รวมไลน์อัพ 11 แข้งระดับท็อปที่เติบโตจากอะคาเดมี่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนแจ้งเกิดกับทีมอื่นในพรีเมียร์ลีก นำโดย เจเรมี่ ฟริมปง, โคล พาลเมอร์ และอดีตดาวรุ่งดังอีกเพียบ
เจเรมี่ ฟริมปง กลายเป็นอดีตนักเตะในอะคาเดมี่ของ แมนซิตี้ รายล่าสุดที่ย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรร่วม พรีเมียร์ลีก หลังถูก ลิเวอร์พูล คว้าตัวมาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในราคา 29.5 ล้านปอนด์
วิงแบ็ควัย 24 ปีถูก อาร์เน่อ สล็อต กุนซือร่วมชาติฉุดมารับภาระแทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่ย้ายไปค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด โดยสตาร์ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เคยเป็นนักเตะในทีมเยาวชนของ เรือใบสีฟ้า นานเก้าปี แต่ไม่เคยเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสร
หลังเริ่มค้าแข้งในระดับอาชีพกับ เซลติก ต่อด้วย เลเวอร์คูเซ่น ในที่สุด ฟริมปง ก็คัมแบ็คสู่ลีกอิงลิชในสีเสื้อของทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก
นอกจาก ฟริมปง แล้ว ก่อนหน้านี้ แมนฯ ซิตี้ มีเด็กปั้นอีกหลายรายที่ย้ายไปสร้างชื่อกับสโมสรร่วมลีก และมันมากพอที่สามารถจัดทีมขึ้นมาได้หนึ่งทีมเลยทีเดียว (ตัวเลขในวงเล็บคือมูลค่าโดยประเมินจาก Transfermarkt)
- เจมส์ แทรฟฟอร์ด (18 ล้านปอนด์)
เป็นอีกรายที่ไม่เคยเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ หลังใช้เวลากับทีมเยาวชนนานหกปี
หลังถูก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ส่งให้ แอคคริงตัน สแตนลีย์ และ โบลตัน ยืมไปเฝ้าเสา ในที่สุดเขาก็ถูกขายให้กับ เบิร์นลีย์ ในปี 2023 ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์
ในเวลาสองซีซั่นกับสังเวียนแข้ง เทิร์ฟ มัวร์ แทรฟฟอร์ด วัย 22 ปีเก็บคลีนชีตได้ 31 นัดจาก 73 นัดพาทีมจบอันดับรองแชมป์ แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นที่ผ่านมาโดยมีประตูได้เสียเป็นรอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งหมายความว่า เดอะ คลาเร็ตส์ จะกลับสู่ พรีเมียร์ลีก อีกหนในซีซั่นหน้า
- เจเรมี่ ฟริมปง (42 ล้านปอนด์)
แม้จะย้ายสู่ถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยค่าตัว 29.5 ล้านปอนด์ แต่ ฟริมปง ถูกกำหนดมูลค่าโดยประเมินเอาไว้ที่ 42 ล้านปอนด์จึงต้องถือว่า ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญากับเขาในราคาที่ย่อมเยา
"มันเป็นไปอย่างง่ายดาย ลิเวอร์พูล ติดต่อมา และบอกว่าพวกเขาสนใจผม แน่นอนว่าผมไม่จำเป็นต้องคิดเยอะ ผมบอกกับเอเจนต์ของผมว่า "จัดการเลย" ฟริมปง เผยผ่านเว็บไซต์ของ หงส์แดง หลังจรดปากกา
ก่อนเป็นสมาชิกใหม่ของ เร้ด แมชีน ดาวเตะชาวเมืองกังหันลมมีแชมป์ติดตัวมากมายทั้ง บุนเดสลีกา , เดเอฟเบ โพคาล และ เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ แถมไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาหวังประสบความสำเร็จเพิ่มเติมกับต้นสังกัดใหม่
- โทซิน อดาราบิโอโย่ (17 ล้านปอนด์)
อดาราบิโอโย่ ใช้เวลากับ แมนฯ ซิตี้ 13 ปี แต่ไม่เคยลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เช่นกันแม้จะค้าแข้งระดับอาชีพกับทีม เรือใบสีฟ้า เป็นสโมสรแรกในปี 2016
จากนั้นอีกสองปี เขาก็ถูกส่งให้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ยืมตัวตามด้วย แบล็คเบิร์น ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม ฟูแล่ม อย่างถาวรในปี 2020
หลังค้าแข้งกับ เจ้าสัวน้อย สี่ปี เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 27 ปีก็ย้ายสู่ทีม เชลซี แบบไม่มีค่าตัวหลังหมดสัญญาโดยในซีซั่นแรกกับ สิงห์บลูส์ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ส่งเขาลงบู๊ในทุกรายการรวม 37 นัดซึ่งเศรษฐีลอนดอนคว้าอันดับสี่ของ พรีเมียร์ลีก และได้แชมป์ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก
- เอริค การ์เซีย (12 ล้านปอนด์)
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ สเปน เริ่มเป็นนักเตะเยาวชนของ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 2008-2017 ก่อนย้ายสู่อะคาเดมี่ของถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม และอีกสองปีต่อมาเขาก็ก้าวขึ้นไปเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ เรือใบสีฟ้า ของ กวาร์ดิโอล่า
จากการลงสนาม 35 นัด ดาวเตะวัย 24 ปีได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่น 2020/21 ก่อนถูก บาร์เซโลน่า ดึงกลับสู่ทีมแบบไม่มีค่าตัวโดยเซ็นสัญญากันจนจบซีซั่น 2025/26 และมีค่าฉีกสัญญา 337 ล้านปอนด์
- อันเจลิโน่ (12 ล้านปอนด์)
หลังเป็นนักเตะในทีมเยาวชนของ ลา กอรุนญ่า อันเจลิโน่ ก็ย้ายสู่อะคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2013 ขณะมีอายุ 16 ปี
จากนั้นอีกสองปีต่อมา เขาก็เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพฉบับแรกกับ เรือใบสีฟ้า แต่ไม่เคยเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เลยแม้แต่เกมเดียวกับการถูกส่งให้หลายทีมยืมตัวก่อนเซ็นสัญญาอย่างถาวรกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 4.6 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ดี ในเวลาซีซั่นเดียว แมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจใช้เงื่อนไขซื้อแบ็คซ้ายสแปนิชกลับมาลงเล่นให้สโมสรด้วยเม็ดเงิน 5.3 ล้านปอนด์
รวมแล้วดาวเตะวัย 28 ปีลงเล่นให้กับเศรษฐี พรีเมียร์ลีก แค่ 15 นัดของทุกรายการในเวลาสองซีซั่นก่อนถูกขายให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในปี 2021 จวบจนซีซั่นก่อนหน้านี้ทีมของ บุนเดสลีกา ขายเขาให้ โรม่า ในราคา 4.2 ล้านปอนด์โดยเขามีสัญญากับทีม หมาป่า จนถึงปี 2028
- โรเมโอ ลาเวีย (34 ล้านปอนด์)
กองกลางตัวรับทีมชาติ เบลเยี่ยม ย้ายจาก อันเดอร์เลชท์ มาอยู่ในสังกัดของ แมนฯ ซิตี้ ก่อนได้เลื่อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ แต่ไม่ได้เล่นเกม พรีเมียร์ลีก เลยแม้แต่นัดเดียวนอกจากเกมฟุตบอลถ้วย
จนในที่สุด เขาก็ถูกขายให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ในราคา 10.5 ล้านปอนด์โดยเขาลงสนามเป็นตัวจริงให้กับทีม นักบุญ ในซีซั่น 2022/23 รวม 34 นัด และแม้ เดอะ เซนต์ส จะตกชั้น แต่ เชลซี ทุ่มเงิน 53 ล้านปอนด์ดึงดาวเตะวัย 21 ปีไปร่วมทีม
อย่างไรก็ดี ลาเวีย ลงเล่นให้ สิงห์บลูส์ แค่ 19 นัดซึ่งทำให้เขามีมูลค่าโดยประเมินตกลงเหลือแค่ 34 ล้านปอนด์แม้จะมีสัญญากับสโมสรจนถึงปี 2030
- อเล็กซ์ การ์เซีย (16 ล้านปอนด์)
มิดฟิลด์ทีมชาติ สเปน วัย 27 ปีย้ายจาก บียาร์เรอัล มาเข้าสังกัดอะคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2015 ก่อนได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของ เรือใบสีฟ้า ในเกม พรีเมียร์ลีก ภายใต้การกุมบังเหียนของ มานูเอล เปเยกรินี่ ในเดือนก.ย.2016
อย่างไรก็ดี การ์เซีย ไม่อาจยึดตำแหน่งในทีมเอาไว้ได้ และได้เล่นให้สโมสรรวม 9 นัดก่อนย้ายไปร่วมทีม จีโรน่า และ มุสครง ด้วยสัญญายืมตัวจวบจนเดือนต.ค.2020 เขาก็จรดปากกาอย่างถาวรกับ ดินาโม บุสเซติ ในลีกโรมาเนียแบบไม่มีค่าตัว
กระทั่งเดือนม.ค.2021 การ์เซีย ก็ย้ายไปค้าแข้งกับ เออิบาร์ แบบไม่มีค่าตัว แต่ถึงเดือนก.ค.เขากลับสู่ จีโรน่า อีกรอบ และใช้เวลากับสโมสรสามปีก่อนเป็นขุนพลทีม เลเวอร์คูเซ่น เมื่อซีซั่นก่อนโดยมีสัญญากับสโมสรจนถึงเดือนก.ค.2029
- โคล พาลเมอร์ (101 ล้านปอนด์)
เกิดและเติบโตในเมืองแมนเชสเตอร์พร้อมทั้งเป็นเด็กฝึกของ แมนฯ ซิตี้ ก่อนประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2020
กระนั้นก็ดี สตาร์วัย 23 ปีไม่ได้รับโอกาสจาก เรือใบสีฟ้า มากพอ และเลือกย้ายไปร่วมทีม เชลซี ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ในปี 2023 หลังมีผลงานยิงได้ 6 ประตูและ 2 แอสซิสต์จาก 41 นัดในทุกรายการกับสังเวียนแข้ง เอติฮัด สเตเดี้ยม
นับตั้งแต่เป็นขุนพลทีม สิงห์บลูส์ กองกลางทีมชาติ อังกฤษ ก็ระเบิดฟอร์มขั้นเทพให้เห็นโดยถึงขณะนี้เขาสอยตาข่ายให้ทีมดังของกรุงลอนดอน 40 ประตูและ 27 แอสซิสต์จาก 91 นัด
- ไมเคิ่ล โอลิเซ่ (67 ล้านปอนด์)
โอลิเซ่ ซึ่งเกิดในลอนดอน แต่เลือกรับใช้ทีมชาติ ฝรั่งเศส ตามสัญชาติของแม่ใช้ชีวิตกับทีมในอะคาเดมี่ของหลายสโมสรทั้ง อาร์เซน่อล , เชลซี , แมนฯ ซิตี้ และ เรดดิ้ง กระทั่งปี 2019 เขาก็ได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของสังเวียนแข้ง มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม
ในเวลาสองซีซั่นกับ เรดดิ้ง โอลิเซ่ มีผลงานยิงได้ 7 ประตูและ 14 แอสซิสต์ก่อนย้ายสู่ คริสตัล พาเลซ ในราคา 8 ล้านปอนด์
หลังสร้างชื่อได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดสามปีกับ อินทรีผงาดฟ้า ดาวเตะวัย 23 ปีก็ได้ย้ายไปค้าเกือกกับ บาเยิร์น ในปี 2024 ด้วยค่าตัว 50.7 ล้านปอนด์
จากการลงสนาม 50 นัดในทุกรายการ โอลิเซ่ ซึ่งมีสัญญากับทีมดังของลีกเมืองเบียร์จนถึงปี 2029 พา เสือใต้ คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา ได้ ขณะที่ถึงตอนนี้เขารับใช้ทีม เลส์ เบลอส์ ไปแล้ว 6 นัด
- เจดอน ซานโช่ (23 ล้านปอนด์)
ซานโช่ เข้าร่วมทีมเยาวชนของ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2015 หลังย้ายมาจาก วัตฟอร์ด แต่เขาไม่เคยได้รับโอกาสให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เลย
จนในที่สุด ซานโช่ ก็ย้ายไปค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ และโชว์ฝีเท้ากับ เสือเหลือง ได้อย่างโดดเด่นทั้งยิงประตูและแอสซิสต์ซึ่งทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้ามาร่วมทีมในปี 2021
ตลอดสี่ซีซั่นกับ ผีแดง ซานโช่ ยิงประตูได้แค่ 12 ลูกและ 6 แอสซิสต์ซึ่งทำให้เขาถูกส่งให้ เชลซี ยืมไปใช้งานเมื่อซีซั่นก่อนโดยก่อนหน้านี้ ดอร์ทมุนด์ ยืมเขาไปร่วมทัพเป็นคำรบสอง
ถึงขณะนี้ต้องรอดูกันว่า สิงห์บลูส์ จะซื้อขาด ซานโช่ ด้วยอ็อปชั่น 20 ล้านปอนด์หรือว่าจะยอมเสียค่าปรับให้ ผีแดง 5 ล้านปอนด์แทนเพื่อส่งเขาคืนสู่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
- เอลลิส ซิมม์ส (5 ล้านปอนด์)
ซิมม์ส ย้ายไปร่วมทีม แมนฯ ซิตี้ ช่วงสั้นๆก่อนผละไปร่วมทีมเยาวชนของ เอฟเวอร์ตัน และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2020
ถึงกระนั้นกองหน้าวัย 24 ปีไม่อาจสร้างชื่อในลีกระดับท็อปได้โดยระหว่างปี 2020-2023 เขาลงเล่นให้ทีมลูกอมแค่ 12 นัดก่อนถูกส่งให้ แบล็คเบิร์น, ฮาร์ทส์ และ ซันเดอร์แลนด์ ยืมตัวแล้วจึงย้ายไปค้าแข้งกับ โคเวนทรี อย่างถาวร
รวมเวลาสองซีซั่น เขาสอยตาข่ายให้ ช้างกระทืบโรง ได้ 26 ประตูจากการลงสนาม 99 นัดในทุกรายการ