ทำไม่ได้คงไม่รอด! 5 ปัญหาที่ เอริค เทน ฮาก ต้องรีบแก้หากไม่อยากโดน แมนยู ปลด

ตอนนี้อนาคตในการกุมบังเหียนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เอริค เทน ฮาก เริ่มไม่มีความแน่นอนมากยิ่งขึ้น หลังจากแมตช์ล่าสุดพวกเขาแพ้ ฟูแล่ม 1-2 คาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์เก้าอี้ผู้จัดการทีมของเขาสั่นคลอนอย่างต่อเนื่อง

แน่นอนว่าผลงานของ เทน ฮาก ในเวลานี้ไม่ค่อยถูกใจ เซอร์จิม แร็ตคลิฟฟ์ เจ้าของร่วม "ผีแดง" เพราะภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือชาวดัตช์สโมสรทีมแพ้ไปแล้ว 15 เกมในทุกรายการ โดยเป็นการแพ้ในลีกถึง 10 แมตช์เลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น แมนฯ ยูฯ ยังตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฐานะทีมบ๊วยด้วย ผลงานเหล่านี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้จริงๆ เพราะในฐานะทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ การที่ทีมมีสถิติที่ย่ำแย่เป็นเรื่องที่บอร์ดบริหาร และแฟนบอลรู้สึกเจ็บปวดมากๆ

ด้วยเหตุนี้ทำให้มีรายงานจากสื่อหลายสำนักระบุว่า "เซอร์จิม" เตรียมจะเปิดอกพูดคุยกับทีมงานในช่วงซัมเมอร์นี้ว่า เทน ฮาก เป็นคนที่เหมาะสมจะทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ "เร้ด เดวิลส์" ต่อไปได้หรือไม่ 

ฉะนั้นถ้า เทน ฮาก ต้องการที่จะอยู่สร้างผลงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป เขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อทำให้ทีมกลับมาสู่เส้นทางที่เหมาะสมอีกครั้ง

1. สร้างทีมเพื่อลุ้นแชมป์เอฟเอ คัพ และท็อปโฟร์

แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมจะต้องเจอกับโปรแกรม 3 แมตช์ที่มีความสำคัญต่อเก้าอี้กุนซือของ เทน ฮาก อย่างมาก โดยเกมแรกก็คือการเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 ในวันพุธที่ 28 ก.พ. ซึ่งการแข่งขันรายการเดียวที่ "ผีแแดง" ยังมีลุ้นความสำเร็จ 

หลังจากนั้นทีมมีเกมที่ต้องบอกว่ามีความหมายอย่างมาก เพราะต้องทำศึก "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้" ปะทะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งพวกเขาห้ามแพ้เด็ดขาดไม่อย่างนั้นโอกาสลุ้นท็อปโฟร์จะยิ่งเลือนรางเต็มที  

ตามด้วยการรับมือ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ใช่งานง่ายแน่นอน เพราะตอนนี้ทีมของกุนซือฌอน ไดซ์ กำลังคึกคักสุดขีด หลังโทษหักแต้มลดลง 

2. กระตุ้นแรชฟอร์ดให้คืนฟอร์ม 

สำหรับเกมรุกบอกเลยว่าน่าเป็นห่วงจริงๆ เพราะทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ไม่รักษามาตรฐานการเล่นได้เลย บางแมตช์ก็ดีใจหายบางแมตช์ก็น่าผิดหวังสิ้นดี แต่สิ่งที่เหมือนกันของทั้งคู่ก็คือการเล่นแบบวัน แมน โชว์ จนบางครั้งทำให้ทีมเสียโอกาส 

ฉะนั้น เทน ฮาก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ และปีกจอมพลิ้วชาวอาร์เจนไตน์ กลับมาฟอร์มฮอตและเล่นอย่างคงเส้นคงวา ซึ่งถ้าทำได้แน่นอนว่าจำนวนประตูของทีมจะเยอะขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า 

โดยเฉพาะในกรณีของ "ดร.แรชชี่" ถือว่าผลงานต่างกันราวฟ้ากับเหวเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะนักเตะขาดความเฉียบคมอย่างเห็นได้ชัด และบางครั้งก็ตัดสินใจผิดพลาดจนทำให้ทีมเสียประโยชน์

ที่สำคัญถ้า เทน ฮาก ไม่สามารถดึงฟอร์มที่ดีที่สุดของ แรชฟอร์ด ออกมาได้ นั่นอาจจะส่งผลกระทบกับตำแหน่งในทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเตรียมจะลงเล่นศึก ยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี ในช่วงซัมเมอร์นี้ 

3. เรียกฟอร์ม อันโตนี่ กลับมาให้ได้

อีกหนึ่งสิ่งที่กุนซือชาวดัตช์ต้องทำนั่นก็คือการทำให้ อันโตนี่ กลับมาโชว์ฟอร์มสุดยอดเหมือนกับฤดูกาลแรกของเขากับสโมสร หลังนักเตะย้ายมาร่วมทัพด้วยค่าตัวแพงแสนแพงแต่ฟอร์มในช่วงที่ผ่านมาไม่คุ้มกับค่าตัวแม้แต่นิดเดียว

แมนฯ ยูไนเต็ด โดนวิจารณ์อย่างหนักในการทุ่มเงินถึง 86 ล้านปอนด์ (ราว 3,784 ล้านบาท) คว้าตัว "เดอะ หมุน" มาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม โดยในช่วงแรกนักเตะทำให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" ยิ้มอย่างมีความสุขกับฟอร์มการเล่นที่ดูหวือหวา

อย่างไรก็ตาม ผลงานของเขาก็ค่อยๆ ดร็อปลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในซีซั่นนี้ อันโตนี่ เจอปัญหานอกสนามเกี่ยวกับเรื่องทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาวจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล และทำให้เขาไม่สามารถกลับมาอยู่ในฟอร์มที่เหมาะสมได้เลย 

แน่นอนว่าคนที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ก็คือ เทน ฮาก ที่เป็นคนบอกกับบอร์ดบริหารให้ซื้อตัว อันโตนี่ มาเล่นกับ แมนฯ ยูฯ ฉะนั้นเขาจะต้องดึงศักยภาพของนักเตะออกมาให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าทำไม่ได้งานนี้ทั้งลูกพี่และลูกน้องมีสิทธิ์ได้เก็บข้าวของออกจาก "โรงละครแห่งความฝัน" พร้อมกันแหงๆ 

4. บรูโน่ ต้องเป็นผู้นำมากกว่านี้

สำหรับอีกประเด็นที่ทำให้ เทน ฮาก โดนวิจารณ์อย่างมากก็คือการเลือกแต่งตั้ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นกัปตันทีม เพราะดูเหมือนว่าเขาไม่มีคุณลักษณ์ของการเป็นผู้นำทีมแม้แต่นิดเดียว 

กุนซือชาวดัตช์ จัดการริบปลอกแขนกัปตันทีมมาจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และมอบให้ จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส แต่ดูเหมือนว่านี่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างแรง เนื่องจาก แฟร์นันด์ส ไม่มีภาวะความเป็นผู้นำของทีมเลย

บางครั้งในสถานการณ์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังย่ำแย่ แฟร์นันด์ส ไม่สามารถกระตุ้นทีมให้หลุดพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากได้เลย แถมบางครั้งยังแสดงพฤติกรรมที่ดูเหมือนสิ้นหวัง และนั่นยิ่งทำให้นักเตะที่เหลืออยู่หมดกำลังใจเข้าไปอีก

นอกจากนี้ฟอร์มการเล่นของ แฟร์นันด์ส ก็ร่วงลงไปเยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยแผ่วก็คือการทำสีหน้าคร่ำครวญ และบ่นไม่หยุด แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีทางทำให้ทีมกลับมาอยู่ในมาตรฐานที่สูงได้เลย ด้วยเหตุนี้ เทน ฮาก จะต้องทำให้ เพลย์เมกเกอร์เลือดฝอยทอง กลับมาเป็นทั้งผู้นำ และจอมทัพเหมือนเก่า เพื่อฉุดทีมให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

5. พัฒนาเกมรับให้เหนียวแน่น

ตอนนี้ แมนฯ ยูฯ ยังคงมีปัญหาเรื่องเกมรับ โดยแฟนผีโปรเจกต์อาจจะอ้างได้ว่าพวกเขาขาดแบ็กโฟร์ตัวหลักอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ ลุค ชอว์ นั่นทำให้แผงหลังของทีมขาดความเสถียรภาพ และมีผลทำให้ทีมเสียประตูบ่อยๆ

แม้ว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะยกระดับศักยภาพของตนเองมากขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังคงมีจุดบกพร่องในบางจังหวะ โดยเฉพาะในเรื่องความเร็ว กับความแม่นยำในการสกัด ขณะที่ ราฟาแอล วาราน ก็เล่นไม่คงเส้นคงวา ส่วน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ต้องสวมบทแบ็กซ้ายจำเป็นซึ่งก็ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 

สำหรับ กองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก วัย 30 ปี ตอนนี้ยังคงเป็นทั้งพระเอกและผู้ร้าย ส่วน วาราน ก็ไม่แตกต่างกันแถมนักเตะมีแววจะไม่ได้อยู่กับทีมหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งแน่นอนว่าทีมจำเป็นต้องพึ่งพาทั้งสองคนให้ช่วยคุมแนวรับในเวลานี้

แม็กไกวร์ กับ วาราน ต้องพยายามเล่นให้คงเส้นคงวา และแบกรับความรับผิดชอบในเกมรับของทีมให้ดีขึ้นกว่านี้ ฉะนั้นนี่เป็นความรับผิดชอบของ เทน ฮาก ที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าทั้งคู่จะรักษามาตรฐานให้การคุมแนวรับให้เหนียวแน่นที่สุด 

ส่วนอีกรายที่ไม่พูดไม่ได้เลยนั่นก็คือ อ็องเดร โอนาน่า ที่ผลงานเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บางวันก็เหนียวยิ่งกว่ากาวตราช้าง บางวันก็ยืนนิ่งตรงเป็นตุง ถ้าหาก เทน ฮาก ไม่สามารถทำให้ โกลชาวแคเมอรูน คืนฟอร์มเหมือนตอนที่อยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ได้ งานนี้แฟนผีคงคิดถึง เดบิด เด เคอา มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport