ชวด กัคโป แล้วไง,แรชฟอร์ด ทาบรัศมี คันโตน่า - 5 ประเด็น แมนยู ไล่ทุบ ฟอเรสต์

แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก หลังทำเอาแฟนบอลหัวเสียต่อข่าวการชวดคว้าตัว โคดี้ กัคโป ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับ ฟอเรสต์ ในเกมการฟาดแข้งที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอังคารที่ 27 ธ.ค.

จากอันดับตาราง และศักยภาพของ เจ้าป่า แน่นอนว่าทีมของ สตีฟ คูเปอร์ ไม่อาจเทียบกับ ปีศาจแดง ได้ และพ่ายไปด้วยสกอร์ 3-0 แต่อย่างน้อยผลลัพธ์ที่น่าประทับใจก็เหมือนเป็นการปลอบขวัญให้กองเชียร์เจ้าบ้านได้ชุ่มชื่นหัวใจต่อการถูก ลิเวอร์พูล ทีมคู่แค้นฉกปีกทีมชาติ ฮอลแลนด์ ไปต่อหน้าต่อตา

1. เจ้าถิ่นยังไร้ มาร์ติเนซ ส่ง ชอว์ สวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับโผตัวจริงรวมสี่รายจากเกม คาราบาวคัพ รอบสี่ที่เปิดบ้านพิชิต เบิร์นลีย์ 2-0 โดยยังไม่มี ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังทีม แชมป์โลก อาร์เจนติน่า กลับมารายงานตัวกับสโมสร รวมถึง เจดอน ซานโช่ ที่ยังไม่มีส่วนร่วมหลังฟอร์มออกทะเลชนิดกู่ไม่กลับ

อย่างไรก็ดี ที่น่าสนใจคือ ลุค ชอว์ ได้สวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็นร่วมกับ ราฟาแอล วาราน หลังจากเกมฟุตบอลถ้วย เอริค เทน ฮาก ใช้งาน กาเซมีโร่ คุมหลังบ้านคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่เกมนี้หายหน้าไปเนื่องจากป่วยเช่นเดียวกับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ขณะที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ป่วยอีกรายมีชื่อนั่งข้างสนาม

นอกจากนี้ ดาบิด เด เคอา ได้กลับมาเฝ้าเสาแทน มาร์ติน ดูบราฟก้า โดยที่ ทอม ฮีตัน มีชื่อเป็นนายทวารตัวสำรอง

2. ลินการ์ด นำทัพ เจ้าป่า เหยียบถิ่นเก่า

สำหรับ ฟอเรสต์ เจสซี่ ลินการ์ด อดีตกองกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด นำทีมกลับมาเยือนรังเก่าเป็นหนแรกนับตั้งแต่อำลา โรงละครแห่งความฝัน แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารที่ย้ายออกไปแบบยืมตัวลงเล่นเกมนี้ไม่ได้ตามกฏ ทำให้ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ได้เฝ้าตาข่าย

รวมทั้งสิ้น  คูเปอร์ ปรับทัพสามรายจากเกม คาราบาวคัพ รอบสี่ที่บุกไปถล่ม แบล็คเบิร์น 4-1 โดยอีกสองรายได้แก่ แซร์จ ออริเยร์ แบ็คขวาที่หายเจ็บน่องได้ลงเล่นแทน เนโก วิลเลี่ยมส์ รวมถึง เรนาน โลดี้ ที่รับบทแบ็คซ้ายแทน แฮร์รี่ ท๊อฟโฟโล่

3.แรชฟอร์ด คืนร่างทองเต็มร้อย

หลังจากกดดัน เจ้าป่า นาน 19 นาที ในที่สุด ผีแดง ก็ออกนำ 1-0 จากฝีเท้าของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งเป็นลูกซ้อมอย่างชัดเจนเนื่องจาก คริสเตียน เอริคเซ่น เตะมุมเรียดจากด้านขวาเข้าเขตโทษให้สตาร์ทีมชาติ อังกฤษ ปราดมาที่จุดนับพบก่อนสับไกระยะ 12 หลาเข้าประตูชนิดที่ขุนพลทีมเยือนได้แต่ยืนนิ่งโดยไม่คาดคิด

ถึงขณะนี้ แรชฟอร์ด ซัดประตูในเกมลีกซีซั่นนี้ได้ 5 เม็ดแล้ว และทำให้เขาสอยตาข่ายใน พรีเมียร์ลีก ให้สโมสรได้เป็นประตูที่ 64 เทียบเท่ากับ เอริค คันโตน่า ตำนานกองหน้าคนดังได้สำเร็จ

เท่านั้นไม่พอ ขยับมาอีกสามนาที ดาวเตะอิงลิชยังแอสซิสต์ให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กดเม็ดสองให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทิ้งห่างอย่างรวดเร็วอีกต่างหากโดยเป็นประตูที่สามในซีซั่นนี้ของหัวหอกเลือดน้ำหอมแม้จะว่าไปประตูนี้ เฮนเนสซีย์ น่าจะเซฟได้ก็ตามโดยถึงช่วงนี้ ฟอเรสต์ ยังไม่มีโอกาสส่องยิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ขณะที่เจ้าบ้านได้กระทุ้ง 5 ครั้ง และเข้ากรอบ 3 ครั้ง

ขณะเดียวกัน หากจะนับรวมทุกรายการ แรชฟอร์ด กระทุ้งประตูได้ 10 ลูกแล้วจาก 21 นัดซึ่งเป็นผลงานที่เหนือกว่าจากที่เขาทำได้ตลอดซีซั่นก่อนเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวที่ตัวเลข 5 ประตูจาก 32 นัด

4.ฟอเรสต์ สู้ได้ดีหวิดมีเฮท้ายครึ่งแรก

หลังโดนเจาะตาข่ายไปสองเม็ด ฟอเรสต์ ก็เริ่มฮึดสู้ และบุกกดดัน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างอันตรายชนิดที่ทำเอา ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงเซฟ

กระทั่งล่วงเข้าสู่ท้ายครึ่งแรก จากลูกฟรีคิกที่ถูกโยนเข้าเขตโทษทีมเจ้าบ้าน ไรอัน เยตส์ ก็โดดโขกตุงตาข่าย แต่โชคร้ายที่บอลไปสะกิดเท้า วิลลี่ โบลีย์ ที่ยืนล้ำหน้าอยู่เข้าประตูจึงต้องมีการเช็ควีเออาร์

ต่อจังหวะนี้ เป็นอันเคลียร์ว่า เยตส์ ไม่ได้แฮนด์บอลแม้จะยกแขนขึ้นมาเนื่องจากบอลโดนศีรษะของเขา แต่กลายเป็นว่า เจ้าป่า ชวดได้ประตูจากจังหวะล้ำหน้าซึ่งหากทีมเยือนตีไข่แตกได้ก็น่าจะทำให้เกมในครึ่งหลังน่าดูชมมากขึ้น

หลังจบ 45 นาทีแรก แม้ ผีแดง จะครองบอลได้มากถึง 70:30% แต่ในแง่ของการมีลุ้นทำประตู ทีมของ คูเปอร์ ยกระดับขึ้นมาได้เนื่องจากได้ส่องยิง 2 ครั้ง และโดน เด เคอา เซฟได้หนึ่งครั้ง ขณะที่ทีมเจ้าบ้านได้ยิงรวม 6 ครั้ง และเข้ากรอบ 3 ครั้ง

5. ผีแดง สบโอกาสสร้างผลงานดีต่อเนื่อง

โบราณว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก และหลังจากกำชัยเหนือ ฟอเรสต์ ได้สำเร็จ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีโอกาสสร้างผลงานในเชิงบวกเพิ่มเติมอีกเมื่อมองถึงโปรแกรมถัดจากนี้ไปของพวกเขา

สำหรับเกมต่อไป แมนฯ ยูไนเต็ด จะลงบู๊ในวันส่งท้ายปีเก่าด้วยการบุกไปเยือน วูล์ฟส์ และกลับมาเปิดบ้านบู๊กับ บอร์นมัธ ก่อนลงเล่นถ้วย เอฟเอคัพ รอบสาม และ คาราบาวคัพ รอบแปดทีม กับ เอฟเวอร์ตัน และ ชาร์ลตัน ตามลำดับ

แต่จากนั้น ผีแดง จะเจองานช้างในลีกติดต่อกันทั้งสองนัดด้วยการปะทะกับทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล ซึ่งแน่นอนว่า เทน ฮาก จะต้องพยายามพาทีมสะสมแต้มในลีกให้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก่อนต้องราวีกับทั้ง เรือใบ และ ปืนโต เนื่องจากไม่ใช่เรื่องง่ายแน่กับการพยายามคว้าหกแต้มเต็มจากสองเกมบิ๊กแมตช์ที่ว่านี้

31 ธ.ค. วูล์ฟส์ - แมนฯ ยูไนเต็ด

3 ม.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด - บอร์นมัธ

6 ม.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด - เอฟเวอร์ตัน (เอฟเอคัพ)

10 ม.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด - ชาร์ลตัน (คาราบาวคัพ) 

14 ม.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด - แมนฯ ซิตี้

22 ม.ค. อาร์เซน่อล - แมนฯ ยูไนเต็ด

จะอย่างไรก็ตาม ที่แน่ๆเกมสยบ ฟอเรสต์ กาเซมีโร่ โชว์ฟอร์มสมกับตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อย่างแท้จริงจากสถิติดังนี้

แอสซิสต์ : 1

สร้างโอกาส : 3

สัมผัสบอล : 104

ผ่านบอลโดยรวม : 87

ผ่านบอลแม่นยำ : 85%

ชนะดวลตัวต่อตัว : 7/10

เข้าปะทะ : 5

ดักบอล : 2

เคลียร์บอล : 3


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport