ริโอ เฟอร์ดินานด์ ระบุ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้กำลังมีปัญหาเรื่องการมีสมาธิในการเล่น โดยบอกว่าการเสียประตูในช่วงทดเจ็บถึง 3 ลูกจาก 2 เกมหลังสุดถือเป็นหลักฐานชั้นดีเกี่ยวกับเรื่องนั้น
ริโอ เฟอร์ดินานด์ ตำนานกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตำหนิขุนพล "ปีศาจแดง" ที่ขาดสมาธิในการเล่นจนทำให้ทีมเสียระตูและออกไปแพ้ เชลซี 3-4 ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา
เกมนี้ โคล พาลเมอร์ มาทำประตูตีเสมอ 3-3 ให้กับ เชลซี ในราวนาทีที่ 10 ของการทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งแค่นั้นก็ถือว่าน่าช้ำสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากพออยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่า เชลซี มาแซงชนะไปเลยจากชอตที่ พาลเมอร์ ขยับมารับบอลแบบสบายๆ ในตอนที่เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุม ก่อนที่ดาวเตะชาวอังกฤษจะทำประตูได้
เฟอร์ดินานด์ เผยว่า "สมาธิในการเล่นมีความสำคัญอย่างมากในช่วงท้ายๆ ของเกมแบบนี้ ผมรู้ดีว่าเกมแบบนี้มีหลายอย่างเกิดขึ้นได้, มีความกดดันอย่างมาก แต่ท่ามกลางความบ้าคลั่งและความวุ่นวายน่ะคุณจำเป็นต้องมีคนที่กำลังเล่นได้ดีที่สุด, มีสมาธิในการเล่น, คอยชี้นิ้วสั่งการ"
"มันจำเป็นต้องมีการผลักกันบ้าง ช่วงท้ายเกมทีมที่ชนะได้ลูกเตะมุม ซึ่ง พาลเมอร์ ขยับออกมาโดยไม่มีใครสังเกตเห็นเขาแม้แต่คนเดียว เขาถือเป็นตัวอัยตราย นี่คือคนที่คุณควรจะต้องประกบให้มิดมากกว่าใครทั้งนั้นในสนาม แต่เขาขยับออกมาได้ง่ายๆ โดยที่ไม่มีใครเข้าไปจัดการสักคนเดียว"
"จริงอยู่ว่ามันมีการแฉลบเกิดขึ้น แต่ถ้าคุณมีสมาธิมากพอและมีความเป็นมืออาชีพมากพอแล้วน่ะคุณก็จะเข้าใจว่าเขาไม่ควรจะได้อยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ คุณจะปล่อยให้พวกเขามีโอกาสทองไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นในการเล่นระดับนี้แล้วน่ะคุณก็จะโดนลงโทษอย่างเจ็บแสบ"
"แมนฯ ยูไนเต็ด คงจะอยู่ในอารมณ์ที่ผิดหวังอย่างมาก และงานใหญ่ของ เอริค เทน ฮาก ก็คือการทำให้ทีมกลับมามีกำลังใจที่ดีให้ได้ มันเป็นเกมที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลายแบบ และนัดต่อไปพวกเขาต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล เขาต้องหาทางทำให้ลูกทีมลุกขึ้นยืนอีกครั้งและกลับมามีแรงฮึดที่ดี, มีความเป็นนักสู้อย่างเต็มที่"
"ที่จริงวันนี้พวกเขาแสดงให้เห็นถึงการสู้ที่น่าประทับใจแล้วนะ พวกเขาแสดงให้เห็นถึงบุคลิกที่ดี แต่พวกเขาขาดสมาธิในการเล่น ในช่วง 2 เกมหลังสุดพวกเขาเสียประตูหลังจากผ่านนาทีที่ 90 ไปแล้วเป็นจำนวนถึง 3 ลูกด้วยกัน นั่นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสมาธิในการเล่น นั่นคือเรื่องที่น่าเป็นห่วง พวกเขาจำเป็นต้องหาทางแก้ไขมันให้ได้"