ใบแดงกาเซมีโร่!แมนยู10คนมีเสียวเปิดบ้านเชือดหวิวพาเลซแบบหืดขึ้นคอ

ผี10ตัวเฉือนเก็บชัย ! แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่องประตูที่ 2 ก่อนต้องเหลือ 10 คน หลัง กาเซมีโร่ โดนใบแดง น.68 เปิดบ้านเชือดหวิว คริสตัล พาเลซ แบบทำแฟนๆ หายใจไม่ทั่วท้อง เก็บ 3 แต้มได้แบบหืดจับ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566

แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 คริสตัล พาเลซ  

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด 

 แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำทีมของกุนซือ เอริค เทน ฮาก พาทีมเปิดบ้านทุบ ฟอเรสต์ ไป 2-0 ในเกมรองรอบชนะเลิศลีก คัพ นัดสอง พร้อมพาทีมเข้าไปชิงชนะเลิศ กับ นิวคาเซิ่ล ส่วนในลีก เพิ่งพลาดท่าแพ้ให้ อาร์เซน่อล มา 2-3 เกมนี้ เทน ฮาก จะไม่มี คริสเตียน เอริคเซ่น ที่พักยาว ด้าน มาร์เซล ซาบิตเซอร์ มีชื่อเป็นสำรองในเกมนี้ ส่วนแกนหลักคนอื่นอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, กาเซมีโร่, ราฟาแอล วาราน, ลุค ชอว์ และ ดาบิด เด เคอา ลงช่วยทีมเหมือนเดิม

 ทางฝั่ง คริสตัล พาเลซ ของกุนซือ ปาทริค วิเอร่า ไม่ชนะใครมา 5 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ ล่าสุดเปิดบ้านเสมอกับ นิวคาสเซิ่ล มาแบบไม่มีสกอร์ 0-0  จัดทัพจะมาในระบบ 4-2-3-1 ให้ บิเซนเต้ ไกวต้า เฝ้าเสา  มี จอร์แดน อายิว ยืนทำเกมรุก ส่วนหน้าเป็น อ็อดซอนน์ เอดูอาร์

เริ่มเกมมาเพียง 5 นาที แฟนๆในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้เฮกันก่อน เมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดบอลไปโดนแขน วิลล์ ฮิวส์ ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน อันเดร มาริเนอร์ เช็กวีเออาร์เรียบร้อยก่อนชี้เป็นจุดโทษให้ "ปีศาจแดง" ทันที

ก่อนนาทีที่ 7 บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะสังหารไม่พลาด พา แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านขึ้นนำไปก่อน 1-0

นาทีที่ 13 เจ้าถิ่นเกือบมีลุ้นอีกครั้ง เมื่อ เวาต์ เว็กฮอร์สต์ ได้กระโดดโหม่งในกรอบเขตโทษ บอลไม่แรง แต่ทิศทางย้อยเกือบเสียบตาข่าย ทำให้ บิเซนเต้ ไกวต้า ต้องกระโดดปัดไปอย่างหวุดหวิด

นาทีที่ 27 บรูโน่ แฟร์นันด์ส จ่ายบอลทะลุช่องให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งสอดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงยัดเสาแรก แต่ บิเซนเต้ ไกวต้า เฝ้าไว้อยู่แล้ว เลยปัดทิ้งไปได้อยู่

นาทีที่ 35 มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายบอลให้ เวาต์ เว็กฮอร์สต์ วิ่งสอดมาเปิดบอลริมเส้นหลังประตูให้ เฟร็ด เติมขึ้นมาสอดยิงเสาแรก แต่ดาวเตะบราซิเลียน แปเข้าหน้าต่างไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเปิดบ้านนำ คริสตัล พาเลซ อยู่ 1-0

เริ่มครึ่งหลังมา 10 นาที ปีศาจแดง ได้เสียวอีกครั้ง เมื่อ บรูโน่ วางบอลยาวให้  มาร์คัส แรชฟอร์ด เอาบอลลงในกรอบเขตโทษ ก่อนโยกยิงด้วยขวา แต่บอลโด่งข้ามคานออกหลังไปอีกครั้ง

นาทีที่ 63 แฟนๆ เจ้าถิ่นได้เฮกันอีกรอบ เมื่อ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่เพิ่งลงมา เลี้ยงพาบอลมาจ่ายออกข้างให้ ลุค ชอว์ เปิดกลับเข้ากลางให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด แปจ่อๆเปลี่ยนทางเข้าประตูมไม่เหลือ พา แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่าง 2-0 พร้อมทำประตูที่ 10 ในลีกให้ตัวเองเรียบร้อย

5 นาทีต่อมา จากจังหวะชุลมุนวุ่นวายระหว่าง อันโตนี่ กับ เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ทำให้นักเตะวิ่งเข้ามาห้ามทัพกันยกใหญ่ ก่อน 2 ตัวต้นเหตุจะรับใบเหลืองไป แต่หลังจาก อันเดร มาริเนอร์ เช็กวีเออาร์อีกรอบ พบว่า กาเซมีโร่ ทำท่าเหมือนไปบีบคอใส่ วิลล์ ฮิวส์ ทำให้ผู้ตัดสินย้อนมาเช็กใบแดงให้กับ กาเซมีโร่ ทำให้เจ้าถิ่นเหลือ 10 คน

นาทีที่76 แฟนๆทีมเยือน ได้เฮจนได้ เมื่อได้ลูกเตะมุม บอลเคลียร์มาเข้าทาง  เช็ค ดูกูเร่ วอลเลย์เก็บตก บอลแม้ไม่ต้องกรอบ แต่กลายไปเข้าทางปืน  เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ที่ยืนอยู่หน้าประตู ดีดเปลี่ยนทางเเข้าประตู พา คริสตัล พาเลซ ไล่มา 1-2

นาทีที่ 80 เอริก เทน ฮาก ทำการแก้เกมโดยส่ง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ลงมาแทน อันโตนี่ พร้อมเปลี่ยน 2 กองหลังอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ลงมาแทน อารอน วาน-บิสซาก้า และ อเลฮานโดร การ์นาโช่

ก่อนช่วงเวลาที่เหลือจะทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คนในครึ่งหลัง จึงเปิดบ้านเชือดหวิว คริสตัล พาเลซ ไปอย่างสนุก 2-1 เก็บ 3 แต้มได้แบบหืดจับ 

รายชื่อนักเตะตัวจริงของทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-3-3) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซาก้า (วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ น.87), ราฟาแอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์ - บรูโน่ แฟร์นันด์ส,กาเซมีโร่, เฟร็ด - อันโตนี่ (มาร์เซล ซาบิตเซอร์ น.80), มาร์คัส แรชฟอร์ด,เวาต์ เว็กฮอร์สต์ (อเลฮานโดร การ์นาโช่ น.60 (แฮร์รี่ แม็กไกวร์ น.87))

คริสตัล พาเลซ (4-2-3-1) : บิเซนเต้ ไกวต้า - เนธาเนียล ไคลน์, คริส ริชาร์ดส์, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิตเชลล์ - เช็ค ดูกูเร่ (นาอูรู อาฮามาด้า น.83), วิลล์ ฮิวส์ (อัลเบิร์ต โลกองก้า น.73)- ไมเคิ่ล โอลิเซ่, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ (ฌอง ฟิลิปป์ มาเตต้า น.83), จอร์แดน อายิว (เอแบร์เรกี้ เอเซ่ น.73) - อ็อดซอนน์ เอดูอาร์

ผู้ตัดสิน : อันเดร มาริเนอร์


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport