แมนซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล : หนึ่งแต้มใหญ่ กำลังใจเด็กหงส์

เปอร์เซ็นต์การครองบอลจากพรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่า 60 : 40 , ในขณะเว็บไลฟ์สกอร์ ให้ 61 : 39 % นั่นก็ทรงเดิมๆ จากที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ พาลูกทีมมาเยือนเอติฮัด ปลายซีซั่นก่อน

ทว่า เรารู้กันตั้งแต่ก่อน ซูปเปอร์ บิ๊กแม็ตช์ แล้วว่า คงต้องเป็นทรงแบบนี้ รวมทั้งโอกาสเข้าทำ เจ้าบ้านต้องเหนือกว่า

เพียงแต่ สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ก็คือ มีโมเมนต์ ของตัวเองบ้าง ซึ่งในที่สุดก็ค้นหาจนเจอ เมื่อฟูลแบ๊คที่ได้บทเคลื่อนที่อิสระ คุณเทรนต์ สอดขึ้นมาซัดลูกตีเสมอ ‘สุดล้ำค่า’ ฮะ

มาดูจุดโน้นนี้ ที่ใครคนนี้เพ่งไปที่ ลิเวอร์พูล หลังจากได้ “หนึ่งแต้มใหญ่” กันดูครับ ..

1. เคอร์ติส โจนส์ น้องเอ๋ย !

บางที สำหรับแฟนหงส์ไม่น้อย,  มิดฟิลด์วัย 22 ปีนี่ ผิด ตั้งแต่มีชื่อในสตาร์ตติ้ง ไลน์-อัพ เกมใหญ่สุดในลีกอังกฤษ สำหรับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ เจอร์เก้น คล็อปป์  ถ้ามองการบดบี้กันมาหลายปี และมาเจอกันในแม็ตช์ที่สิบสาม ก็ดันในสถานะ จ่าฝูง & รองจ่าฝูง ห่างกันแค่แต้มเดียวอีก

ผมเองก็แปลกใจ อาจเพราะ วาตารุ เอ็นโด้ ในการลงตัวจริงเกมก่อนกับ เบรนท์ฟอร์ด พอจะมีอะไรในแง่บวกให้พูดถึง หากก็เข้าใจได้ว่า ไม่น่าจะอุ่นใจเมื่อต้องเจอซิตี้, ในขณะ ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ก เพิ่งฟื้นจากการบาดเจ็บ ถนอมอีกหน่อยดีไหม   หรือไม่ก็คิดเป็นหมากเซอร์ไพรส์เลย ให้ช่วยไล่แดนบน

จะอะไรก็แล้วแต่ น้องโจนส์ ก็ไม่เหมือนพี่เทรนต์ ก้าวไม่ผ่านเสียที ลองดูจังหวะนิดหน่อยที่ใครคนนี้จดไว้นะครับ ..

-เด่นเลย ได้บอลในกรอบเขตโทษ เล่นช้าเหมือนเคย จนโดน เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ มาบีบ แล้วก็ทำให้ อลีสซง เบ๊คเกอร์ เล่นยาก  ยิ่งอาลี เพิ่งเล่นพลาดมาด้วย  —- นายโจนส์ ก็จะปั้นให้เพื่อนอีก  โถ โถ

-ได้บอลไม่ไกลจากเขตโทษคู่แข่ง จ่ายเสีย แล้วโดน แบร์นาร์โด้ ซิลวา ตัวแสบ ม้วนหนีผู้เล่นลิเวอร์พูล ก่อนเปิดบอลขึ้นมา และได้คุกคามพื้นที่สุดท้ายกัน

-ประตูตีเสมอ 1-1 ของลิเวอร์พูล จากจังหวะเกือบจะโดนก่อน เป็น อาลี ที่เซฟ ฮาลันด์ ได้ , พอบอลมาถึงเท้า กราเฟนเบิร์ก แล้วลากขึ้นมา ผ่านโรดรี้  ก่อนจ่ายไปให้ หลุยส์ ดิอ๊าซ  —- ถ้าเปลี่ยนเป็น โจนส์ จะเลี้ยงได้แบบนั้นมั้ย ?

คือกราเฟนเบิร์ก ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนักหรอก แต่ 53 นาที ในสนามของ โจนส์ นั้นแย่กว่า และครึ่งแรกเห็นโจนส์ เลี้ยงบอลขึ้นมาลักษณะนี้เหมือนกัน โดนตัดแย่งบอลไปง่ายชะมัด

หรือแฟนหงส์ ควรคิดว่า โจนส์ ก็คือโจนส์  หรือไม่ก็มองว่า เพิ่งกลับมา  ฮ่า-ฮ่า

2.)เทรนต์ เจอ โดกู


ปกติ แบ๊คขวา กับปีกซ้าย คู่แข่ง ถ้าต้องเจอกันตลอดเกม แล้วคุณให้คะแนนสักคนสูงถึง 8 (เต็มสิบ) ถ้าไม่ได้ดูเกม ก็อาจจะคิดง่ายๆ เลยว่า อีกคนต้องได้คะแนนต่ำ

หากนี่เป็นเกมที่ เทรนต์ก็เด่น เฌเรมี่ โดกู ตัวจี้ดทีมชาติเบลเยี่ยม ก็โชว์คลาส โชว์ความเร็ว คุกคามให้เห็น

ผมนั้นติดภาพว่า เจอกันต้นเมษายน แจ็ค กรีลิช ป่วนเทรนต์ ป่วนหงส์  และดูตัวคาดของ อีฟนิ่ง แสตนดาร์ด สื่ออังกฤษ ก็เลือกแจ็ค ไว้ก่อน ..

พอชื่อออกไม่มีแม้กระทั่งตัวสำรอง  (เรือใบเห็นส่งชื่อแค่ 8 ตัว มีตัวอย่าง ออสการ์ บ๊อบบ์ ที่ทำให้เราต้องฉงนด้วย ปรากฎ แจ็คป่วย,  แต่ถ้าดูว่า ซีซั่นนี้ จอมลากเลื้อยวัย 28 ปี โดนจำกัดโอกาสลงตัวจริงเกมพรีเมียร์ลีกเพียงแค่เจ็ดนัด  อยู่กันครบๆ นี่ เป๊ป ก็อาจเลือกแบบที่เห็นนี่ อยู่ดีก็ได้

ถ้าเพื่อนเรือใบคมๆ กว่านี้ คงได้เห็น โดกู มีชื่อเป็นคนทำแอสซิสต์ในเกมนี้ สักลูกไปแล้ว ขณะเทรนต์  อาจจะพลาดกับการเสียประตู เขาและ โดมินิค โซบอสไล ไม่ควรปล่อยให้ นาธาน อาเค่ หลุดง่ายไปหน่อย หากการเผชิญหน้ากับ โดกู หลายครั้งเทรนต์ ก็ทำได้ดีนะครับ เพียงแต่คุณภาพของคู่แข่ง และบทที่ให้เทรนต์เล่นนั้น  คุณไม่สามารถจำกัดการคุกคามโดกู ได้ทุกครั้งหรอก

3)อย่าจุ้นกับ ดาร์วิน + อาลี


งงกันเป็นแถว จบเกม คล็อปป์ ต้องเป็นคนห้ามทัพ เมื่อลูกทีม ดาร์วิน นูนเญซ เดินไปพูดอะไรใส่เป๊ป 

เกมนี้ อาจมีคนเปรียบเทียบว่า “นี่งัย ทำไม ฮาลันด์ ถึงได้แตกต่าง ถึงได้เป็นเวิลด์ คลาส ?”

ต้องไม่ลืมว่า ดาร์วิน นูนเญซ เพิ่งยิงต่อเนื่องให้อุรุกวัย ในเวิลด์ คัพ รอบคัดเลือกนะครับ พอกลับมาลงเตะพรีเมียร์ลีกที่เอติฮัด  มีจังหวะเปรียบเทียบกับ ประตูที่ฮาลันด์ กลายเป็นคนที่ยิงถึง 50 ประตูในพรีเมียร์ลีกเร็วสุด (แค่ 48 เกม เก่ง, อันนี้ไม่เถียง)

คลาสของ ฮาลันด์ นั้น ในวันนี้ต้องยอมรับว่าเหนือกว่าใครใคร แต่ ดาร์วิน มีคุณสมบัติหลายอย่างที่สามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นศูนย์หน้าเวิลด์ คลาส แน่นอนครับ

การไปต่อว่าเป๊ป อาจจะดูไม่เหมาะสม แต่บางที เป๊ป ก็ต้องมองตัวเองบ้าง, จำไม่ได้เหรอ เจอกันหนก่อนที่นี่ เป๊ป ดันฉลองประตูแบบไม่เหมาะสม เมื่อตัวสำรองลิเวอร์พูล เดินผ่าน  (บ้าไปแล้ว จะฉลองประตูกับคู่แข่ง)

ส่วน อลิซง เบ๊คเกอร์  ทำผิดอย่างไรแฟนหงส์ก็ไม่สามารถโกรธได้ครับ  เซฟช่วยทีมมานักต่อนักแล้ว  และต้องโทษวิธีการเล่นของฟุตบอลปัจจุบัน

เห็นเพื่อนร่วมชาติ เอแดร์ซอน จ่ายบอลทะลุ แนวนักเตะหงส์ที่ขึ้นไปเพรสแดนบน 6-7 ให้แบร์นาร์โด้ ซิลวา  แล้ว ต้องยอมรับว่า ประตูเรือใบนี่แน่นอนกว่าในการใช้เท้า

หากไอ้ที่ อาลี จะรีบเตะเร็วให้ โม ซาล่าห์ นั้น ก็ทำมาบ่อยในอดีต และเป็นจังหวะที่น่าเล่นชะมัด เพียงแต่เตะบอลไม่ดีพอ ลอยโด่งแค่กลางแดนตัวเอง แล้วอาเค่ เอากลับมาเจาะได้

4)ไม่ต้องเล่นเพรสสูงกับเรือใบได้ไหม ?


คือจากลูก เอแดร์ซอน จ่ายให้ แบร์นาร์โด้ และเห็นมาตลอดการเจอกัน  ถ้าจะคิดไล่เรือใบนี่ ดูจะกลายเป็นเสียเปล่านะครับ เปิดพื้นที่ให้บอลถึง แบร์นาร์โด้, โรดรี้ เป็นช่องง่ายด้วย

หากเป็นคล็อปป์ หรือ แอนจ์ กุนซือสเปอร์ส ก็จะยึดกับสไตล์ แท็คติกของตัวเอง แล้วบอกว่า “ก็กูจะเล่นแบบนี้”  (อันนี้ ใครคนนี้คิดแทน ฮ่า)

สรุปแล้ว การออกจากเอติฮัด ครั้งนี้ แม้ไม่ชนะ แต่ทั้งได้แต้มที่ล้ำค่า แล้วยังได้พลังใจในการลุ้นแชมป์ยาวๆ ได้ขอรับ

สรุปแล้ว ไม่ว่าจะใช้ เคอร์ติส โจนส์  ไม่ว่าจะเล่นแท็คติกแบบไหน เราไม่ได้รู้ดีกว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ หรอกครับ ถ้ารักชอบก็เชียร์กันไป  ปีนี้ ลิเวอร์พูล ทรงดีจะตายฮะ

ลิตเติ้ลโจ


ที่มาของภาพ : getty images
BY : ลิตเติ้ลโจ
สุรศักดิ์ มากทวี
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport