสนใจไม่น้อย

7 วันก่อนแพ้แอสตัน วิลล่า ซึ่งฮาลันด์ โดนบอลนับครั้งได้

กลับมาเที่ยวนี้พวกเขาชนะบอร์นมัธ ขาดทั้งสกอร์และวิธีการ

ผมมีข้อที่น่าสังเกตถึงเกมแพลนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

รวมทั้ง นิว เดอ บรอยน์คือใคร ที่คลิ๊กกับ ฮาลันด์

ตามผมมาครับ...

➡️ เกมแพลนของ เป๊ป 

จากทีมที่คอนโทรลเกม บุก พาสซิ่งเกม จัดเต็ม

ซีซั่นนี้ เป๊ป ปรับท่าทีการวางแผนการเล่นจากเดิม

ไม่ต้องบุกเยอะ ขุดบ่อล่อปลา ให้คู่แข่งบุกมาหาบ้าง

มีบอลไดเรกต์ จากประตูและแดนหลัง 

แก้เพรสซิ่ง คู่แข่ง แล้วตลบหลังในพื้นที่อันกว้างใหญ่

เหมือนทุ่งหญ้าแห่งความฝันของ ฮาลันด์

วิ่งโล่งๆ เดี่ยวๆ เข้าไปยิงหลายๆเกม

อาร์เซนอล ก็โดนมาแล้วเช่นกันวันที่เสมอ 1-1

นัดพบบอร์นมัธเหมือนเข้าทาง เป๊ป 

พี่ใหญ่บอลสเปนที่ อีราโอล่า เดินตามรอย

อีราโอล่า ใจใหญ่ ใจถึง ขึ้นเพรสแดนบนใส่เรือใบ

ยังผลให้กองหลังดันสูงเป็น ไฮไลน์ ดีเฟ้นส์ครึ่งสนาม

ใครจะว่าเสี่ยงยังไงก็ช่าง แต่นั่นคือเกมแพลน

ถ้าลูกทีมเป๊ป แก้เพรสไม่ได้...ก็มีสิทธิ์ตายได้เหมือนกัน

แต่ลูกทีม เป๊ป แก้ได้ แล้วได้ประตูอีกต่างหาก

ระบบ 4-1-4-1 หรือ 4-5-1 กลายๆ เมื่อเล่นแค่แดนสอง

นิโก กอนซาเลส ได้เล่นต่อเนื่องเริ่มเข้าที่ (ทายาทโรดริ)

4 มิดฟิลด์ แบ่งเป็นตัวขวา แบร์นาโด ซิลวา

ตัวซ้าย โดกู คู่กลางเหมือนเบอร์สิบคู่ โฟเดน-แชร์กี้

สองฟูลแบ๊ก นิโก โอไรลีย์ กับ มาเตอุส นูเนส 

ทั้ง "อินเวิร์ต" และ อ้อมหลังเป็นปีกเติมตามจังหวะ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในเกมแพลนคือ.....

แก้เพรสได้....แล้วได้ประตู2 ลูก

1-0 ฮาลันด์ วิ่งลั่นทุ่ง.... เพราะโล่งมาก

บอร์นมัธ เพรสไม่จนโดนตลบหลัง

2-1 ภาพซ้ำเหมือนเดิม ฮาลันด์ โล่งๆ หลังไลน์

ในส่วนของเกมรับนั้น...เบรกเกมสวนกลับได้ดี

เซเมนโย่ ไปไม่เป็นในเกมนี้...หมดพิษสง

จังหวะโอเพ่นเพลย์ ทั้งบุกและสวนกลับ รับกิน

การเสียจากลูกเตะมุม...จะว่าไปให้ฟาวล์ก็ได้นะ

เดวิด บรูคส์ ดึงแขน ดอนนารุมม่า แล้วปล่อย

เขาจึงต้องชกด้วยมือขวา ไมถนัด (ควรเป็นมือซ้าย)

บอลเลยตกใส่เท้า ไทเลอร์ อดัมส์....1-1

ส่วน3-1 ก็ลงโทษ บอร์นมัธ ที่เสียขบวนแนวรับกันเอง

ใช้เวลา 1 ช.ม. ปิดบัญชีบอร์นมัธ จากนั้นเล่นครองเกม

เปลี่ยนตัวลงมาเพื่อหมุนนักเตะไว้ใช้ ช.ป.ล

การเล่นแบบขุดบ่อล่อปลา ไม่ต้องบุกเยอะเหมือนก่อน

มีผลคือชนะง่ายขึ้นกว่าเดิม ไม่ต้องอึดอัดและกังวล

เครียดว่าจะเสียบอลระหว่างทางหรือแดนบนแล้วโดนสวน

ส่วน ฮาลันด์...เล่นแบบไหน ก็ยังยิงได้เหมือนเดิม

ยิ่งเล่นแบบนี้ยิ่งมีพื้นที่ให้ "เดี่ยวๆ" กับประตูบ่อยครั้ง

➡️ นิว เดอ บรอยน์ จริงหรือ?

เหมือนเป็นการอวย รายาน แชร์กี ตัวรุกเรือใบ

ดูเร็วไปที่จะกล่าวเช่นนั้น...แต่ดูการเล่นมันคุ้นๆนะ

2 แอสซิสต์ นัดพบบอร์นมัธจัดให้ ฮาลันด์ สวยๆ

ทะลุหลัง ไฮไลน์ ดีเฟ้นส์ ทีมอีราโอล่า เข้าไปยิงง่ายมาก

ลูกแรก โหม่งชงให้ เดี่ยวๆ จากครึ่งสนาม

ลูก 2-1 จ่ายเข้าช่องเซนเตอร์-แบ๊กซ้าย บอร์นมัธ

ก่อน ฮาลันด์ หลุดเดี่ยวไปจบสกอร์เด็ดขาด

นักเตะชั้นเชิงแพรวพราว มีส่วนช่วยฮาลันด์ยิงสองลูก

ถ้าได้เล่นบ่อยๆ ความคลิ๊ก จะเข้ากันยิ่งกว่านี้ 

อันนี้...รอดูผลงานความต่อเนื่อง 

แม้เดอะ เทเลกราฟ จะพาดหัว "นิว เดอ บรอยน์" 

คงเป็นข้อสังเกตที่น่าติดตามเช่นกัน

อย่าลืมว่าแชร์กี เจ็บ "ต้นขา" เกือบเดือน

ได้โอกาสลงเล่นไม่เยอะ แมตช์ ฟิตเนส มีน้อย

พรีเมียร์ลีกเนี่ย..มีชื่อ6 เกม ตัวจริง2 สำรอง3 

จำนวนนาทีจาก 900 ลงเล่นแค่ 163 นาที

นัดแพ้สเปอร์สเกือบชั่วโมง ที่เหลือนัดละ10 นาที+

นัดชนะบอร์นมัธ เล่นนานที่สุด 73 นาที

ซึ่งเป็นเกมต่อเนื่องจากลีก คัพ ที่ชนะสวอนซี3-1

แชร์กี เล่นครบ 90 นาที แล้วจึงมาต่อเกมล่าสุดนี้

นั่นหมายความว่า...โอกาส "คลิ๊ก" กับการรุกมีน้อย

โดยเฉพาะตำแหน่งของเขาที่ต้องเชื่อมกับ ฮาลันด์

กล่าวคือ....แชร์กี้ ต้องลงสนามต่อเนื่องกว่านี้

การจัด2 แอสซิสต์ แจ่มๆ ให้ฮาลันด์ จึงถูกพูดถึง

ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบและเกมแพลนของ เป๊ป 4-1-4-1 

ซึ่งดูแล้วคงจะยืนพื้นระบบนี้เป็นระบบหลักของเขา

รวมทั้งการเป็น "นิว เดอ บรอยน์" คงต้องใช้เวลา

อาจคล้ายคลึงหรือแตกต่าง.....แฟนเรือใบต้องรอชม

⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️⚽️

บทสรุปนะครับ

เป๊ป ค่อยๆปรับปรุงวิธีการเล่น

รวมทั้งผลงานให้มันดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว....

หลังจากออกตัวสามนัดแรกแพ้ไป 2 

เป๊ป เรียนรู้เพื่อปรับตัวเองและทีมของเขา

จากนั้น 7 นัดต่อมาชนะ  5 เสมอ 1 แพ้ 3

กระโดดจากอันดับ 13 ในเดือนแรก...

วันนี้ขึ้น "รองจ่าฝูง" มากดดันปืนใหญ่ที่ 6 แต้ม

โมเมนตั้มกำลังจะมา....แต่ทว่า

โปรแกรมสัปดาห์นี้ ดันเจอพวกเดียวกันเอง

วันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย. รับมือลิเวอร์พูลในบ้าน

เป็นแมตช์ ที่กดดันอย่างไม่ต้องสงสัย

ทั้งตัดแต้ม, เพิ่มแต้มให้ตัวเองได้

อีกทั้ง....เป็นโปรแกรมที่แข่งทีหลังอาร์เซนอล

"จ่าฝูง" และ "เต็ง1" ไปเยือนซันเดอร์แลนด์ เสาร์ที่8 พ.ย.

ด้วยความมั่นใจของทีมที่แกร่งทุกสัดส่วน 

ชัยชนะจะทำให้ทิ้งไปก่อน 9 แต้ม

หรือไม่ว่ากี่แต้มที่ได้  เมื่อ"แข่งก่อน" ย่อมชิงจังหวะได้ก่อน

นี่แหละ....สำคัญ 

เป็นเกมที่วัดความก้าวหน้าของทีมเป๊ป

เช่นเดียวกันกับซีซั่นที่ตะกุกตะกักของหงส์แดง

โดยอาร์เซนอล รอรับผลประโยชน์จากสองทีมนี้



ที่มาของภาพ : Reuters
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport