เด เคอา เซฟไม่เกรงใจใคร,ผีแต้มเท่าท็อปโฟร์! 5 ข้อ แมนยู เปิดรังต้อนนิ่ม บอร์นมัธ

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสร้างผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องเมื่อเปิดบ้านสยบ บอร์นมัธ ได้ตามความคาดหมาย 3-0 จากการฟาดแข้งฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอังคารที่ 3 ม.ค.

นอกจากจะเก็บคลีนชีตได้สำเร็จอีกตามเคย ผีแดง ยังสะสมแต้มขึ้นมาทาบเท่ากับ นิวคาสเซิ่ล ทีมอันดับสุดท้ายในพื้นที่ท็อปโฟร์แล้ว แถมลงเล่นน้อยกว่า สาลิกาดง หนึ่งเกมซะด้วย แม้ผลต่างประตูได้เสียจะยังเป็นรอง เดอะ แม็กพายส์ มากพอดูก็ตาม

1. เซอร์ไพรส์! เจ้าถิ่นส่ง แม็กไกวร์-ลินเดอเลิฟ คุมหลังบ้าน


เอริค เทน ฮาก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจโรเตชั่นนักเตะสี่รายจากเกมบุกไปคว่ำ วูล์ฟส์ 1-0 เมื่อนัดก่อน

ในจำนวนนี้มีบิ๊กเซอร์ไพรส์เนื่องจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมกลับมาลงเล่นเป็น 11 คนแรกร่วมกับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ทำให้ ลุค ชอว์ กลับไปสวมบทแบ็คซ้ายตามเดิมแทนที่ ไทเรลล์ มาลาเซีย

เท่านั้นไม่พอ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริงด้วยแม้ผลงานเท่าที่ผ่านมาจะยังไม่เอาอ่าว อีกทั้ง ผีแดง ไม่เคยชนะเกม พรีเมียร์ลีก ในรังตัวเองเลยหากส่งมิดฟิลด์ดัตช์ลงเล่นเป็น 11 คนแรก ขณะที่ อันโตนี่ หายไปจากทีมเนื่องจากบาดเจ็บ

แต่สำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งตกเป็นตัวสำรองนัดก่อนเนื่องจากไร้วินัยกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงอีกหนแทนที่ อเลฮนโดร มาร์ติเนซ หลังสวมบทฮีโร่พังประตูพาทีมบุกพิชิต หมาป่า

ขณะเดียวกัน เมื่อเหลียวไปดูรายชื่อตัวสำรองที่ข้างสนามของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ชวนให้อุ่นใจไม่น้อยเนื่องจาก ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลัง แชมป์โลก มีชื่อนั่งอยู่ในซุ้มร่วมกับ ราฟาแอล วาราน ที่เกมนี้ได้พัก อีกทั้ง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็พร้อมถูกเรียกใช้งานเช่นเดียวกับ ดีโอโก้ ดาโลต์

2. เกมที่ 510 ของ เดฟ


แม้จะมีข่าวลือจ่อโดนลอยแพ แต่มาวันนี้ ดาบิด เด เคอา เฝ้าเสาให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทุกรายการเป็นเกมที่ 510 แล้ว

ต่อตัวเลขดังกล่าว ทำให้มือกาว สแปนิช ลงเล่นให้สโมสรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 10 ร่วมกับ โจ สเปนซ์

ไรอัน กิ๊กส์   963

เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน   758

พอล สโคลส์   718

บิลล์ ฟอล์คส์   688

แกรี่ เนวิลล์   602

เวย์น รูนีย์   559

อเล็กซ์ สเตปนีย์  539

โทนี่ ดันน์  535

เดนิส เออร์วิ่น   529

โจ สเปนซ์ , ดาบิด เด เคอา   510

3. เดอะ เชอร์รีส์ เปลี่ยนทีมสองตำแหน่ง

บอร์นมัธ ของกุนซือ แกรี่ โอนีล เปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงสองรายจากเกมแพ้ คริสตัล พาเลซ คารัง 2-0 เมื่อวันเสาร์บุกมาเยือน โรงละครแห่งความฝัน

นายใหญ่ เดอะ เชอร์รีส์ ตัดสินใจส่ง คริส เมปแฮม กับ ไรอัน คริสตี้ ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน จอร์แดน เซมูร่า กับ คีฟเฟอร์ มัวร์ ด้วยหวังเบรกไม่ให้ทีมแพ้ในลีกสามนัดติดต่อกัน หรือสี่นัดรวดในทุกรายการ

ถึงอย่างนั้น ในซุ้มม้านั่งสำรองของทีมเยือนมีอดีตเด็กปั้นของ ผีแดง รวมสองรายทั้ง เบน จอห์นสัน กับ โจ ร็อธเวลล์ แม้ทั้งคู่จะไม่เคยลงบู๊ให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรเลยก็ตามโดยรายหลังเคยนั่งข้างสนามหนึ่งนัดในเกมลีกเปิดรังชนะ วัตฟอร์ด 1-0 เมื่อปี 2016 ในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล แต่ไม่ถูกเปลี่ยนตัวลงเล่น

4. ครึ่งแรกที่จืดชืด


แม้ตามชื่อชั้น บอร์นมัธ จะด้อยกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เยอะ และเสียประตูให้กับ กาเซมีโร่ จนได้ แต่จากภาพรวมของเกม ผีแดง ไม่ถึงกับกดดันอาคันตุกะได้อย่างมากมายอะไรทั้งๆที่ทีมของ โอนีล เสียประตูมากที่สุดในลีกซีซั่นนี้

จากเปอร์เซนต์การครองบอลที่เหนือกว่า 63:37% ผีแดง ได้ส่องยิง 5 ครั้ง และเข้ากรอบหนเดียวที่เป็นประตูของดาวเตะทีมชาติ บราซิล ขณะที่ เดอะ เชอร์รีส์ ได้ลองเข่น 2 หน แต่ไม่เข้ากรอบ

อย่างไรก็ดี หลังตาข่ายขาด บอร์นมัธ ก็เปิดเกมรุกสู้ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีโอกาสพาบอลบุกเข้าแดนอันตรายของเจ้าบ้านมากขึ้นเป็นลำดับแม้จะหาทางทวงสกอร์คืนไม่สำเร็จก่อนที่เกมจะจบลงโดยที่ไม่ถึงกับมีความตื่นเต้นมากมายอะไร

แต่ที่แน่ๆ สกอร์ที่เป็นรอง 1-0 ทำให้ เดอะ เชอร์รีส์ ส่อแววกลับบ้านด้วยความปราชัยค่อนข้างแน่เนื่องจากพวกเขาแพ้ในเกมเยือนของ พรีเมียร์ลีก มากถึง 44 จาก 47 นัดหากโดนเจ้าบ้านสอยประตูนำก่อน แม้อีกสามนัดพวกเขาจะพลิกกลับมากำชัยได้ก็ตาม

5.ครึ่งหลัง เทน ฮาก สั่งลุย


หลังจากนำหน้าทีมรองบ่อนแค่ประตูเดียว กลับสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เน้นเดินหน้าหนักขึ้นกว่าเก่าหมายยิงประตูให้ขาดลอยมากขึ้น

และในที่สุดก็เป็นผลตั้งแต่ต้นเกมจากประตูของ ชอว์ ซึ่งแม้นับจากนั้น เดอะ เชอร์รีส์ จะทำเกมบุกสู้ได้ไม่เลว แต่ เด เคอา ยังเป็นที่พึ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เสมอจากจังหวะเซฟลูกยากสองสามครั้ง

กระทั่งท้ายเกม แรชฟอร์ด มาทำสกอร์เพิ่มให้ตัวเองได้อีกซึ่งทำให้เขาเป็นนักเตะ ผีแดง คนแรกที่ยิงได้ในเกมเหย้าหกนัดติดต่อกันในทุกรายการต่อจากที่ เวย์น รูนีย์ ซัดได้เจ็ดนัดรวดระหว่างเดือนก.พ.-เม.ย.2012

พร้อมกันนี้ จากภาพรวมมันฟ้องให้เห็นว่า ผีแดง มีขุมกำลังในเชิงลึกที่น่าพอใจในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งกุนซือดัตช์สร้างผลงานคุมทีมได้ดีอย่างต่อเนื่องด้วยจนส่งผลให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตนายใหญ่ที่เข้ามาดูเกมเป็นประจำกลับมามีรอยยิ้มอีกรอบหลังจากหลายปีที่ผ่านมาป๋ามีอันต้องหน้านิ่วคิ้งขมวดที่ต้องทนเห็นฟอร์มอันเลวร้ายของทีมอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีก

ขณะเดียวกัน จะว่าไปแล้ว บอร์นมัธ น่าจะได้ประตูติดมือกลับไปซักเม็ดเป็นอย่างน้อย แต่ให้น่าเสียดายสำหรับพวกเขาที่เกมนี้ เด เคอา กลับมาผีเข้าเต็มตัว และเซฟลูกยิงได้เรียบวุธพาทีมเก็บคลีนชีตได้เป็นนัดที่สี่ติดต่อกัน ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำชัยใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นนัดที่เจ็ดติดต่อกันด้วย

หลังจบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้ตกลงไป 59:41% แต่ได้ประตูตอบแทนเพิ่มอีกสองเม็ดจากโอกาสสับไกรวม 18 ครั้งที่เข้ากรอบ 6 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ส่องยิงทั้งหมด 7 ครั้ง และเข้ากรอบ 4 ครั้งซึ่งชัดเจนว่าเป็นสถิติที่ดีขึ้นเช่นกัน แต่เผอิญว่า เด เคอา คว้าคลีนชีตได้สำเร็จ

จนถึงขณะนี้ บอร์นมัธ จึงไม่มีคลีนชีตในเกมเยือน พรีเมียร์ลีก 19 นัดแล้ว (ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 15) และเสียไปแล้ว 52 ประตู

ด้าน โอนีล ซึ่งคุมทีมลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก หกนัดแรกไม่แพ้ใคร (ชนะ 2 เสมอ 4) ถึงตอนนี้เขาพาทีมพ่าย 7 จาก 8 นัดหลังแล้ว (ชนะ 1)


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport