ผีแดงโดนแบ่งแต้ม !

ชั่วโมงนี้ แฟนแมนฯยูไนเต็ด น่าจะดูบอลทีมรักเล่นกันอย่างสบายใจ ทุกสิ่งอย่างในสนามเป็นไปในทิศทางที่ก้าวหน้าขึ้น

ก่อน เอริก เทน ฮาก ได้ทำงานแบบเต็มๆ ความสงสัยย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

แต่หลังจากทำงานไปสักระยะ เป้าหมายทอปโฟร์ ไม่ไกล เมื่อผ่านมาถึง 19 นัดหรือครึ่งฤดูกาล "ปีศาจแดง" ทำแต้มมาเกาะกลุ่มร่วมลุ้นแชมป์ด้วยแล้ว

ด้วยความสัตย์จริง.....ตามสถานะการณ์นะครับ แม้ว่าแฟนผีหลายท่านอาจไม่คิดถึงขนาดนั้น แต่ "ได้ลุ้นแชมป์" กับ "เป็นแชมป์" มันมีความต่างกันอยู่นะครับ

การเขียนว่าได้ลุ้นแชมป์ ก็เป็นไปตามสถานะการณ์ แต่ส่วนจะได้หรือไม่ได้ในบั้นปลายมันอีกเรื่องหนึ่ง

ก่อนเกมเยือนคริสตัล พาเลส ที่ถือว่าเป็น "ขนมกรุบ" ของเด็กผี โดยเฉพาะที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค นั้นอย่างแย่แค่เสียแต้ม โอกาสพลาดพลั้งเป็นไปได้ยาก คิดดูว่า พาเลส เจ้าถิ่นชนะ แมนฯยูฯ 1 ครั้งนับจากปี 1991 ซึ่งพึ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วในยุค ราล์ฟ รังนิก "โค้ชรักษาการ"

 เทน ฮาก ค่อยสร้างทีมของเขาจากส่วนประกอบที่มีอยู่เดิมและพยายามเติมเข้ามาใหม่ จากนัดที่5 ในลีกทีมของเขาค่อยไต่เพดานขึ้นมาจากอันดับ 5-6-7 จนขึ้นอันดับสี่ในสามนัดล่าสุดก่อนเจอพาเลส 

ยิ่งกว่านั้นชนะ 9 นัดติดต่อกันรวมทุกถ้วย...สถิติเท่ากับ โชเซ มูรินโญ ช่วง ธ.ค. 2016 ถึง ม.ค.2017 

กำลังขาขึ้นหรือช่วงมั่นใจ...ก็คงแบบนั้น เพียงแต่วิธีการเล่นนี้แหละพาพวกเขามาจนถึงจุดนี้ 

เกิดอะไรขึ้นบ้างที่เซลเฮิร์สท พาร์ค

1 พาเลส ขาลง

การที่ วิลฟรีด ซาฮา ยิงประตูไม่ได้มา5 นัด ติดต่อกัน หมายถึง พาเลส มีปัญหาเรื่องเกมรุกแน่นอน แล้วหากดูผลงานของ พาเลส ในห้าเกมหลังสุดคือแพ้ไป 4 โดยยิงประตูคู่แข่งไม่ได้สักลูก!!!!!

นั่นทำให้การปรับทีมต้องเกิดขึ้น ปาทริค วิเอรา ทำท่าว่าจะดีในปีแรก แต่มาตอนนี้วนไปวนมาอยู่กลางตารางเลยเลขสิบลงมา ตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวลใจมากนัก แต่การไม่ชนะใครในห้าเกมแถมยิงไม่ได้นี่คือ "ข้อควรระวัง" 

นี่ร้อนถึงแฟนๆพาเลส ต้องออกโรงมาเรียกร้องให้เปลี่ยนทีมบ้าง วิเอรา ถึงกับจัดให้วิล ฮิวจส์, คริส ริชาร์ด เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติสหรัฐ ที่ยืมมาจากบาเยิร์น มิวนิค ได้โอกาสลง เช่นเดียวกันกับ เอดูอาร์ 

เกมนี้ วิเอรา เล่นระบบ 4-2-3-1 ดูน่าจะลงตัวที่สุดเมื่อเป็นทีมรับก็ 4-5-1 ข้างหน้าใช้ มาเตตา เล่นหน้าเป้า มี ซาฮา, เอดูอาร์ และ โอลิเซ เป็นสามตัวรุก ดูกูเรกับ ฮิวจส์ คู่กลาง แบ๊กโฟร์ ไคลน์ (ยังเล่นอยู่) ริชาร์ดส์-เกฮี และ มิตเชลล ประตูก็ กวายาตา

3 เวกฮอร์สต 68 นาที

เวาต์ เวกฮอร์สต ได้โอกาสลงตัวจริง เท่ากับแผนหน้าเป้าของ เทน ฮาก ได้ทดสอบแล้ว อันโตนี, บรูโน และแรชฟอร์ด คือหน่วยสนับสนุนเกมรุก กาเซมิโร ยืนกับ เอริกเซน แบ๊กโฟร์นั้นส่ง มาร์ติเนส มายืนเซนเตอร์กับ วาราน และ ชอว์กลับไปแบ็กซ้ายเหมือนเดิม 

ผลสอบของ เวกฮอร์สท์ คือเล่นตามแทกติก เขาคือตัวเป้า ความขยันคือจุดเด่น การดึงคู่เซนเตอร์ทำให้ตัวอื่นมีที่ว่าง โดยเฉพาะ ประตูขึ้นนำจาก บรูโน นั้น เวกฮอร์สต ดึง ริชาร์ดส และ เกฮี ไปสองคน พื้นที่ว่างในเขตโทษเปิด ก่อนที่ เอริกเซน จะจัดแจ่มๆ ให้ บรูโน ที่ยืนว่าง ไม่มีใครประกบ หายหมดเลย ดูกูเร และ ฮิวจส์ ส่วนการจบสกอร์ก็มีเทคตัวขึ้นโหม่งข้ามคาน อยู่ในสนามชั่วโมงกว่าๆ 

4 ครึ่งแรกผีคุมเกม

สิ่งที่ เทน ฮาก มาสร้างรากฐานตอนนี้คือวิธีการเล่นตั้งแต่รับจนถึงรุก

เกมรับต้องรัดกุม แบ๊กโฟร์ ยืนสอดซ้อนกันดี ผิดพลาดส่วนตัวยาก โดยมี กาเซมิโร และ เอริกเซน รวมทั้งตัวข้าง พร้อมช่วยไล่แย่งบอล นั่นทำให้หยุดเกมรุกที่มีตัวเร็วๆของ พาเลส ได้

การบีบพื้นที่ หรือ  zonal pressing  คือค่อยขยับเข้าหานักเตะพาเลส พร้อมๆกัน ในหลายพื้นที่ของสนาม  ไม่ถึงไปจี้แย่งบอลถึงตัวมากนัก แค่ไล่บีบพื้นที่ไปเรื่อย จนทำให้นักเตะพาเลส ตกในวงล้อมนักเตะแมนฯยูฯ ต่อเนื่องในครึ่งแรก เรียกว่าแทบไม่มีเวลาคิดเล่นบอล หายใจหายคอไม่ทัน แล้วก็ส่งบอลเสีย หากเกิดขึ้นแดนสอง แมนฯยูฯ มีตัววางบอลแม่นๆ อย่าง บรูโน กับ เอริกเซน แล้วสวนกลับทันที เพราะหน้าเร็ว ทั้งสองฝั่ง โดยเวกฮอร์สต จัดการกับเซนเตอร์ได้อยู่แล้ว

นอกจากนี้ คู่เซนเตอร์ วาราน กับ มาร์ติเนส สลับกันประกบ มาเตตา สนิทเลย ชิงจังหวะเล่นก่อนหรือไม่ก็บีบให้ครองบอลยาก แล้วมักจะเสียบอลต่อเนื่อง เมื่อมองภาพรวมๆ คือการเล่นของผีแดงค่อนข้างจะแน่น ปึ้กหรือ  compact เอามากๆ

บอลถูกตัดตอนไม่ถึงแดนสาม พาเลส ไม่ได้ลุ้นเข้าไปยิงเลย 

แม้ว่าจังหวะเข้าไปยิงของแมนฯยูฯ อาจมีไม่มาก แต่การคุมเกมทั้งหมดเอาไว้กับมือเท่ากับรอโอกาส.....จนก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที การเล่นบอลด้านซ้ายสามคน แรชฟอร์ด ให้ เอริกเซน วิ่งทำทางเข้าเขตโทษ ก่อนตวัดให้ บรูโน ในเขตโทษ ยิงเข้าไป 

ก่อนได้ประตูนั้นเกือบเสียประตู จังหวะเอดูอาร์ ยิงเกือบมุดคาน แต่ เดเคอา ปัดทิ้งได้ นั่นคือโอกาสเดียวของพาเลสในครึ่งแรก

จุดโทษ มั้ย?

จังหวะริชาร์ดส เสียบแมคโทมิเนย…. ภาพช้าบอก ริชาร์ดส โดนบอลก่อน แค่ปลายสตั๊ด ตามกฏใหม่ นั่นแหละ กองหลังโดนบอลก่อน  

5 อยู่ที่ห้านาทีท้าย

โอเค แม้ครึ่งหลังแมนฯยูไนเต็ด ถอนมาต่ำกว่าครึ่งแรก พาเลส เจ้าบ้านพยายามบุกเข้าหา แต่พวกเขาก็ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำ อะไรขนาดนั้น เพียงแต่ว่าสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นคือเกมสวนกลับที่คมๆ 

เกมเป็นพาเลส ได้บุกและใช้ความเร็ว ความคล่อง ของแนวรุกทั้งหมด แม้เข้าไปยิงไม่ค่อยถนัดแต่สิ่งที่ พาเลสได้คือ "ฟรีคิก" ระยะหวังผล โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมนี้คืออาวุธเด็ด สุดท้ายแล้วนำไปสู่การได้ประตู ช่วงทดเวลาจาก โอลิเซห์ 

กำแพงน้อยไปมั้ย 3 คน...?

ผมว่าสามคนก็เพียงพอต่อการยืนปิดเสาแรกเพราะระยะฟรีคิกมันไกลแถมบีบให้ยิงได้แค่มุมเดียวคือซ้ายมือ เดเคอา ต้องแม่นจริงๆครับ อีกทั้ง โอลิเซห์ ยิงข้ามหัวได้ ต่อให้ยืน5 คนก็ไม่มีประโยชน์ อะไรตรงจุดนั้น

ที่นำไปสู่การเสียประตูคือ การตัดฟาวล์ ....

มันเกิดขึ้นเพราะบอลหลุดแดนสองมาอยู่เรื่อยๆ ตรงนี้คือจุดที่ เทน ฮาก ต้องปรับแก้ เพราะการเล่น โซน เพรสซิง มันดรอปลงจากครึ่งแรก ที่ว่างเกิดขึ้นบ่อย อีกทั้งพาเลส ไม่เสียบอลง่ายๆ บอลทะลุไปแดนสามเร็ว

ผลจบที่ 1-1 อย่างน่าเสียดายแค่ไม่กี่นาทีก็หมดเวลาแล้ว

นั้นทำให้ แมนฯยูไนเต็ดเสียแต้มครั้งแรกหลังจากขึ้นนำก่อน อีกทั้งยังไม่สามารถฉวยโอกาสแซง แมนฯซิตี้ ขึ้นไปอันดับสองจี้อาร์เซนอลได้ 

นี่ชนะรวดมา 9 นัดทุกรายการ มาหยุดที้เกมนี้ เอาจริงๆไม่มีอะไรต้องซีเรียส ถ้าว่ากันตามวิธีการเล่น...ผมคิดว่างานสร้างมันก็แบบนี้แหละครับ บอลขึ้นนำ น่าจะปิดเกมได้ แต่ก็มาพลาดเพราะฟรีคิกงามหยดย้อยของ โอลิเซห์ ปั่นเข้าสามเหลี่ยมบน

หลายเกมที่ขึ้นนำแล้ว ถอนไปรับแดนสอง ทำได้ มีเดเคอา ช่วยเซฟ และสามารถคุมผลแข่งขันได้ แต่การเสียฟรีคิกแบบนี้มันก็ว่าไม่ได้ครับ มันดีเกินไป

คราวนี้ไปเยือนอาร์เซนอลในวันอาทิตย์นี้....น่าสนใจ

กาเซมิโร โดนแบนจากใบเหลืองสะสมห้าใบ การจัดทัพของ เทน ฮาก จะทำอย่างไร เพื่อให้สมดุล 

แน่นอนปืนใหญ่พลาดท่าแพ้แมนฯยูฯ อยู่ทีมเดียวนั่นคือช่วงแรกของซีซั่น ที่เจอทีเด็ดสวนกลับ...เที่ยวนี้ มิเกล อาร์เตตา คงไม่ยอมแน่ๆ 

เกมแพลนที่เคยเบรก แมนฯซิตี้ ได้...ยิ่งต้องละเอียดเมื่อเจออาร์เซนอล ช่วงมั่นใจแบบนี้


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport