ปืนโตสะดุดต่อรอเรือใบ,บู๊ทีมใหญ่ไว้ใจผึ้งน้อย! 5 ข้อ อาร์เซน่อล งานเข้าเจ๊า เบรนท์ฟอร์ด

ฉะนั้นแล้วจึงเป็นเกมที่สองติดต่อกันที่ เดอะ กันเนอร์ส ทำแต้มหกหล่นจากหกแต้มเต็มที่น่าจะคว้ามาได้ พวกเขาเก็บได้แค่แต้มเดียวเท่านั้นซึ่งถือเป็นเรื่องน่าวิตกอยู่เหมือนกันเพราะนัดต่อไปในเกมกลางสัปดาห์ ทีมเมืองกรุงมีคิวต้องเปิดบ้านปะทะกับ แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่าซึ่งเป็นรองจ่าฝูงด้วย

1. ปืนใหญ่ ไม่เข็ดส่งชุดเดิมออกศึก

มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ อาร์เซน่อล วางใจในตัวลูกทีม 11 คนแรกจากเกมก่อนหน้านี้ที่พวกเขาออกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน ทีมรองบ๊วยแบบพลิกความคาดหมาย 1-0

แม้จะเสียท่าให้กับทีม ท๊อฟฟี่สีนำเงิน อย่างน่าช็อก แต่กุนซือสแปนิชยังมั่นใจในตัวนักเตะชุดเดิมเต็มเปี่ยม และที่สำคัญความปราชัยนัดก่อนไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับทีมจ่าฝูงเนื่องจากถัดมาในวันรุ่งขึ้น แมนฯ ซิตี้ ออกไปแพ้ สเปอร์ส 1-0 เช่นกันจนไม่อาจลดช่องว่างของคะแนนจากห้าแต้ม แถมลงสนามมากกว่าทีม ปืนใหญ่ ลงได้

"ผมอยากให้ทีมรู้ว่าผมรักพวกเขา" อาร์เตต้า ประกาศหลังแพ้ เอฟเวอร์ตัน อันนำมาซึ่งการส่งทีมชุดเดิมลงบู๊กับ เบรนท์ฟอร์ด

"ผมรักพวกเขาในตอนนี้มากกว่าเมื่อสามชั่วโมงก่อน สัปดาห์ก่อน เดือนก่อน และสามเดือนก่อน"

ด้วยเหตุนี้ จึงหมายความว่า โธมัส ปาร์เตย์ ได้ลงบู๊แม้จะเกรงกันว่าเขามีปัญหาทางด้านความฟิตเนื่องจากสตาร์ทีมชาติ กาน่า ถูกเปลี่ยตัวออกในช่วงหนึ่งชั่วโมงนัดพ่าย เอฟเวอร์ตัน ขณะที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กับ เบน ไวท์ ก็ได้ออกสตาร์ตแม้จะถูกเปลี่ยนตัวออกที่ กูดิสัน พาร์ค เช่นกัน

2. ผึ้งพิฆาต ปรับทัพสามตำแหน่ง

โธมัส แฟร้งค์ ผู้จัดการทีม เบรนท์ฟอร์ด เปลี่ยนทีม 11 คนแรกสามรายจากเกมที่ขยี้ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0

ขณะเดียวกัน เดอะ บีส์ ส่อเค้าหันมาเล่นในระบบหลังสาม (3-5-2) ด้วยเนื่องจาก คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟได้ลงเล่นในแผงหลัง ขณะที่ วิตาลี่ ฌาเนลท์ กองกลางกับ มัดส์ โรสเลฟ แบ็คขวาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงก่อนหน้า อาร่อน ฮิคกีย์ , โยอัน วิสซ่า และ จอช ดาซิลวา ที่หล่นไปนั่งข้างสนามด้วยกันทั้งหมด

3. ครึ่งแรกเจ้าบ้านมีดีมีแย่

จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล ครองบอลได้มากถึง 70:30% แต่โอกาสยิงประตูเหนือกว่าทีมเยือนไม่มาก 7:6 ครั้งโดยเจ้าถิ่นส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 2:1 ครั้ง

ฉะนั้นแล้ว ทีมของ อาร์เตต้า จึงมีดีแค่การคุมเกม แต่ทีมของ แฟร้งค์  ไม่ได้เป็นรองในแง่ของการสร้างโอกาส และสามารถยันเสมอกับทีมจ่าฝูงได้แบบไม่มีสกอร์

กระนั้นก็ตาม หากจะเลือกมองในแง่ดี อาร์เซน่อล สามารถปิดโอกาสไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามยิงประตูพวกเขาได้ในครึ่งแรกเป็นนัดที่ 16 แล้วจาก 21 นัด และเป็นรองแค่ นิวคาสเซิ่ล ทีมเดียวเนื่องจาก สาลิกาดง ไม่เสียประตูให้ทีมคู่แข่งในครึ่งแรกมากที่สุดในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ 18 นัด

4. ทรอสซาร์ เฮไม่สุดถูก โทนีย์ ทำเซ็ง

ในที่สุด เลอันโดร ทรอสซาร์ สตาร์ใหม่ของ อาร์เซน่อล ก็เปิดบัญชีกดเม็ดแรกในสีเสื้อ เดอะ กันเนอร์ส ได้แล้วหลังย้ายมาจาก ไบรท์ตัน โดยสตาร์ทีมชาติ เบลเยี่ยม น่าจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้ด้วยซ้ำหลังลงมาแทน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และทำประตูได้ในนาทีที่ 66

อย่างไรก็ดี เบรนท์ฟอร์ด มาได้ประตูตีเสมอจากตัวตึงประจำทีม ไอแวน โทนีย์ ในนาทีที่ 77 ซึ่งเป็นการแบ่งแต้มไปจากทีมจ่าฝูงได้หลังครบ 90 นาที

อันที่จริง จากสถิติที่ปรากฏ อาร์เซน่อล เล่นได้เหนือกว่า เบรนท์ฟอร์ด ลิบลับหลังจบเกมเนื่องจากเจ้าบ้านครองบอลได้เหนือกว่า 69:31% และเพิ่มจังหวะคลำเป้าได้มากขึ้นเป็น 23:9 ครั้ง พร้อมทั้งส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 7:2 ครั้ง แต่ลงเอยด้วยการคว้ามาได้แค่แต้มเดียว

5. เล็กๆไม่ ใหญ่ๆ เบรนท์ฟอร์ด ชอบ

ถึงตรงนี้ เดอะ บีส์ กลายเป็นทีมปราบบรรดายักษ์ใหญ่ของ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้อย่างเต็มตัวไปซะแล้วเนื่องจากพวกเขาเคยทำช็อกทั้งเปิดบ้านไล่อัด แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 แบ่งแต้มจาก เชลซี ได้ด้วยสกอร์ 0-0 รวมทั้งเจ๊ากับ สเปอร์ส 2-2 แถมขยี้ ลิเวอร์พูล มาแล้ว 3-1

กระทั่งมาวันนี้ พวกเขาทำแสบกับ อาร์เซน่อล เพิ่มอีกรายจนได้แม้ในเกมแรกที่ดวลกัน เดอะ กันเนอร์ส จะบุกไปถล่ม เดอะ บีส์ ถึงรัง 3-0 และมันทำให้พวกเขาไม่แพ้ในเกม พรีเมียร์ลีก ติดต่อกันสิบนัดแล้วซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในรายการนี้ของสโมสรด้วยโดยเป็นรอง นิวคาสเซิ่ล ทีมเดียวเท่านั้น (16นัด)

ขณะเดียวกัน จากการที่ทีมของ แฟร้งค์ เสมอกับจ่าฝูงนัดนี้มีสิทธิ์ทำให้โอกาสคว้าแชมป์ของทีม ปืนใหญ่ กระเทือนไม่น้อยเพราะหาก แมนฯ ซิตี้ เฝ้าบ้านคว่ำ แอสตัน วิลล่า ได้ในวันอาทิตย์ และบุกไปกำราบ อาร์เซน่อล ต่อได้อีกในวันพุธ ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเก็บแต้มได้ 51 แต้มเท่ากับทีมเมืองกรุงทันที แถมจะนำฝูงด้วยผลต่างประตูได้เสียด้วย แม้จะลงสนามมากกว่าก็ตาม