ลิเวอร์พูล : ชนะนัดที่200ของJK

การอัดเชลซี 4-1 ด้วยสกอร์และรูปเกม อาจถูกแซวเรื่อง "จุดโทษ" ที่ VAR ไม่ให้  กระนั้นด้วยความสัตย์จริง ถ้าได้จุดโทษ จุดเปลี่ยนอาจเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า

เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ

เอาแบบให้โทษเชลซีสองลูก ลิเวอร์พูลก็ยังชนะ 4-3 ตามหลักความน่าจะเป็น กระนั้นเกมที่มันไม่มีอยู่จริงจากการที่เชลซีไม่โดนลูกโทษ ให้มองว่าวิธีการเล่นเกม ล่าสุดของสองทีมแตกต่างจากเมื่อนัดแรกของซีซั่นที่เสมอ 1-1

เกมนั้นทีมพอช เล่นได้ดีเกินคาดทั้งที่พึ่งเริ่มเกมแรก ขณะที่ทีม JK 2.0 อาจดูเหมือนยังติดขัดๆ ไม่ลงล้อค ดีบ้างเป็นบางตำแหน่งโดยเฉพาะนักเตะใหม่ อเลกซิส แมค อลิสเตอร์และ โดมินิค โซโบสไล

ผ่านมาจนถึง 22 นัดเกมนี้กลายเป็น "จ่าฝูง" และ "เต็งสอง" แชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูลกลับเหนือกว่าในเรื่องวิธีการเล่น ซึ่งก็ไม่แปลกที่สกอร์ออกมาในแบบขาดลอยเหมือนเกมที่ชนะขาดในสนาม

ความพิเศษจากชัยชนะเกมนี้ คือนัดที่200 ในพรีเมียร์ลีกของ  Jurgen Klopp 

-ใครจำได้บ้างว่า เจเค ชนะนัดแรกเกมไหน

เริ่มจากเกมแรกที่คุมตามไทม์ไลน์ทุกถ้วย

17 ต.ค. 2015เสมอ สเปอร์ส0-0 (ย) PL 

22 ต.ค.2015 เสมอ รูบิน คาซาย 1-1 (ห) Europa

25 ต.ค.2015 เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 (ห) PL

28 ต.ค. 2015 ชนะบอร์นมัธ 1-0(ห) ลีกคัพรอบ4

31 ต.ค.2015 ชนะเชลซี 3-1(ย) PL

นักเตะที่มีชือเล่นกับ JK ปีแรกนั้นแล้วยังหลงเหลืออยู่ในตอนนี้มีคนเดียว 

โจ โกเมซ ….

โดยสถิติแล้ว ผ.จ.ก. ลิเวอร์พูลที่ชนะ 200 เกมลีกสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสรมีสี่คนรวมทั้ง คล็อปป์ ด้วย ไล่เรียงจากเก่ามาหาใหม่ โดย เจเค ใช้จำนวนเกมน้อยกว่าทุกคน

ทอม วัตสัน 434 , บิลล์ แชงค์ลีย์ 378, บ๊อบ เพสลีย์ 355 และ คล็อปป์ 318  

เฉพาะในพรีเมียร์ลีกนั้น เป๊ป คือ ผ.จ.ก. ที่คุมทีมด้วยจำนวนเกมน้อยสุดก่อนชนะ 200 นัด ส่วน คล็อปป์ มาอันดับสอง...

เป๊ป 269

คล็อปป์ 318

เซอร์ อเล็กซ์  เฟอร์กูสัน 322

โชเซ มูรินโญ 326

อาร์แซน เวนเกอร์ 332 

ชื่อที่กล่าวมาทั้งหมดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก นั่นเอง 

-คอรเนอร์ แบรดลีย์ “เด็กมีของ”

เป๊ป ไลน์เดอร์ส และ วิตอร์ มาตอส พูดกรอกหู คล็อปป์ ทุกวัน ถึงความเก่งของ คอร์เนอร์ แบรดลีย์ หลังปล่อยให้ โบลตัน ยืมตัว ซึ่งเขายอมรับว่าทีมงานของเขาให้ข้อมูลมาต่อเนื่อง

"ให้เครดิตทีมเยาวชนของพวกเรา สร้าง คอร์เนอร์ มาพร้อมกับหลายคนที่เติบโตขึ้น ยาร์เรล (ควอนซาห์), บ๊อบบี (คลาร์ก) , เจมส์ (แมคคอนเนล) ล่าสุด คอร์เนอร์ ที่เล่นได้น่าประทับใจมาก"

สถิติบอกว่าสองเกมที่เล่นกับนอริชและเชลซี 178 นาที แบรดลีย์ มีส่วนร่วมกับการได้ประตูของลิเวอร์พูล 5 ลูก 

แอสซิสต์ 4 ยิง 1 ล่าสุด

โดยเฉพาะการยิงประตูแรกในสีเสื้อหงส์แดง ในพรีเมียร์ลีก จากการลงเล่นตัวจริงนัดแรกในแอนฟิลด์ ต่อหน้าเดอะ ค็อป ทั้งหลาย 

ตัวเลขนี้สุดยอดจริงๆ

นั่นจึงทำให้นักข่าวถามว่าวันอาทิตย์นี้เจออาร์เซนอล แล้วจะยังไงดี โดยเฉพาะตำแหน่งแบ๊กขวา เลือกใครลงดี

"เดือนม.ค. เรามี 7 เกม และได้พักรวม 11 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ผมไม่รู้ว่าจะวางตัวยังไงตอนนั้นให้เหมาะกับทีม  แบ๊กสองฝั่งเจ็บ, เซนเตอร์ พร้อมแค่สองคน มิดฟิลด์ก็เจ็บอีก"

"ถ้าไม่มีเด็กจากอะเคเดมี ของเรา เราก็ไม่ชนะหรอก"

"เราต้องส่ง เจมส์ เล่นเบอร์หก ซึ่งเขาเล่นดีสุดๆ เรามีเกมอีกสี่วันข้างหน้า ผมยังไม่รู้หรอกว่าจะเลือกใคร ต้องดูว่าใครฟิตดีขนาดไหน แมกก้า มีอาการทีหัวเข่าช่วงครึ่งหลัง กระนั้นในห้องแต่งตัวทุกคนพร้อมมาก"

"บอกเลยว่าผมต้องการทุกคนให้พร้อมเพื่อเจออาร์เซนอล"

-ดาร์วิน นูนเยซ...จะยิงได้แน่

เจเค รับประกันลูกทีมอย่างมั่นใจ แม้โดนสถิติและการวิจารณ์เรื่อง "ความคม" ในการยิง หลังจากมีส่วนซัด 11 ครั้งกระทั่งจุดโทษยังยิงชนเสา เป็นที่มาของเสาและคานสูงสุดในหนึ่งเกม (4 ครั้ง) จากออปต้า สแถต 

เขาบอกหลังเกมว่า "มันเหลือเชื่อที่เขาสร้างโอกาสได้มากมาย ลองคิดดูนะ ถ้าเขายิงเข้าหมด...สกอร์จะออกมาแบบไหน ด้วยตัวเลขที่มันน่าตกใจจนถึงขั้นที่คุณไม่เข้าใจมันอีกต่อไป เรื่องนี้ผมว่าปกติ สิ่งสำคัญคือเราชนะและยิงสี่ลูก ใครจะไปสนใจว่าเราจะยิงห้าหกลูก นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เขาเองแอสซิสต์ ลูกที่สี่ให้เราชนะ 4-1 ลองนึกภาพว่าหากสกอร์ออกมา 3-2 จะมีความต่างแน่นอน ดาร์วิน คือนักเตะที่เราต้องการ"

ไม่ว่าจะโดนติงเรื่องความคมในการจบสกอร์ แต่ช่วงเวลาเดือนหนึ่งที่ไร้ โม ซาลาห์ ดาร์วิน ยิงไป 3 แอสซิสต์ รวมล่าสุดอีก 3 

การมีส่วนร่วมกับทีมถือว่า 8/10 ถ้าจบสกอร์ได้คมกว่านี้เขาจะได้แต้ม 10/10 เลยทีเดียว  

โดยเฉพาะเกมใหญ่กับอาร์เซนอล 4 ก.พ.นี้ 

ดาร์วิน จะมายิงทิ้งขว้างแบบนี้ไม่ได้น้าาา JK ไม่ได้บอกไว้

JACKIE