ลุ้นเฮ4เกมติด! ลิเวอร์พูล กำลังคึก "นูนเญซ" ตัวจริงลุ้นยิง เลสเตอร์

"หงส์แดง" ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ในช่วงกำลังมั่นใจในลีกเฮมา 3 เกมติดแถมพึ่งได้ โคดี้ กัคโป มาเป็นสมาชิกใหม่ความพร้อมไร้ปัญหาเพิ่มเติมวาง ดาร์วิน นูนเญซ เป็นตัวทีเด็ด ต้อนรับ เลสเตอร์ ทีมอันดับ 13 ที่มีปัญหาไม่น้อยในการจัดทัพ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันศุกร์ที่ 30 ธันวาคมนี้

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 18

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2565

ลิเวอร์พูล (6) - เลสเตอร์ (13)

เวลา : 03.00 น. ถ่ายทอดสด : ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 1

สนาม : แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล ชนะมา 3 เกมติดต่อกันในลีกหลังจากที่บุกไปเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้เจ้าบ้านมี 25 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 15 เกมในฤดูกาลนี้ โดยมีแต้มตามหลัง สเปอร์ส ทีมอันดับที่ 4 อยู่ 5 แต้ม แต่ หงส์แดง แข่งน้อยกว่าอยู่ 1 เกม 

ความพร้อมในเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน เพิ่งได้ตัว โคดี้ กัคโป มาเป็นสมาชิกใหม่โดยจะย้ายมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคมนี้ แถมมีข่าวดีคือ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กลับมาฝึกซ้อมกับทีมแล้วหลังจากที่พา ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ 

อย่างไรก็ตาม เร้ด แมชีน ยังคงไม่สามารถใช้งาน เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์, อาร์ตูร์ เมโล่, ดีโอโก้ โชต้า, หลุยส์ ดิอาซ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ยังคงมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน 

ส่วนการจัดทัพคาดว่า คล็อปป์ จะมาในระบบ 4-3-3 โดยที่ ดาร์วิน นูนเญซ จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ขนาบข้างในพื้นที่ริมเส้นขวา-ซ้ายตามลำดับ 

ขณะที่ในแดนกลางเป็นหน้าที่ของ ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ฟาบินโญ่ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ คอยเดินเกม ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา 

เลสเตอร์ แพ้เป็นเกมแรกในรอบ 6 เกมรวมทุกรายการหลังจากที่เปิดบ้านพ่ายให้กับ นิวคาสเซิ่ล 0-3 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ทีมเยือนมี 17 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 16 เกมในฤดูกาลนี้ โดยมีแต้มทิ้งห่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมอันดับที่ 18 อยู่ 4 แต้ม

สภาพทีมในเกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือ จะไม่สามารถใช้งาน เดนนิส ปราต ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บจากเกมกับ สาลิกาดง รวมไปถึง เจมส์ แมดดิสัน, ไรอัน เบอร์ทรานด์, ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เจมส์ จัสติน และ จอนนี่ อีแวนส์ ที่อยู่ในระหว่างการพักรักษาตัวจากโรคเดี้ยงเช่นกัน

ส่วนการจัดทัพคาดว่า ร็อดเจอร์ส จะมาในระบบ 4-2-3-1 โดยที่ เจมี่ วาร์ดี้ จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมี อโยเซ่ เปเรซ, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ปั้นเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง 

ขณะที่ในแดนกลางเป็นหน้าที่ของ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ และ ยูริ ตีเลอมันส์ คอยเดินเกม ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์ และ เว้าท์ ฟาส คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง แดนนี่ วอร์ด ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา 

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ติอาโก้ อัลคันตาร่า, ฟาบินโญ่, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่

เลสเตอร์ (4-2-3-1) : แดนนี่ วอร์ด - ทิโมธี กาสตาญ, ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์, เว้าท์ ฟาส, ลุค โธมัส - วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอมันส์ - อโยเซ่ เปเรซ, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เจมี่ วาร์ดี้

ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด

วัน/เดือน/ปี รายการ    ผลการแข่งขัน

11/02/22    พรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูล2 - 0เลสเตอร์

29/12/21    พรีเมียร์ลีกเลสเตอร์1 - 0ลิเวอร์พูล

23/12/21    ลีก คัพลิเวอร์พูล 3 - 3 เลสเตอร์

13/02/21    พรีเมียร์ลีกเลสเตอร์3 - 1ลิเวอร์พูล

23/11/20    พรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูล3 - 0เลสเตอร์

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ลิเวอร์พูล 

26/12/22 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

21/12/22 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 2-3 (เยือน) ลีก คัพ

16/12/22 ชนะ เอซี มิลาน 4-1 (สนามกลาง) ดูไบ ซูเปอร์ คัพ

11/12/22 แพ้ โอลิมปิก ลียง 1-3 (สนามกลาง) ดูไบ ซูเปอร์ คัพ

12/11/22 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

เลสเตอร์

26/12/22 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

20/12/22 ชนะ เอ็มเค ดอนส์ 3-0 (เยือน) ลีก คัพ

10/12/22 เสมอ ทรัวส์ 0-0 (สนามกลาง) กระชับมิตร 

12/11/22 ชนะ เวสต์แฮม 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

08/11/22 ชนะ นิวพอร์ท 3-0 (เหย้า) ลีก คัพ


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport