วิเคราะห์หลังเกม ลิเวอร์พูล พบ อาร์เซน่อล

บิ๊กแมตช์เดิมพันตำแหน่ง “จ่าฝูง” วันคริสต์มาส

ลิเวอร์พูลต้อนรับอาร์เซนอลในแอนฟิลด์ สนามที่เด็กปืนมักมีปัญหาในการเล่นเพื่อชนะ โดยครั้งล่าสุดที่อาร์เซนอลบุกชนะลิเวอร์พูลถึงแอนฟิลด์ในพรีเมียร์ลีกเกิดขึ้นเมื่อก.ย.2012 ยุค อาร์แซน เวนเกอร์ บุกชนะ2-0 ลูคัส โพดอลสกี้ และ ซานติ กาซอร์ลา ยิง วันนั้น มิเกล อาร์เตต้า เล่นด้วย

เกิดอะไรขึ้นเกมนี้....ติดตามการวิเคราะห์ได้ครับ

1 หงส์ปรับตัวผู้เล่น ปืนชุดเดิม

หลังชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในลีก คัพ เจอร์เก้น คลอปป์ ทั้งหมุนและเลือกนักเตะใช้งาน โกนาเต้ ยืนกลับ ฟานไดจ์ โดยเฉพาะแดนกลางนั้นเลือก เคอร์ติส โจนส์ ยืนกับ โซโบสไล และ เอ็นโด ส่วนข้างหน้า พัก ดาร์วิน นูนเญซ ใช้ ลุยส์ ดิอาส , โคดี กัคโป และ โม ซาลาห์ 

มิเกล อาร์เตต้า ใช้ชุดเดิมจากสัปดาห์ที่แล้ว แบ๊กโฟร์ เบน ไวท์, กาเบรียล,ซาลีบา, ซินเชนโก ; เดแคลน ไรซ์, โอเดการ์ด, ฮาแวร์ตส์ ; ซาก้า, เชซุส, มาร์ติเนลลี 

2 หงส์โดนนำก่อนอีกแล้ว

3 นาทีแรก ปืนเพรสหนักทันที ได้ยิง3 ครั้ง

แฉลบออก,เตะมุมโหม่งเข้ามือ เบคเกอร์ ครั้ง3 ฟรีคิก เข้าหัว กาเบรียล ประตูแรกในซีซั่นนี้ จังหวะนี้ โกนาเต้ ตัวประกบปล่อยหลุดมาโหม่ง!!!

นี่คือการโดนยิงนำก่อนเป็นเกมที่9 

น.3 เซเมโด บอร์นมัธนำ 1-0  ก่อนชนะ3-1

น.25 กอร์ดอน นิวคาสเซิล นำ1-0 ชนะ2-1

น.7 ฮวาง ฮี ชาน วูล์ฟส์ นำ1-0 ชนะ3-1

น.36 ซน ฮึง มิน สเปอร์ส นำ1-0 ไก่ชนะ2-1

น.20 อาดริงก้า ไบรท์ตัน นำ1-0 เสมอ2-2

น.80 ชง ลูตันนำ 1-0 เสมอ1-1

น.27 ฮาลันด์ แมนฯซิตี้ นำ 1-0 เสมอ 1-1 

น. 57 มาเตต้า พาเลซ นำ1-0 ชนะ2-1 

น.4 กาเบรียล อาร์เซนอล นำ1-0  เสมอ 1-1

นั่นเท่ากับลิเวอร์พูล โดนยิงก่อน 9 นัด พลิกกลับมาได้แต้ม 16 แต้มจาก 27 คะแนน 

3 โม ชอบยิงปืน

ลูกตีเสมอ 1-1 น.29 ของโม ซาล่าห์ คือลูกที่10 ที่เขายิง อาร์เซนอล เกิดจากการเปิดบอลยาวของ เทรนต์ ข้ามไลน์ หลัง ซินเชนโก้ ถึง ซาลาห์ ก่อนเข้าเขตโทษ แตะหลอก แล้วยิงยัดเสาแรก 

โม ยิง แมนฯซิตี้,แมนฯยูฯ และ อาร์เซนอล 10+ 

ที่น่าทึ่งประตูแรกในอังกฤษของเขาสมัยเล่นให้เชลซี คือยิงอาร์เซนอล!! 

4 โอเดการ์ด "แฮนด์บอล"

ภาพช้าหลายมุมเป็นจังหวะลื่นก็จริงแต่มือนั้นตบบอล จังหวะนี้ ไมเคิล โอเว่น กระทั่ง เอียน ไรท์ ตำนานดาวยิงอาร์เซนอล บอกว่า "จุดโทษ" แน่นอน ไม่มี วีเออาร์ 

5 บอลสนุกและปืนไม่เนี้ยบแดนสอง

ครึ่งแรกกลายเป็นบอลที่เปิดแลกกัน และผลัดกันบุก จึงเห็นการเสียบอลเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ทีมที่เสียบอลมากกว่ากลายเป็นอาร์เซนอล ที่ดูเหมือนเกร็งๆ และไม่ไหลลื่น แดนสองนั้นเด็กหงส์เข้าหาบอลเร็ว ทำให้เด็กปืนออกบอลยาก และการเพรสแย่งบอลของเด็กหงส์ทำได้ดีกว่าหลายนัดที่ผ่านมา

6 ต้นครึ่งหลังหงส์ดุดัน

10 นาทีเต็มๆที่เด็กหงส์ไล่เพรสแดนบนและแดนสอง จนเด็กปืนออกบอลไม่ได้ เสียบอลบ่อย จนเด็กหงส์พาไปยิง แต่ก็ไม่สามารถฉวยโอกาสยิงนำได้ จากนั้นเกมของปืนกลับมาตั้งหลักได้ แต่ก็มีปัญหาตรงที่ ซากา กับ มาร์ติเนลลี มีส่วนกับเกมรุกด้านข้างน้อย

7 ซากา&มาติเนลลี เงียบ

ประสิทธิภาพเกมรุกของปืนริมเส้นจากสองคนนี้ ลดลงโดยเฉพาะ มาร์ติเนลลี ไม่ผ่าน โกนาเต้ ง่ายๆ จนโดนเปลี่ยนตัวออกและส่ง ทรอสซาร์ ลงมาแทน และเมื่อเปลียน เอนเคเทียร์ ลงมาอีกคน ทำให้ ซาก้า มีบทบาทมากขึ้นช่วงท้ายเกม 

8 เจเค ปรับ ซาลาห์หน้าเป้า

การส่งตัวสำรองลงมาสามคน ทั้ง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, ดาร์วิน นูนเยส และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ทำให้ เจเค ปรับตำแหน่งขยับ ซาล่า เล่นหน้าเป้า  เอลเลียตต์ ขวา

ดาร์วิน ซ้าย มิดฟิลด์ จึงเป็น เอนโด, กราเฟนแบร์ก และ โซโบสไล 

9 เทรนต์ แม่นคาน

มีจังหวะสวนกลับที่ อาร์เซนอลบุกแล้วเสียบอลหน้าเขตโทษ ซาลาห์ พาบอล พร้อมห้านักเตะลิเวอร์พูล เด็กปืนใหญ่เหลือ ไรส์ คนเดียว ก่อน ซาลาห์ ไหลนิ่มๆ เทรนต์ ยิงชนคาน (ภาพช้าบอลกระดอนเล็กน้อย) พลาดโอกาสขึ้นนำ 

เกมช่วงท้ายก็ไม่มีใครเฉียบขาดพอในจังหวะเดินเกมรุก ก็เหมาะสมสำหรับการแบ่งแต้มกันไป 

ผลเสมอแบ่งกันทีมละหนึ่งแต้ม ทำให้อาร์เซนอลขึ้น "จ่าฝูง" ด้วยแต้มเดียว

ในเกมที่สู้กันได้สนุก ทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะเจ้าบ้านนั้น เล่นด้วยความทุ่มเท มุ่งมั่น ไล่เพรส เพื่อไม่ให้อาร์เซนอลคุมเกมและครองบอลได้ง่ายๆ ยกระดับมาตรฐานและนับว่าเป็นที่หงส์แดงเล่นได้ดีนัดหนึ่งของซีซั่นเมื่อต้องวัดคุณภาพกับทีมกลุ่มผู้นำด้วยกัน

ขณะที่อาร์เซนอล...เป็นอีกครั้งหนึ่งแล้วที่พวกเขาเป็น "จ่าฝูง" วันคริสต์มาส สองฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งตัวเลข 16 ครั้งของ "จ่าฝูง" วันคริสต์มาส ยุคพรีเมียร์ลีก ได้แชมป์เมื่อจบฤดูกาล

ส่วน "ปืนใหญ่" จะไปถึงฝั่งฝันนั้นมั้ย.....ลองเช็คข้อมูลด้านล่างนี้

"จ่าฝูง" วันคริสต์มาส - เมื่อจบฤดูกาล

1993: นอริช - อันดับ3 

1994:  แมนฯยูฯ แชมป์

1995: แบลคเบิร์น แชมป์

1996: นิวคาสเซิล รองแชมป์

1997: ลิเวอร์พูล

1998: แมนฯยูฯ รองแชมป์

1999: แอสตัน วิลล่า - ที่6 

2000: ลีดส์ ที่3

2001: แมนฯยูฯ - แชมป์ 

2002: นิวคาสเซิล ที่4

2003: อาร์เซนอล รองแชมป์

2004: แมนฯยูฯ ที่3

2005: เชลซี แชมป์

2006: เชลซี -  แชมป์

2007: แมนฯยูฯ -  แชมป์

2008: อาร์เซนอล -  ที่3

2009: ลิเวอร์พูล -  รองแชมป์

2010: เชลซี -  แชมป์

2011: แมนฯยูฯ - แชมป์

2012: แมนฯซิตี้ - แชมป์

2013: แมนฯยูฯ - แชมป์

2014: ลิเวอร์พูล -  รองแชมป์

2015: เชลซี - แชมป์

2016: เลสเตอร์ - แชมป์

2017: เชลซี - แชมป์

2018: แมนฯซิตี้ - แชมป์

2019: ลิเวอร์พูล - รองแชมป์

2020: ลิเวอร์พูล - แชมป์

2021: ลิเวอร์พูล - ที่3 

2022: แมนฯซิตี้ - แชมป์

2023: อาร์เซนอล - รองแชมป์

2024 ; อาร์เซนอล ......?


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport