SiSeñor ! งานเลี้ยงที่ไม่มีวันเลิกรา ! ตำนานหน้าปลอมที่สุดยอด !

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน ปิดฉากอำลาเดอะ ค็อป อย่างเป็นทางการกับนัดสุดท้ายในแอนฟิลด์ ท่ามกลาง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และหยดน้ำตา กลั่นออกมาด้วยความรักและความสุขใจ

ไม่ใช่ความเศร้าหรืออาลัยรัก เพราะนักเตะมาแล้วก็จากไป แต่อาการเหล่านี้มันคือคำขอบคุณต่อผลงานตลอด7 ฤดูกาลของเขาที่สร้างเอาไว้ให้เป็นที่ประจักษ์

ผมเขียนเรื่องนี้อย่างละเอียดในน.ส.พ สตาร์ซอคเก้อ ส่วนในเพจแค่อยากให้ทันเหตุการณ์ เท่านั้น เพราะหลังจบเกมกับแอสตัน วิลล่า มันคือการอำลาอย่างเป็นทางการต่อเดอะ ค็อปในแอนฟิลด์….

บ๊อบบี เก่งอย่างไร


เจอร์เก้น  คลอปป์ พูดเอาไว้เมื่อครั้งแรกที่เรียกประชุมทีม ต.ค. 2015 เขายกย่อง บ๊อบบี ว่า…

"คุณไม่เข้าใจหรอกว่าเขาดีอย่างไร"

บ๊อบบี มาลิเวอร์พูลก่อน เจอร์เก้น คลอปป์ 4 เดือน ภายใต้การทำงานของ อดีตผ.อ. กีฬาของทีม ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์, เดฟ ฟอลโลว์ หัวหน้าฝ่ายคัดเลือกนักเตะ และ หัวหน้าฝ่ายแมวมอง แบร์รี ฮันเตอร์ พร้อมทั้ง เอียน อายร์ ซีอีโอ ในตอนนั้น ต่างพากันเดินทางไปปิดดีลที่อเมริกาใต้ ช่วงที่ บ๊อบบี รับใช้ทีมชาติ ก่อนได้ตัวมาในวงเงิน 29 ล้านปอนด์ 24มิ.ย. 2015 

เบรนดัน รอดเจอร์ส ก็โอเคกับชื่อของ บ๊อบบี ด้วย นั่นรวมทั้ง คริสติยง เบนเตเก้ มา 32.5 ล้านปอนด์ อีกหนึ่งราย

นัดแรก บ๊อบบี ลงเล่นในฐานะตัวสำรองแทน จอร์ดอน ไอบ์ ซึ่งยืนด้านขวาในช่วง12 นาทีสุดท้าย เกมนั้นหงส์แดงบุกชนะ สโตค ซิตี้ 1-0 ส่วนตัวจริงนัดแรกนั้นคือ เกมเสมออาร์เซนอล 0-0 เล่นไปชั่วโมงกว่าๆ ในตำแหน่งปีกขวา ระบบ 4-3-3  

ช่วงแรกคือการปรับตัวกับรูปแบบการเล่นของ  รอดเจอร์ส ที่มักให้เขาเล่นด้านข้างเป็นหลัก

เขาปรับตัวกับ รอดเจอร์ส ก่อนและหลังโดนปลดแค่หกนัดเท่านั้นเอง และไม่ได้เล่นตัวจริงแค่สามนัด ที่เหลือสำรอง จนเจ็บไปเกือบเดือน กลับมาอีกครั้งช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงช่วง เจอร์เก้น คลอปป์ มันเหมือนการพบรักกันระหว่างโค้ชกับนักเตะแน่นอน

นัดแรกที่เล่นให้ เจเค คือช่วงปลายเดือนต.ค. เสมอเซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 ยังเล่นด้านข้างอยู่เพราะ ศูนย์หน้าเกมนั้นคือ คริสติยง เบนเตเก้ ที่ลงมาแทน โอริกิ นั่นคือการร่วมงานกับ เจเค เกมแรก

นัดต่อมาเขาคือตัวจริง...บุกชนะเชลซี 3-1 เล่นในตำแหน่ง "หน้าเป้า" ครั้งแรก โดยมี มิลเนอร์ กับ คูตินโญ เล่นด้านข้า ระบบ4-2-3-1 โดยแดนกลางนั้นเลือก ลูคัส เลวากับ เอมเร ชาน ยืนเบอร์หกคู่กัน อดัม ลัลลานา เป็นเบอร์สิบ 

จากนั้นงานสร้างของ เจเค เริ่มโดยมี ฟีร์มีโน เป็นส่วนหนึ่งในเกมรุกกับไอเดีย เคาน์เตอร์ เพรส ที่มาเกิดผลมากขึ้นในซีซั่นต่อมา 2016-17 ที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นกับระบบ 4-3-3  

เมื่อ เจเค ซื้อ ซาดิโอ มาเน มาจากเซาธ์แฮมป์ตัน ทำให้สามประสานของทีมคือ มาเน, บ๊อบบี และ คูตินโญ.....ก่อนที่ปี2017 โม ซาล่าห์ จะเข้ามาเติมเต็มระบบหน้า3 อันสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล

นี่คือหน้า3 ที่กวาดทุกแชมป์ในยุคของ JK โดยมี บ๊อบบี้เป็นส่วนหนึ่งในนั้น

หากจะมีอะไรให้บ่งบอกถึงความเป็น บ๊อบบี้

ผมคัดเลือกได้ 5 ข้อ ดังต่อไปนี้ 

1 เทคนิคดี ครองบอลและเก็บบอลได้ดี

2 ผ่านบอลแม่น โดยเฉพาะแดนสาม

3 ในฐานะ "หน้าปลอม" จะถอนลงมาเป็นเบอร์สิบ และสามารถเพรสซิงแดนบน กับแดนสอง ในรูปแบบ เคาน์เตอร์ เพรส ได้ดีบีบให้คู่แข่งคายบอลและทำบอลเสีย เป็นแทกติกที่ชัดเจนของ คลอปป์

4 ความมุ่งมั่นเกินร้อย ทุ่มเททุกเกม + no look 

5  หิน-เหล็ก-ไฟ ตั้งแต่เล่นด้วยกัน 2017-18  สามคนนี้กลายเป็นสามประสานในแนวรุกชุดประวัติศาสตร์ เมื่อ โม ซาลาห์ มาจากโรมา จนถึงเกมล่าสุดที่เล่นด้วยกันสามคนคือ 28 พ.ค. 2022 นัดชิงช.ป.ล นั่นเอง

ทั้งสามคนใช้เวลาร่วมกันในสนามถึง 1,750 วัน

ยิงประตูรวมกัน 338 ลูก... โม 156 , มาเน 107 และ บ๊อบบี 75 

ที่น่าทึ่งคือเฉพาะ...บอลแชมเปี้ยนส์ ลีก 2018 สามคนนี้มีส่วนร่วมทำประตูให้หงส์แดงถึง 29 ลูกมากกว่า โรนัลโด+เบนเซมา+เบล ที่ทำไว้ 28 ลูก

ห้าข้อนี้ที่เป็นหัวใจของเขาและทีมลิเวอร์พูลชุดเจเค ที่คว้าทุกแชมป์สำคัญทั้งการเข้าชิงบอลสโมสรยุโรปสองรายการถึง 4 ครั้ง รวมทั้งคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีกคคร้งแรกรอบ 30 ปี แชมป์ เอฟเอ คัพ, ลีกคัพ,แชมเปี้ยนส์ ลีก, สโมสรโลก, ซุปเปอร์ คัพ...... 

โดยเฉพาะ บ๊อบบี ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ เอาไว้ที่ 109 ลูก 79 แอสซิสต์ ซึ่งการแอสซิสต์ นั้นเขาเป็นรองแค่ เจอร์ราร์ด, แมกก้า และ ซาลาห์ รวมทั้งลงสนามจำนวน 353 แมตช์ (360 ก่อนรอดเจอร์สโดนปลด) ในยุค เจเค มากกว่าทุกคน

มีบันทึกส่วนตัวของเขาเยอะแยะไปหมด ขึ้นกับการแจกแจงงง แต่อะไรก็ไม่เจ๋งเท่ากับการก้าวไปนั่งในใจของสาวกหงส์แดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Si Señor

เสียง เดอะ ค็อป ตะโกนร้องเพลง ที่คิง พาวเวอร์กว่า15 นาทีเต็มๆ ต่อด้วยการร่ำลาครั้งสุดท้ายในแอนฟิลด์

There's something that the kop wants you to know

The best in the world his name is

Bobby Firmino

Our number nine

Give him the ball and he'll score everytime

Si Señor

Pass the ball to Bobby and he'll score

บ๊อบบี เองก็ชื่นชอบและยอมรับว่า "เจ๋งมาก" เพลงนี้ 

เขาบอกว่า “ผมจำไม่ได้ว่าครั้งแรกได้ยินเพลงนี้ที่ไหน แต่รู้ว่าแฟนบอลร้องเพลงนี้เพื่อผม ตัวผมเองมีความสุขมากๆ เพราะมันคือสัญลักษณ์ มันหมายถึงพวกเขารักผม”

“ผมเคยร้องในรถกับครอบครัวเมื่อสองสามวันก่อน ลูกๆของผมขอร้องให้ผมเปิดเพลงนี้และร้องไปด้วยกัน”

การสั่งลา บ๊อบบี ฟีร์มีโน ในแอนฟิลด์ อาจเต็มไปด้วยเสียงสรรเสริญ เยินยอ ต่อการทำหน้าที่ของเขาในสีเสื้อลิเวอร์พูลอย่างครบถ้วน

ขอให้โชคดี และ ขอบคุณอย่างยิ่ง Si Señor

ป.ล. นี่คืองานเขียนครั้งสุดท้ายทางเพจ jackie แล้ว

หลังจากโดนแฮ้กไอจี แล้วลุกลามมาเฟสบุ้ก ไม่สามารถยืนยันตัวตนอะไรได้ แม้จะส่งเรื่องไปสิงคโปร์

จนปลิวไปตามระเบียบ 

โดยผมจะย้ายไปเริ่มต้นใหม่จากยอดแสนคน

เหลือ ศูนย์คน….เพจยังใช้ชื่อ jackie ครับ

ภาพโพรไฟล์ เป็นผมสวมสูทเท่ห์ๆ สีน้ำเงินนั่นเอง

ฝากติดตามด้วยครับ 


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport