เจ้าหนูไมนูได้พิสูจน์อีกเกม, โอกาสโอนาน่ายังมีไหม?เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกม แมนยู เยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

เอริค เทน ฮาก ต้องกลับมากระตุ้นลูกทีมให้รีดฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ เพราะแมตช์นี้ทีมต้องไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคมนี้ โดย "ผีแดง" อาจจะอยู่ในช่วงใจเสียเนื่องจากเพิ่งบุกไปเสมอ กาลาตาซาราย ทำให้สถานการณ์ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ร่อแร่เต็มที ขณะเดียวกัน อ็องเดร โอนาน่า ดูเหมือนจะต้องพยายามทำผลงานให้ดีขึ้นหลังเล่นผิดพลาดจนทำให้ทีมเสียหาย ส่วนสิ่งดีๆ ที่สาวก "เร้ด อาร์มี่" อยากเห็นก็คือ ค็อบบี้ ไมนู ได้รับโอกาสลงสนาม เพราะนี่คือผู้เล่นดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยม และเป็นความหวังใหม่ในแผงมิดฟิลด์ของทีม ส่วนเจ้าบ้านสิ่งที่่ย่ำแย่ก็คือขาดผู้เล่นถึง 11 คนจากอาการบาดเจ็บและติดโทษแบน แต่จุดที่โดดเด่นของพวกเขาก็คือการเล่นเป็นทีม และทุกครั้งที่ได้เล่นในบ้านมักจะจัดการคู่แข่งได้หมด โดยไม่สนว่าจะเป็นทีมเล็กหรือทีมใหญ่ !!

1. ค็อบบี้ ไมนู พร้อมดวล นิวคาสเซิ่ล

ดูเหมือนว่า เทน ฮาก จะไว้วางใจ ค็อบบี้ ไมนู มากขึ้นเรื่อยๆ จากฟอร์มในเกมลีกเดบิวต์ถลุง เอฟเวอร์ตัน มาสู่การบุก "นรกสำหรับทีมเยือน" แมตช์กับ กาลาตาซาราย คาดว่าเจ้าหนูดาวรุ่งวัย 18 ปีคงจะได้ลงสนามในเกมเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ไมนู แสดงให้เห็นการเล่นที่มีความนิ่ง และทักษะยอดเยี่ยม ที่สำคัญแม้จะอายุยังละอ่อนแต่สามารถรับแรงกดดันได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งนี้เป็นคุณสมบัติที่ กุนซือชาวดัตช์ ต้องการจากนักเตะของเขา และ ไมนู ตอบโจทย์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ฉะนั้นในแผงมิดฟิลด์ต้องมีชื่อของแข้งรายนี้รวมอยู่ด้วย

การไปเยือนถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค ถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญสำหรับ ไมนู ว่าจะสามารถยืนระยะในตำแหน่งตัวหลักในแผงกองกลางของ "เร้ด เดวิลส์ " ได้ไหม แต่เชื่อว่า เทน ฮาก คงให้โอกาสเขาอย่างต่อเนื่อง เพราะหากมองฟอร์มโดยรวมตอนนี้ ไมนู น่าจะดีกว่า กาเซมีโร่ หลายเท่าในฤดูกาลนี้ 

2. นิวคาสเซิ่ล ยวบ

เอ็ดดี้ ฮาว แอนด์ โค. ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมเสมอ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-1 ซึ่งพวกเขาน่าจะชนะด้วยซ้ำแต่จากการตัดสินที่ผิดพลาดของกรรมการในห้อง "วีเออาร์" ทำให้ทีมเสียจุดโทษแบบไม่น่าเสีย และทำให้สถานการณ์ของทีมต้องลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมแชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างหนักหนาสาหัสในแมตช์สุดท้าย

นอกจากจะผิดหวังกับเกมกลางสัปดาห์แล้ว พวกเขายังเจอข่าวร้ายอีก เพราะทีมจะไร้ถึง 11 นักเตะลงเจอ "ปีศาจแดง" หลัง ฌอน ลองสตาฟฟ์ และ โจ วิลล็อค เป็นสองรายล่าสุดที่เข้าลิสต์แข้งเจ็บต่อจาก ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, สเวน บอตมัน, คัลลัม วิลสัน, จาค็อบ เมอร์ฟี่, แดน เบิร์น, เอลเลียต อันเดอร์สัน, แม็ตต์ ทาร์เกตต์ และ ฆาเบียร์ มานกีโย่ ขณะที่ ซานโดร โตนาลี่ ติดโทษแบน 10 เดือนฐานเล่นพนันฟุตบอล

อย่างไรก็ตามสำหรับการเล่นในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค ต้องบอกว่าพวกเขาทำผลงานได้ดีมากๆ โดย 8 แมตช์หลังสุดในทุกรายการทีมแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้น ที่เหลือเก็บชัยเรียบวุธ แต่ถ้านับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกพวกเขาเก็บชัยชนะ 5 แมตช์ติดต่อกันเกมเหย้านับตั้งแต่ที่พ่าย ลิเวอร์พูล เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ทั้ง อาร์เซน่อล และ เชลซี เคยตกเป็นเหยื่อทัพ "สาลิกาดง" มาแล้วในการบุกเยือนถิ่นอีสาน ที่สำคัญแมตช์ที่ชนะ "สิงโตน้ำเงินคราม" พวกเขาร่ายมนต์เพลง "เดอะ แม็กพายส์" อัดยับไม่นับญาติ เชลซี 4-1 ซึ่งนี่เป็นสัญญาณเตือน แมนฯ ยูฯ ว่าการมาที่นี่และหวังแต้มกลับบ้านคงไม่ง่ายแน่นอน

3. เกมเยือนแมนยูโดดเด่น

ปกติแล้วการเล่นในบ้านย่อมทำให้ทีมได้เปรียบ แต่ไม่ใช่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ เพราะพวกเขาทำผลงานเกมลีกในบ้านไม่ดีเลย สวนทางกับการลงสนามในฐานะอาคันตุกะ เพราะทีมสามารถเก็บชัยชนะได้เป็นกอบเป็นกำในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

หากดูจากสถิติในช่วงปี 2023 แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะได้แค่ 3 จาก 12 เกมเยือนในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี (แพ้ 2 เสมอ 7) อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ฟอร์มการเล่นเป็นทีมเยือนในลีกของ "ปีศาจแดง" ถือว่าน่าประทับใจล่าสุดก็เก็บชัยชนะ 4 แมตช์รวด

ก่อนหน้านี้ เทน ฮาก เคยออกมาพูดว่า แมนฯ ยูฯ เป็นสโมสรที่ทำผลงานในการเล่นเกมเยือนได้ดีเยี่ยมสำหรับซีซั่นนี้ ซึ่งก็ถือว่าไม่ผิด เพราะตอนนี้ทีมดูเหมือนจะปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะสร้างสรรค์เกมแม้จะต้องออกเดินทางไปเล่นนอกบ้านก็ตาม 

4. โอกาสของ โอนาน่า

ตอนนี้เสียงวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นของ อ็องเดร โอนาน่า เริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังจบเกมที่บุกเสมอ กาลาตาซาราย ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นักเตะกลายเป็นแพะรับบาปอย่างชัดเจนจากความผิดพลาดทั้ง 3 ประตูที่ทัพ "ปีศาจแดง" เสียไป 

สองประตูจากความผิดพลาดในการป้องกับลูกฟรีคิก และอีกประตูจากการยืนตำแหน่งไม่ดี นั่นก็มากพอที่จะทำให้ สตาร์นายทวารทีมชาติแคเมอรูน จะโดน "ทัวร์" ลงอย่างหนัก และสิ่งเหล่านี้ยิ่งเป็นการบั่นทอนความมั่นใจของเขาด้วย

อย่างไรก็ตาม เทน ฮาก ประกาศจุดยืนชัดเจนว่ายังคงไว้วางใจให้ โอนาน่า ทำหน้าที่มือ 1 ต่อไป พร้อมกับมีเหตุผลมารองรับนั่นก็คือสถิติของ นายทวารชาวแคเมอรูน ที่ป้องกันประตูได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ เป็นรองเพียง โธมัส คามินสกี้ ผู้รักษาประตูจอมหนึบลูตัน ทาวน์ เท่านั้น

การที่ เทน ฮาก ออกมาพูดแบบนี้ด้วยการยกสถิติมารองรับไม่ใช่เรื่องผิด เพราะนี่คือจิตวิทยาสำคัญในการทำให้ โอนาน่า กลับมามีสมาธิ และความมั่นใจอีกครั้ง เพราะ กุนซือชาวดัตช์ เชื่อว่านักเตะคนนี้มีผลงานที่สามารถช่วยทีมได้ในแมตช์เยือน นิวคาสเซิ่ล 

5. ชัยชนะคืนโอกาสลุ้นแชมป์ลีก

แมนฯ ยูฯ ต้องการชัยชนะในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล อย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นการเรียกความมั่นใจแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่จะทำให้พวกเขากลับมามีลุ้นแชมป์ลีกทันที ถ้าเกิดในกรณีที่ทีมหัวตารางดันทำผลงานสะดุด

ปัจจุบัน "ปีศาจแดง" เก็บได้ 24 คะแนน รั้งอันดับ 6 ในตารางลีก โดยมีคะแนนห่างจาก "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล จ่าฝูง เพียง 6 คะแนนเท่านั้น ดังนั้นหาก เทน ฮาก แอนด์ โค. สามารถบุกมาคว้า 3 แต้มสุดล้ำค่านี้ได้สำเร็จ มันจะทำให้บรรดาแฟนผีโปรเจกต์สามารถวาดฝันถึงแชมป์ลีกที่ไม่ได้มาครอบครองนาน 1 ทศวรรษ

กระนั้นทางฝั่งของ นิวคาสเซิ่ล ก็ต้องการสามคะแนนเช่นกัน เพราะตอนนี้พวกเขารั้งอันดับ 7 มี 23 คะแนนห่างจาก "เดอะ กันเนอร์ส" แค่ 7 แต้มเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ชัยชนะจึงมีความหมายกับทั้งสองทีมอย่างมาก เพราะอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนชี้ชะตาเกมลีกได้เลยทีเดียว

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport